พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างจำนวนผู้กระทำผิดในชั้นพิจารณาไม่ถึงเหตุให้ยกฟ้อง หากข้อเท็จจริงสาระสำคัญยังคงตรงกับฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คน ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676-689/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าและการเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้ให้เช่า
โจทก์เช่าตึกจากสำนักงานทรัพย์สินฯ แล้วเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้โดยมีผู้รบกวนขัดสิทธิ์ โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 477 และ 549 แต่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่โดยลำพังไม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกมาแล้ว ถ้ามิได้โต้แย้งไว้แต่แรกจะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำต้องยื่นฟ้องใหม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกมาแล้ว ถ้ามิได้โต้แย้งไว้แต่แรกจะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำต้องยื่นฟ้องใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676-689/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าและการเข้าร่วมเป็นโจทก์ของเจ้าของทรัพย์สิน
โจทก์เช่าตึกจากสำนักงานทรัพย์สิน ฯ แล้วเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้ โดยมีผู้รบกวนขัดสิทธิ์ โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยได้ตาม ป.พ.พ.ม. 477 และ 549 แต่หามีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่โดยลำพังไม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกแล้ว ถ้ามิได้ได้แย้งไว้แต่แรก จะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ๆ ย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สิน ฯ ผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำเป็นยื่นฟ้องใหม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกแล้ว ถ้ามิได้ได้แย้งไว้แต่แรก จะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ๆ ย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สิน ฯ ผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำเป็นยื่นฟ้องใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้ไม่ลงประจำวัน ก็ถือเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จได้
นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจกล่าวโทษว่าเขาลักตัดยางและเอาไฟเผาสวนยางด้วยโดยความจริงเขามิได้กระทำผิดดังข้อหานั้นเลยดังนี้แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้จดข้อความที่แจ้งความนั้นไว้ในสมุดลงประจำวันผู้แจ้งก็มีความผิดฐานแจ้งความเท็จร้องเรียนเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 675/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้ไม่ลงประจำวัน ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจกล่าวโทษว่า เขาลักตัดยางและเอาไฟเผาสวนยางด้วย โดยความจริงเขามิได้กระทำผิดังข้อหานั้นเลย ดังนี้แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้จดข้อความที่แจ้งความนั้นไว้ในสมุดลงประจำวัน ผู้แจ้งก็มีความผิดฐานแจ้งความเท็จร้องเรียนเท็จตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ลูกหนี้และการขัดทรัพย์จากผู้รับขายฝาก: จำเป็นต้องฟ้องเพิกถอนนิติกรรมก่อนหรือไม่
โจทก์ยึดทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้อง ๆ ขัดทรัพย์ว่าจำเลยได้ขายฝากไว้กับตนโดยชอบด้วยก.ม.โจทก์เถียงว่าการขายฝากระหว่างจำเลยกับผู้ร้องไม่ชอบด้วย ก.ม. + ฯลฯ สัญญาอำนาจที่จะวินิจฉัยชี้ขาดว่านิติกรรมการขายฝากนั้นทำขึ้นโดยสมยอมไม่สุจริตทำให้โจทก์เสียเปรียบหรือไม่ โดยโจทก์ไม่ต้องไปฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมก่อนตาม ม.237 แห่ง ป.พ.พ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ลูกหนี้และการโต้แย้งว่าการขายฝากไม่สุจริต ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องฟ้องเพิกถอน
โจทก์ยึดทรัพย์ของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าจำเลยได้ขายฝากไว้กับตนโดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์เถียงว่าการขายฝากระหว่างจำเลยกับผู้ร้องไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่สุจริตและทำให้โจทก์เสียเปรียบฯลฯสัญญาขายฝากใช้ไม่ได้ ดังนี้ศาลมีอำนาจที่จะวินิจฉัยชี้ขาดว่านิติกรรมการขายฝากนั้นทำขึ้นโดยสมยอมไม่สุจริตทำให้โจทก์เสียเปรียบหรือไม่โดยโจทก์ไม่ต้องไปฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมก่อนตาม มาตรา 237 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินหลังจดทะเบียน: โจทก์ซื้อโดยสุจริตและจดทะเบียนแล้ว แม้จำเลยครอบครองก่อนก็ไม่มีสิทธิโต้แย้ง
แม้จำเลยจะได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมามีฐานะอันจะจดทะเบียนสิทธิของตนก่อนมีการออกโฉนดแล้วก็ดี เมื่อยังมิได้จดทะเบียนสิทธินั้นและโจทก์ได้รับโอนมาโดยมีค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโอนโฉนดกันเรียบร้อยแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้งโจทก์ได้และไม่มีสิทธิครอบครองที่ชายเลนให้เป็นที่กีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ได้
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่คู่ความมิได้กล่าวชัดแจ้งในฎีกาเพียงแต่ให้ทนายความแถลงคารมกันศาลไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาให้ศาลสืบในวันนัด (เพราะโจทก์ยื่นระบุพยานก่อนวันนัดเพียง 1 วัน ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ศาลสั่งไม่อนุญาต) ก็ชอบที่จำเลยจะขอให้ตัดพยานโจทก์ในวันนั้นหรือก่อนนั้น โจทก์กลับระบุยื่นพยานใหม่ เมื่อจำเลยยอมให้ เลื่อนไปและโจทก์ได้กลับยื่นระบุพยานใหม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 แล้วจำเลยจะคัดค้านให้ตัดพยานอีกไม่ได้
ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่คู่ความมิได้กล่าวชัดแจ้งในฎีกาเพียงแต่ให้ทนายความแถลงคารมกันศาลไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาให้ศาลสืบในวันนัด (เพราะโจทก์ยื่นระบุพยานก่อนวันนัดเพียง 1 วัน ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ศาลสั่งไม่อนุญาต) ก็ชอบที่จำเลยจะขอให้ตัดพยานโจทก์ในวันนั้นหรือก่อนนั้น โจทก์กลับระบุยื่นพยานใหม่ เมื่อจำเลยยอมให้ เลื่อนไปและโจทก์ได้กลับยื่นระบุพยานใหม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 แล้วจำเลยจะคัดค้านให้ตัดพยานอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินหลังจดทะเบียน: โอนโดยสุจริตมีผลเหนือการครอบครองเดิม แม้มีฐานะจดทะเบียนได้ก่อน
แม้จำเลยจะได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมามีฐานะอันจะจดทะเบียนสิทธิของตนก่อนมีการออกโฉนดแล้วก็ดี เมื่อยังมิได้จดทะเบียนสิทธินั้น และโจทก์ได้รับโอนมาโดยมีค่าตอบแทนโดยสุจริตแลได้จดทะเบียนโอนโฉนดกันเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้งโจทก์ได้และไม่มีสิทธิครอบครองที่ชายเลนให้เป็นที่กีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ได้
ข้อเท็จจริงและข้อ ก.ม.ที่คู่ความมิได้กล่าวชัดแจ้งในฎีกาเพียงแต่ให้ทนายความแถลงคารมนั้นศาลไม่วินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาให้ศาลสิบในวันนัด (เพราะโจทก์ยื่นระบุพยานก่อนวัดนัดเพียง 1 วัน ไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 ศาลสั่งไม่อนุญาต)ก็ชอบที่จำเลยจะขอให้ตัดพยานโจทก์ในวันนั้นหรือก่อนนั้นโจทก์กลับระบุยื่นพยานใหม่ เมื่อจำเลยยอมให้เลื่อนไปและโจทก์ได้กลับยื่นระบุพยานใหม่ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง.ม.88 แล้วจำเลยจะคัดค้านให้ตัดพยานอีกไม่ได้
ข้อเท็จจริงและข้อ ก.ม.ที่คู่ความมิได้กล่าวชัดแจ้งในฎีกาเพียงแต่ให้ทนายความแถลงคารมนั้นศาลไม่วินิจฉัยให้
เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาให้ศาลสิบในวันนัด (เพราะโจทก์ยื่นระบุพยานก่อนวัดนัดเพียง 1 วัน ไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 ศาลสั่งไม่อนุญาต)ก็ชอบที่จำเลยจะขอให้ตัดพยานโจทก์ในวันนั้นหรือก่อนนั้นโจทก์กลับระบุยื่นพยานใหม่ เมื่อจำเลยยอมให้เลื่อนไปและโจทก์ได้กลับยื่นระบุพยานใหม่ถูกต้องตาม ป.วิ.แพ่ง.ม.88 แล้วจำเลยจะคัดค้านให้ตัดพยานอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้องเช่าเพื่อการค้า แม้มีผู้อาศัยก็ไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าห้องที่อยู่ในทำเลการค้าเพื่อการค้า และได้ทำการค้าถึงแม้จำเลยจะอยู่อาศัยในห้องนี้มาช้านานก็ไม่เป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ