คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากบุคคลหลายคน และการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดนั้น อาจเกิดจากบุคคลหลายคนทำการละเมิดให้เกิดความเสียหายก็ได้ เช่นในคดีขับรถยนต์กันโดยประมาท และแต่ละฝ่ายอาจรับผิดในความเสียหายยิ่งหย่อนกว่ากันได้ สุดแต่ศาลจะวินิจฉัยตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ขับรถชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายตาย ผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัว ดังนี้เมื่อโจทก์ต่างเป็นผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตาย จึงต่างเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันในคดี ย่อมเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกันได้ ตาม ม. +9 วิ.แพ่ง ฝ่ายจำเลยแม้มิได้มีประโยชน์ร่วมกันก็ต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกัน จำเลยทั้ง 4 จึงถูกฟ้องร่วมกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดนั้น อาจเกิดจากบุคคลหลายคนทำการละเมิดให้เกิดความเสียหายก็ได้ เช่นในคดีขับรถยนต์ชนกันโดยประมาทและแต่ละฝ่ายอาจรับผิดในความเสียหายยิ่งหย่อนกว่ากันได้สุดแต่ศาลจะวินิจฉัยตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นคนขับรถของนายจ้าง จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ขับรถชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายตายผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัวดังนี้เมื่อโจทก์ต่างเป็นผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตายซึ่งต่างเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันในคดีย่อมเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกันได้ตาม มาตรา59 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฝ่ายจำเลยแม้มิได้มีประโยชน์ร่วมกันก็ต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกันจำเลยทั้ง 4 จึงถูกฟ้องร่วมกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนทรัพย์สินโดยหญิงมีสามี การบอกล้างนิติกรรม และผลกระทบต่อผู้ซื้อสุจริต
มาตรา 1329 ใช้สำหรับผู้โอนได้ทรัพย์มาโดยโมฆียกรรมแล้วโอนต่อไปหญิงมีสามีโอนทรัพย์โดยสามีไม่อนุญาต ไม่ใช่กรณีตาม มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดร่วมกัน, การแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์, และสิทธิของโจทก์ร่วม
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดครั้งเดียวกันนั้นอาจเกิดจากหลายคนกระทำขึ้นก็ได้และศาลอาจกำหนดความรับผิดให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดในเรื่องค่าสินไหมทดแทนหนักกว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดที่ต่างได้ทำลง
ภรรยาและบุตรของผู้ตายในการละเมิดอาจเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีเดียวกันได้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคดี
นายจ้างและผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายที่ขับรถยนต์ชนกันเป็นเหตุให้คนตายก็อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกันได้เพราะทั้งสองฝ่ายย่อมต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกัน
แม้ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่เต็มตามฟ้องแต่ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุสมควรและโจทก์มิได้แกล้งเรียกร้องค่าเสียหายมาเกินสมควรศาลก็อาจสั่งให้จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามจำนวนที่โจทก์เสียไปตามฟ้องก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมจากการละเมิดและสิทธิของโจทก์ร่วม รวมถึงการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดครั้งเดียวกันนั้นอาจเกิดจากหลายคนกระทำขึ้นก็ได้และศาลอาจกำหนดความรับผิดให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดในเรื่องค่าสินไหมทดแทนหนักกว่าอีกผ่ายหนึ่งก็ได้ตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิดที่ต่างได้ทำลง
ภรรยาและบุตรของผู้ตายในการละเมิดอาจเข้าเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีเดียวกันได้เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคดี
นายจ้างและผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายที่ขับรถยนต์ชนกันเป็นเหตุให้คนตายก็อาจถูกฟ้องเป็นจำเลยร่วมกันได้ เพราะทั้งสองฝ่ายย่อมต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกัน
แม้ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่เต็มตามฟ้องแต่ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุสมควรและโจทก์มิได้แกล้งเรียกร้องค่าเสียหายมาเกินสมควรศาลก็อาจสั่งให้จำเลยใช่ค่าธรรมเนียมค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามจำนวนที่โจทก์เสียไปตามฟ้องก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีต่อกะทง
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกะทง ๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี ซึ่งแต่ละกะทงไม่เกิน 5 ปีโดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญา: การฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
เมื่อจำเลยต้องโทษจำคุกสองกระทงๆ หนึ่ง 5 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปีซึ่งแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามโดยศาลชั้นต้นแล้วจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการลงชื่อในฟ้องอุทธรณ์: ศาลควรคืนคำคู่ความเพื่อแก้ไข ไม่ยกฟ้อง
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้น ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้ว ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทหนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตาม วิ.แพ่ง.ม.18 จะยกอุทธรณ์จำเลยทีเดียวหาชอบไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายในการลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลควรคืนคำคู่ความเพื่อแก้ไข ไม่ยกฟ้อง
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้นศาลชั้นต้นสั่งรับแล้วฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา18 จะยกอุทธรณ์จำเลยเสียทีเดียวหาได้ไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดีแม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมาศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดในชั้นพิจารณาไม่ถึงเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงสาระสำคัญยังคงตรงกับฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คน ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
of 153