คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุระเบิด: การพิสูจน์ความคล้ายคลึงกับวัตถุระเบิดตามกฎหมาย
ชนวนเชื้อประทุไฟฟ้าไม่มีระบุไว้ในมาตรา 4(3) และโจทก์นำสืบไม่ถึงว่าชนวนเชื้อปะทุไฟฟ้าคล้ายคลึงกับวัตถุระเบิดชนิดใดดังที่ระบุไว้ในมาตรา 4(3)จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นวัตถุระเบิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 767/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุระเบิด - การพิสูจน์ความคล้ายคลึง - ชะนวนเชื้อปะทุไฟฟ้า
ชะนวนเชื้อปะทุไฟฟ้าไม่มีระบุไว้ในมาตรา 4 (3) และโจทก์นำสืบไม่ถึงว่าชะนวนเชื้อปะทุไฟฟ้าคล้ายคลึงกับวัตถุระเบิดชนิดใด ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 4 (3) จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นวัตถุระเบิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าเมื่อปืนไร้ประสิทธิภาพ ศาลฎีกาตัดสินให้ผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ฟ้องจำเลยว่าใช้ปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตายเมื่อปรากฎว่าปืนนั้นขาดประสิทธิภาพ ถึงจะอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ถึงตายได้ดังนี้จำเลยก็ไม่ผิดตามมาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประสิทธิภาพอาวุธและการประเมินเจตนาพยายามฆ่า: ปืนทำเองไร้ประสิทธิภาพ ไม่ถึงแก่ความตาย
ฟ้องจำเลยว่าใช้ปืนชนิดทำเองยิงโดยเจตนาจะฆ่าให้ตายเมื่อปรากฏว่าปืนนั้นขาดประสิทธิภาพถึงจะอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ถึงตายได้ดังนี้จำเลยก็ไม่ผิดตามมาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาบทมาตราความผิดที่ถูกต้องตามคำฟ้องเดิม แม้โจทก์อ้างบทผิด ศาลต้องลงโทษตามที่จำเลยไม่ประสงค์
คำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นความผิดตามมาตรา 293,294, ขอให้ลงโทษตามมาตรา 293 เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่ามีการสมคบกันกระทำผิดก็ลงโทษตามมาตรา 293 ไม่ได้ และจะขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 294 โดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรค 4 ว่าโจทก์พลั้งเผลออ้างบทมาตราผิดไปก็ไม่ได้ เพราะปรากฎว่าโจทก์ได้อ้างบทมาตราความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 293 มาแล้ว ที่ไม่อ้างมาตรา 294 มานั้นจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 192 วรรค 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งอัตราโทษตามมาตรา 294 ก็สูงกว่ามาตรา 293

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทมาตราความผิดพลาดและการลงโทษตามความประสงค์ของโจทก์
คำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นความผิดตามมาตรา 293,294 ขอให้ลงโทษตามมาตรา 293 เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่ามีการสมคบกันกระทำผิดก็ลงโทษตามมาตรา 293 ไม่ได้และจะขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 294 โดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ ว่าโจทก์พลั้งเผลออ้างบทมาตราผิดไปก็ไม่ได้เพราะปรากฏว่าโจทก์ได้อ้างบทมาตราความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 293 มาแล้วที่ไม่อ้างมาตรา 294 มานั้นจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 192 วรรคสามแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งอัตราโทษตามมาตรา294 ก็สูงกว่ามาตรา 293

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ศาลพิจารณาเจตนาและเหตุป้องกันตัว
เหตุเกิดเวลาพลบค่ำมืดแล้วจำเลยเมาสุราใช้มีดขนาดย่อมไม่ใหญ่โตน่ากลัวแทงซุ่ยๆ ไปถูกผู้ตายที่ใต้ราวนมซ้าย โดยไม่ปรากฎสาเหตุ ยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
เมาสุราอาละวาด มีผู้เข้าห้าม กลับทำร้าย จะอ้างว่าป้องกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในขณะเมาสุรา: เจตนาและเหตุป้องกัน
เหตุเกิดเวลาพลบค่ำมืดแล้วจำเลยเมาสุราใช้มีดขนาดย่อมไม่ใหญ่โตน่ากลัวแทงชุ่ยๆ ไปถูกผู้ตายที่ใต้ราวนมซ้ายโดยไม่ปรากฏสาเหตุยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าคงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
เมาสุราอาละวาดมีผู้เข้าห้าม กลับทำร้ายจะอ้างว่าป้องกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานและวินิจฉัยคดีเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ กรณีเช่าทรัพย์สิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี ศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้ และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้ว ก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสองถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่ โดยยังไม่ไม่วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้ว ก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ และการวินิจฉัยคดีโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดีศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้วก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่โดยยังไม่ได้วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก
of 153