พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดหย่อนโทษในคดีอาญาเนื่องจากผู้กระทำผิดวิกลจริตแต่ยังมีสติพอจะยับยั้งได้ และดุลพินิจศาลเรื่องการนับโทษ
เมื่อตามพฤติการณ์ได้ความว่าจำเลยแทงผู้ตายขณะวิกลจริตแต่ยังมีสติพอจะรู้สึกผิดชอบหรือยับยั้งได้ จำเลยย่อมได้รับการลดหย่อนอาญาให้เบาลงได้ตาม มาตรา 47
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้
การที่จะนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาอีกคดีหนึ่งหรือไม่นั้นให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจได้ตาม มาตรา 32 เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่นับโทษจำเลยต่อให้ ย่อมไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงในข้อดุลพินิจ
เมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล หากมีเหตุควรเชื่อว่าจำเลยเป็นคนวิกลจริต ศาลย่อมสั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจแล้วมาให้การได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการคัดเลือกทหาร: การถูกควบคุมตัวจากเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตาม ม.23(3) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยในการคัดเลือกทหาร: การถูกควบคุมตัวจากเหตุจำเป็นทำให้ไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุสุดวิสัยขัดขวางการคัดเลือกทหาร: การถูกจับกุมทางการและการไม่สามารถเข้ารับราชการได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างแรงงานพิพาท: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างตกลงกันแล้ว แต่พิพาทเรื่องราคา ศาลยึดตามราคาที่จำเลยนำสืบเนื่องจากโจทก์มิได้นำสืบ
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาทรวมเป็นเงิน 6,500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถียงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างแรงงาน: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างพิพาทชัดเจน ศาลใช้ราคาตามฝ่ายจำเลยเนื่องจากโจทก์มิได้นำสืบ
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาทรวมเป็นเงิน 6,500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถียงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างแรงงาน: จำนวนข้าวเปลือกเป็นค่าจ้างพิพาท แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบ ศาลฟังตามจำเลยได้
โจทก์กล่าวฟ้องเกี่ยวกับค่าแรงงานว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกในนา 13 ไร่ 650 ถัง ราคาถังละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 6500 บาท และคำให้การของจำเลยก็มิได้ปฏิเสธจำนวนข้าวที่โจทก์เรียกร้องคงเถึยงแต่เรื่องราคาข้าวว่าถังละ 7 บาท ดังนี้ก็ชอบต้องฟังว่าโจทก์ควรได้ข้าวเปลือกเป็นค่าจ้าง 650 ถัง แต่ราคาข้าวเปลือกโจทก์มิได้นำสืบจึงต้องฟังตามคำพยานจำเลยว่าราคาข้าวเปลือกถังละ 7 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศบัญญัติใช้กับตลาดเอกชนไม่ได้บังคับใช้กับตลาดสาธารณะของเทศบาล
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดสาธารณะ vs. ตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตเทศบัญญัติ: ตลาดเทศบาลกับตลาดเอกชน
ตลาดของเทศบาลเป็นตลาดสาธารณะ เทศบัญญัติที่ออกมาใช้บังคับสำหรับตลาดเอกชนจึงนำมาใช้บังคับเกี่ยวกับตลาดของเทศบาลไม่ได้