คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาและการพิสูจน์เจตนาทุจริต
มีเจตนาทุจริตหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ป.พ.พ. มาตรา 185 เป็นบทบัญญัติเรื่องการขยายอายุความที่จะสิ้นสุดลงในระหว่างเป็นสามีภริยากันอยู่ให้ขยายต่อไปอีก 1 ปีไม่ใช่เป็นเรื่องว่าถ้าทรัพย์ระหว่างสามีภริยาตกอยู่แก่ฝ่ายใดเกิน 1 ปีแล้ว ฝ่ายนั้นจะได้กรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาที่จะต้องแบ่งตาม ป.พ.พ. ม.1512 นั้นไม่มีกำหนดเวลาระบุไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตาม ม.164.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนและรางวัลจากค่าปรับหรือการขายทอดตลาดของกลางในคดีลักลอบนำเข้าสินค้า
กฎหมายมาตรานี้ได้บัญญัติเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและรางวัลไว้ว่า ให้แบ่งจ่ายจากค่าปรับสี่ส่วนในห้า ถ้าผู้กระทำผิดถูกลงโทษปรับแล้วไม่ชำระค่าปรับ จึงให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดของกลางแต่ถ้าผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกลงโทษปรับโดยถูกลงโทษจำคุกสถานเดียว ก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นเงินค่าสินบนและรางวัลให้แก่ผู้นำจับและผู้จับได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับในคดีปรับ หากศาลลงโทษจำคุกสถานเดียว สิทธิการได้รับสินบนย่อมตกไป
กฎหมายมาตรานี้ได้บัญญัติเกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนและรางวัลไว้ว่าให้แบ่งจ่ายจากค่าปรับสี่ส่วนในห้าถ้าผู้กระทำผิดถูกลงโทษปรับแล้วไม่ชำระค่าปรับจึงให้จ่ายจากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดของกลางแต่ถ้าผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกลงโทษปรับโดยถูกลงโทษจำคุกสถานเดียวก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นเงินค่าสินบนและรางวัลให้แก่ผู้นำจับและผู้จับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนและรางวัลผู้นำจับเมื่อศาลลงโทษจำคุก โดยไม่มีการปรับ
การจ่ายเงินสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตามพ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3)2490 มาตรา 3 นั้น ถ้าศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียว แม้จะได้ประมูลขายของกลางที่ถูกริบเป็นเงินมาแล้วก็ตามก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินค่าสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับได้เพราะผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกปรับก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นค่าสินบนและรางวัลให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนและรางวัลจากค่าปรับหรือเงินจากการประมูลของกลาง ต้องมีคำพิพากษาลงโทษปรับก่อน จึงจะคำนวณจ่ายได้
การจ่ายเงินสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับตาม พ.ร.บ. ควบคุมการส่งออกไปนอกและนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง(ฉบับที่ 3) 2490 มาตรา 3 นั้น ถ้าศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียว แม้จะได้ประมูลขายของกลางที่ถูกริบเป็นเงินมาแล้วก็ตาม ก็ไม่มีทางที่จะสั่งจ่ายเงินค่าสินบนและรางวัลแก่ผู้นำจับและผู้จับได้ เพราะผู้กระทำผิดไม่ได้ถูกปรับก็ไม่มีทางจะคำนวณแบ่งส่วนมาจ่ายเป็นค่าสินบนและรางวัลให้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างนิติกรรมโมฆียะเฉพาะสามีเมื่อภรรยามีส่วนร่วมในสินบริคณห์
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรม, เหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วย ป.พ.พ.มาตรา 137 วรรค 2 จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้ และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน ม.137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมในนิติกรรมเกี่ยวกับสินบริคณห์: สามีมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว
กฎหมายไม่ได้ห้ามหญิงมีสามีไม่ให้ทำนิติกรรมเหตุที่กฎหมายบัญญัติให้นิติกรรมเป็นโมฆียะก็เฉพาะที่จะผูกพันสินบริคณห์ ซึ่งสามีมีส่วนได้เสียร่วมอยู่ด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 137 วรรคสอง จึงบัญญัติให้สามีมีสิทธิบอกล้างได้และเป็นสิทธิเฉพาะสามีที่จะบอกล้างคนเดียวเท่านั้น เพราะหญิงมีสามีไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 137 วรรคต้น ตัวหญิงเองจึงไม่มีสิทธิบอกล้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมจำหน่ายทรัพย์สิน: สิทธิจำหน่ายเฉพาะส่วนตน และผลของการซื้อจากเจ้าของร่วมโดยไม่ได้รับความยินยอม
การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งมีชื่อเป็นผู้เสียอากรค่านาหรือเงินค่าบำรุงท้องที่นั้น ต้องถือว่าเสียในนามของเจ้าของร่วม
ผู้ที่ซื้อที่ดินทั้งหมดจากเจ้าของร่วมคนหนึ่ง แม้การซื้อขายจะทำต่ออำเภอและเสียค่าตอบแทนก็ดี ก็ไม่เกิด ภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์ เพราะเจ้าของร่วมมีสิทธิ จำหน่ายแต่เฉพาะส่วนของตน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมและการซื้อขายที่ดิน: การซื้อขายเฉพาะส่วนของเจ้าของร่วมไม่ผูกพันทรัพย์ทั้งหมด
การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งมีชื่อเป็นผู้เสียอากรค่านาหรือเงินค่าบำรุงท้องที่นั้น ต้องถือว่าเสียในนามของเจ้าของร่วม
ผู้ที่ซื้อที่ดินทั้งหมดจากเจ้าของร่วมคนหนึ่งแม้การซื้อขายจะทำต่ออำเภอและเสียค่าตอบแทนก็ดี ก็ไม่เกิดภาระติดพันแก่ตัวทรัพย์เพราะเจ้าของร่วมมีสิทธิ จำหน่ายแต่เฉพาะส่วนของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความเจตนาในการแบ่งทรัพย์มรดก การประมูลทรัพย์สินต้องทำก่อนการชำระเงินค่าหุ้น
คำขอท้ายฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์ของหุ้นส่วนที่มีข้อความว่า 'ขอได้โปรดแบ่งที่ดินพร้อมด้วยโรงสีและห้องแถว.......... ให้เป็นของโจทก์ 1 ส่วนเป็นเงิน 40,000 บาทโดยวิธีประมูลหรือขายทอดตลาด'นั้นมิได้หมายความว่าโจทก์ต้องการเงินค่าทรัพย์สินเพียง 40,000 เท่านั้นการตั้งทุนทรัพย์มาเป็นแต่เพียงเพื่อเสียค่าขึ้นศาล ส่วนการแบ่งทรัพย์ถ้าไม่ตกลงกันต้องประมูลหรือขายทอดตลาด
of 153