คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: แม้ประเด็นต่างกัน หากเหตุฟ้องร้องเดียวกัน คดีถึงที่สุดแล้ว ห้ามฟ้องซ้ำ
คดีจะเป็นฟ้องซ้ำนั้นตาม ม.148 วางหลักสำคัญไว้ว่าคู่ความเดียวกันอย่างหนึ่ง ได้ฟ้องร้องกันจนคดีดึงที่สุดแล้วอย่างหนึ่ง เหตุแห่งการฟ้องร้องเป็นอันเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง ต้องห้ามมิให้รื้อฟื้นร้องฟ้องกันอีก
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้ก็เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดี แต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือ จำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง (ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้าม เพราะเป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: แม้ประเด็นต่างกัน หากเหตุฟ้องร้องเป็นเดียวกัน (ผิดสัญญา) และเคยขอสงวนสิทธิไว้แล้ว ถือเป็นฟ้องซ้ำตามมาตรา 148
คดีจะเป็นฟ้องซ้ำนั้นตาม มาตรา148 วางหลักสำคัญไว้ว่าคู่ความเดียวกันอย่างหนึ่ง ได้ฟ้องร้องกันจนคดีถึงที่สุดแล้วอย่างหนึ่งเหตุแห่งการฟ้องร้องเป็นอันเดียวกันอีกอย่างหนึ่ง ต้องห้ามมิให้รื้อฟื้นร้องฟ้องกันอีก
เมื่อปรากฏว่าคดีเรื่องก่อนเป็นคู่ความเดียวกันกับคดีนี้และได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแม้ประเด็นในคดีเรื่องก่อนจะเป็นการให้คืนหนองน้ำ ส่วนคดีเรื่องนี้เป็นการใช้ค่าเสียหายก็ดีแต่ก็คงรวมอยู่ในเหตุแห่งการฟ้องร้องอย่างเดียวกันคือจำเลยที่ 1 ประพฤติผิดสัญญานั่นเอง(ทั้งคดีก่อนศาลก็ไม่ได้ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายใหม่ดังที่ได้ขอไว้) ดังนั้นการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้จึงต้องห้ามเพราะเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองและทรัพย์สิน: โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดเพื่อป้องกัน
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองและการป้องกันทรัพย์สิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด แม้จำเลยจะให้การภาคเสธ
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลยๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์และการเสียค่าธรรมเนียม: กรอบเวลาและผลกระทบทางกฎหมาย
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำขอว่าความอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นแต่คำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้.เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 232 แล้วโจทก์จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ตาม มาตรา 234อุทธรณ์คำสั่งฉบับแรกของโจทก์แม้จะยื่นภายในอายุความแต่โจทก์หาเสียค่าธรรมเนียมมาไม่ ย่อมถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบส่วนอุทธรณ์คำสั่งฉบับที่ 2 ซึ่งโจทก์เสียค่าธรรมเนียมมาแล้วแม้จะถือเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ แต่ก็ยื่นเกิน 10 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้วคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุด โจทก์อุทธรณ์ต่อไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ และการยื่นอุทธรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำขอว่าความอย่างคนอนาถาของโจทก์นั้นเป็นแต่คำสั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.232 แล้วโจทก์จะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ ม.234 อุทธรณ์คำสั่งฉบับแรกของโจทก์แม้จะยื่นภายในอายุความแต่โจทก์หาเสียค่าธรรมเนียมมาไม่ ย่อมถือว่าเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ ส่วนอุทธรณ์คำสั่งฉบับที่ 2 ซึ่งโจทก์เสียค่าธรรมเนียมมาแล้วแม้จะถือเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ ์แต่ก็ยื่นเกิน 10 วันนับแต่วันที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุด โจทก์อุทธรณ์ต่อไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีและฟ้องซ้ำ: การขอให้พนักงานอัยการฟ้องแทนกรณีศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีอำนาจฟ้อง
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่หลานฟ้องปู่เป็นคดีอุหลุมโดยอ้างเหตุว่าไม่มีอำนาจฟ้องยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีนั้นไม่ตัดสิทธิที่จะให้หลานขอให้พนักงานอัยการดำเนินคดีเป็นโจทก์แทน ฟ้องของอัยการโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องอัยการแทนโจทก์เดิม & ฟ้องซ้ำ: ศาลมีดุลยพินิจอนุญาตถอนฟ้องได้หากประเด็นยังไม่สิ้นสุด
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่หลานฟ้องปู่เป็นคดีอุทลุมโดยอ้างเหตุว่าไม่มีอำนาจฟ้องยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีนั้นไม่ตัดสิทธิที่จะให้หลานขอให้พนักงานอัยการดำเนินคดีเป็นโจทก์แทน ฟ้องของอัยการโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องจำเลยรัฐมนตรีโดยไม่แสดงการกระทำละเมิดหรือพันธะตามกฎหมาย ศาลยกฟ้องตามมาตรา 172 ป.วิ.พ.
ฟ้องรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย บรรยายว่าโจทก์เป็นคนไทยแต่เจ้าหน้าที่ให้จดทะเบียนต่างด้าว โจทก์ขอคืนสัญชาติต่อตำรวจท้องที่จนบัดนี้ยังไม่ทราบผลจึงขอให้ศาลไต่สวนสัญชาติ และเบิกถอนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวดังนี้ไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินตามแนวรั้วเดิม แม้มีโฉนดแต่สืบไม่ได้แน่ชัด
จำเลยซื้อที่ดินจากผู้ที่ได้ครอบครองเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์มากว่า 10 ปี จำเลยครอบครองมา 2 ปี จำเลยก็ได้กรรมสิทธิ์
of 153