พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและการใช้พยานหลักฐานจากสัญญาที่มีการแก้ไขอากรแสตมป์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตาม สัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระจึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาท ตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและพยานหลักฐานจากเอกสารสัญญากู้ที่มีการแก้ไข การฟ้องไม่เคลือบคลุมหากเป็นการอธิบายเหตุผลของฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระ จึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาทตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีพยายามชิงทรัพย์ และการรับฟังพยานหลักฐานความผิดฐานพยายามฆ่า
ในคดีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้โจทก์มิได้กล่าวว่าพยายามชิงทรัพย์อะไรบ้าง แต่ในฟ้องก็พอเข้าใจว่าจำเลยขู่เข็ญให้บอกที่เก็บทรัพย์ที่อยู่ในกุฏิเพียงเท่านี้ ยังไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานพยายามชิงทรัพย์ และการพิพากษาลงโทษฐานพยายามฆ่าและมีอาวุธปืน
ในคดีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้โจทก์มิได้กล่าวว่าพยายามชิงทรัพย์อะไรบ้าง แต่ในฟ้องก็พอเข้าใจว่าจำเลยขู่เข็ญให้บอกที่เก็บทรัพย์ที่อยู่ในกุฏิเพียงเท่านี้ยังไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีพยายามชิงทรัพย์ และการลงโทษฐานความผิดหลายกระทง
ในคดีความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้โจทก์มิได้กล่าวว่าพยายามชิงทรัพย์อะไรบ้าง แต่ในฟ้องก็พอเข้าใจว่าจำเลยขู่เข็ญให้บอกที่เก็บทรัพย์ที่อยู่ในกุฏิเพียงเท่านี้ ยังไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ได้รับใบเหยียบย่ำหวงห้ามการบุกรุกภายใน 2 ปี แม้ยังไม่มีสิทธิครอบครองเต็มรูปแบบ อายุความแย่งการครอบครองใช้ไม่ได้
ผู้ที่ได้รับใบเหยียบย่ำจากเจ้าพนักงานแล้วย่อมมีสิทธิที่จะหวงห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปแบ่งทำประโยชน์ในที่ๆ ได้จับจองไว้ได้ แม้ว่าผู้จับจองนั้นจะยังไม่มีสิทธิครอบครองเลยก็ตาม ทั้งนี้ภายในกำหนดเวลา 2 ปีตามที่กฎหมายกำหนดให้ผู้จับจองต้องทำประโยชน์ในที่ดินนั้น และผู้ใดจะอ้างอายุความหนึ่งปีเรื่องการแย่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาใช้ยันกับผู้ได้รับใบเหยียบย่ำภายในกำหนดเวลา 2 ปีนั้นก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ได้รับใบเหยียบย่ำหวงห้ามการบุกรุกภายใน 2 ปี แม้อายุความแย่งการครอบครองยังไม่ครบ
ผู้ที่ได้รับใบเหยียบย่ำจากเจ้าพนักงานแล้วย่อมมีสิทธิที่จะหวงห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปแบ่งทำประโยชน์ในที่ๆ ได้จับจองไว้ได้ แม้ว่าผู้จับจองนั้นจะยังไม่มีสิทธิครอบครองเลยก็ตาม ทั้งนี้ภายในกำหนดเวลา 2 ปีตามที่กฎหมายกำหนดให้ผู้จับจองต้องทำประโยชน์ในที่ดินนั้น และผู้ใดจะอ้างอายุความหนึ่งปีเรื่องการแย่งการครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 มาใช้ยันกับผู้ได้รับใบเหยียบย่ำภายในกำหนดเวลา 2 ปีนั้นก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1164/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับใบเหยียบย่ำหวงห้ามการบุกรุกภายใน 2 ปี แม้อายุความ 1 ปีเรื่องแย่งการครอบครองใช้ไม่ได้
ผู้ที่ได้รับใบเหยียบย่ำจากเจ้าพนักงานแล้วย่อมมีสิทธิที่จะหวงห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปแย่งทำประโยชน์ในที่ ๆ ได้จับจองไว้ได้ แม้ว่าผู้จับจองนั้นจะยังไม่มีสิทธิครอบครองเลยก็ตามที ทั้งนี้ภายในกำหนดเวลา 2 ปี ตามที่ ก.ม.กำหนดให้ผู้จับจองต้องหาประโยชน์ในที่ดินนั้น และผู้ใดจะอ้างอายุความหนึ่งปีเรื่องการแบ่งการครอบครองตาม ป.พ.พ.ม. 1375 มาใช้ยันกับผู้ได้รับใบเหยียบย่ำภายในกำหนดเวลา 2 ปีนั้นก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนโทษในคดีอาญาเนื่องจากผู้กระทำผิดวิกลจริตแต่ยังมีสติพอจะยับยั้งได้ และดุลพินิจศาลเรื่องการนับโทษ
เมื่อตามพฤติการณ์ได้ความว่าจำเลยแทงผู้ตายขณะวิกลจริตแต่ยังมีสติพอจะรู้สึกผิดชอบหรือยับยั้งได้ จำเลยย่อมได้รับการลดหย่อนอาญาให้เบาลงได้ตาม มาตรา 47
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนโทษทางอาญาในกรณีผู้กระทำผิดมีภาวะวิกลจริต และดุลพินิจศาลในการนับโทษต่อ
เมื่อตามพฤติการณ์ได้ความว่าจำเลยแทงผู้ตายขณะวิกลจริตแต่ยังมีสติพอจะรู้สึกผิดชอบหรือยับยั้งได้ จำเลยย่อมได้รับการลดหย่อนอาญาให้เบาลงได้ตาม มาตรา 47
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้