คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฝิ่นเถื่อนเจือปน: ศาลถือเป็นฝิ่นทั้งหมดตาม พ.ร.บ.ฝิ่น แม้มีส่วนผสมอื่น
ฝิ่นเถื่อนที่มีเสี่ยวโกเจือปนอยู่ด้วย แม้ไม่ได้ความว่ามีเนื้อฝิ่นหนักเท่าใด ก็ฟังถือว่าเป็นฝิ่นเถื่อนทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นซื้อขายที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีก่อน ศาลยกฟ้อง
คดีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เมื่อโจทก์และภริยาโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีก่อนโดยคดีถึงที่สุด ชั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเงินที่ภริยาโจทก์ชำระให้ในคดีนั้นเป็นเงินที่ภริยาโจทก์ส่งเสียให้แก่จำเลยระหว่างต้องคดีฐานกบฏด้วยความกตัญญูมิได้มีการซื้อขายกันโดยสุจริตดังนี้โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เรียกเงินจำนวนนั้นคืน โดยอ้างว่าโจทก์ชำระไปโดยเจตนาเป็นสินจ้างตอบแทนในการซื้อขายกัน ซึ่งถ้าไม่มีการตกลงซื้อขายกันโจทก์ก็ไม่ชำระให้แก่จำเลยเช่นว่านี้ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1992/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำต้องห้าม: ประเด็นซื้อขายที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีเดิม
คดีที่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก ในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
เมื่อโจทก์และภริยาโจทก์แพ้คดีจำเลยในคดีก่อนโดยคดีถึงที่สุด ชั้นศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเงินที่ภริยาโจทก์ชำระให้ในคดีนั้นเป็นเงินที่ภริยาโจทก์ส่งเสียให้แก่จำเลยระหว่างต้องคดีฐานกบฎด้วยความกตัญญูมิได้มีการซื้อขายกันโดยสุจริต ดังนี้โจทก์จะมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่เรียกเงินจำนวนนั้นคืน โดยอ้างว่าโจทก์ชำระไปโดยเจตนาเป็นสินจ้างตอบแทนในการซื้อขายกัน ซึ่งถ้าไม่มีการตกลงซื้อขายกันโจทก์ก็ไม่ชำระให้แก่จำเลยเช่นว่านี้ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษจำคุกซ้ำ: 'ได้รับโทษจำคุกมาก่อน' หมายถึงได้รับโทษจริง ไม่ใช่แค่รอการลงโทษ
จำเลยเคยต้อคำพิพากษาให้จำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษไว้ แล้วกลับมากระทำผิดอีกภายในกำหนดเวลา ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลยพินิจให้รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยอีกได้
คำว่า "ได้รับโทษจำคุกมาก่อน" ใน ม.41 ที่แก้ไขใหม่หมายความว่า จำเลยต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้ว หาใช่เพียงแต่ถูกคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษจำคุกนั้นไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอการลงโทษจำคุกซ้ำ: ศาลมีอำนาจแม้จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษไว้ แล้วกลับมากระทำผิดอีกภายในกำหนดเวลา ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจให้รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยอีกได้
คำว่า "ได้รับโทษจำคุกมาก่อน" ใน มาตรา 41 ที่แก้ไขใหม่หมายความว่า จำเลยต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้ว หาใช่เพียงแต่ถูกคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ศาลให้รอการลงโทษจำคุกนั้นไว้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการเรียกคืนเงินจากการถูกสลาก ไม่ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
การที่จำเลยสมคบกันใช้อาวุธและวาจาขู่เข็ญให้เจ้าทรัพย์จ่ายเงินค่าสลากกินรวบซึ่งจำเลยถูกสลากและเจ้าทรัพย์เป็นเจ้ามือนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยมุ่งหมายจะเอาทรัพย์ที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยควรจะได้ ไม่มีเ+ยยจิตต์จะสักทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเอาทรัพย์ที่ควรได้ ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
การที่จำเลยสมคบกันใช้อาวุธและวาจาขู่เข็ญให้เจ้าทรัพย์จ่ายเงินค่าสลากกินรวบซึ่งจำเลยถูกสลากและเจ้าทรัพย์เป็นเจ้ามือนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยมุ่งหมายจะเอาทรัพย์ที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยควรจะได้ ไม่มีเถยจิตจะลักทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงไม่ตรงตามฟ้อง แม้ผู้ตายมีอำนาจตามกฎหมาย ก็ไม่อาจลงโทษตามข้อหาเดิมได้
แม้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านของคนได้ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 27 ก็ตามเมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจับกุมตามหน้าที่ แต่ได้ความว่าจำเลยฆ่าเพราะเหตุผู้ตายไปว่ากล่าวสั่งสอนตามหน้าที่ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ตรงกับที่โจทก์ฟ้อง ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250 (3) ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
แม้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านของตนได้ตาม พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 27 ก็ตาม เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจับกุมตามหน้าที่ แต่ได้ความว่าจำเลยฆ่าเพราะเหตุผู้ตายไปว่ากล่าวสั่งสอนตามหน้าที่ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ตรงกับที่โจทก์ฟ้อง ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250(2)ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาท: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามมาตรา 119 นั้นผู้กระทำผิดต้องกระทำแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายดังนี้ เมื่อจำเลยกระทำการต่อสู้หรือขัดขวางแก่พนักงานเทศบาล มิได้กระทำต่อโจทก์(อดีตนายกเทศมนตรี)เป็นส่วนตัว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำว่า "มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้นหาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
of 153