พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดความเป็นผู้ปกครองทรัพย์เมื่อผู้รับมรดกบรรลุนิติภาวะ
ทำพินัยกรรมตั้งผู้ปกครองทรัพย์ ให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่นั้น เมื่อต่อมาปรากฏว่าผู้รับมรดกตามพินัยกรรม มีอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว การเป็นผู้ปกครองทรัพย์ตามพินัยกรรมก็สิ้นสุดลงไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1687 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดความเป็นผู้ปกครองทรัพย์เมื่อผู้รับมรดกบรรลุนิติภาวะ
ทำพินัยกรรมตั้งผู้ปกครองทรัพย์ ให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรม์ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่นั้น เมื่อต่อมาปรากฎว่าผู้รับมรดกตามพินัยกรรม มีอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว การเป็นผู้ปกครองทรัพย์ตามพินัยกรรมก็สิ้นสุดลงไปตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1687 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน: ศาลพิจารณาบาดแผลและชนิดกระสุนเพื่อตัดสินความผิด
ใช้ปืนยิงเขาในระยะห่าง 2 วาเศษ ถูกที่สำคัญบริเวณหน้าอก มีบาดแผลที่หน้าอกและแขนรวม 17 แห่ง แต่ละแห่งไม่มีกระสุนฝังลงไปในร่างกายเลย เพียงแต่ฟกบวมและหนังขาดเท่านั้น รักษาบาดแผล 10 วันหาย ดังนี้แสดงว่าถูกกระสุนปืนลูกปลายและดินส่งกระสุนปืนอ่อน ไม่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้ จึงเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาบาดแผลและเจตนาของผู้กระทำ
ใช้ปืนยิงเขาในระยะห่าง 2 วาเศษ ถูกที่สำคัญบริเวณหน้าอก มีบาดแผลที่หน้าอกและแขนรวม 17 แห่งแต่ละแห่งไม่มีกระสุนฝังลงไปในร่างกายเลย เพียงแต่ฟกบวมและหนังขาดเท่านั้น รักษาบาดแผล 10 วันหาย ดังนี้ แสดงว่าถูกกระสุนปืนลูกปลายและดินส่งกระสุนปืนอ่อน ไม่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้ จึงเป็นความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์เพื่อประโยชน์ส่วนตัว นายอำเภอมีอำนาจสั่งให้รื้อถอน
ที่ดินที่เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) และเป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษามิให้ผู้ใดเกียดกันเอาไปเป็นประโยชน์เฉพาะตัวตาม พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ 2457 ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่ามีบุคคลบุกรุกเข้ามาทำนาหรือครอบครองเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย กรมการอำเภอย่อมมีอำนาจมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกนั้นออกไปได้ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนก็ย่อมมีความผิดฐานขัดคำสั่งตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1259/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์เพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตัว ถือเป็นความผิดทางอาญา
ที่ดินที่เป็นทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ.มาตรา 1304 (2) และเป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษามิให้ผู้ใดเกียดกันเอาไปเป็นประโยชน์เฉพาะตัวตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ 2457 ฉะนั้นเมื่อปรากฎว่ามีบุคคลบุกรุกเข้ามาทำนาหรือครอบครองเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียกรมการอำเภอย่อมมีอำนาจมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกนั้นออกไปได้ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนก็ย่อมมีความผิดฐานขัดคำสั่งตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินรางวัลจากรายได้พิเศษให้ผู้ทำงานเรือนจำ ไม่ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ แม้ขัดต่อระเบียบ
ผู้บัญชาการเรือนจำสั่งพัสดีให้จัดนักโทษสร้างบ้านพักปลัดจังหวัด เมื่อสร้างเสร็จแล้วผู้บัญชาการเรือนจำได้สั่งจ่ายเงินรายได้พิเศษของจังหวัด5,000 บาท ให้พัสดีส่งเป็นเงินผลประโยชน์รายได้เรือนจำ 1,000 บาท อีก 4,000บาท ให้จ่ายเป็นรางวัลผู้คุม ผู้เขียนแบบแปลน และผู้ต้องขังหรือนักโทษที่ทำการปลูกสร้างบ้านพักจำเลยก็จ่ายเงินไปตามสั่ง เช่นนี้จะว่าจำเลยยักยอกเงิน 4,000 บาท ที่จ่ายเป็นรางวัลนั้น โดยอ้างว่าเป็นเงินของเรือนจำจำเลยไม่นำส่ง ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินรางวัลจากเงินรายได้พิเศษให้ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำ ไม่เข้าข่ายยักยอกทรัพย์
ผู้บัญชาการเรือนจำสั่งพัศดีให้จัดนักโทษสร้างบ้านพักปลัดจังหวัด เมื่อสร้างเสร็จแล้วผู้บัญชาการเรือนจำได้สั่งจ่ายเงินรายได้พิเศษของจังหวัด 5,000 บาท ให้พัสดีส่งเป็นเงินผลประโยชน์รายได้เรือนจำ 1,000 บาท อีก 4,000 บาท ให้จ่ายเป็นรางวัลผู้คุม ผู้เขียนแบบแปลน และผู้ต้องขังหรือนักโทษที่ทำการปลูกสร้างบ้านพักจำเลยก็จ่ายเงินไปตามสั่ง เช่นนี้ว่าจำเลยยักยอกเงิน 4,000 บาท ที่จ่ายเป็นรางวัลนั้น โดยอ้างว่าเป็นเงินของเรือนจำ จำเลยไม่นำส่ง ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่และละทิ้งกันโดยไม่ให้ความอุปการะ ทำให้ภริยามีสิทธิจัดการสินบริคณห์ได้
สามีภริยาแยกกันอยู่ประมาณ 8 ปี เนื่องจากเกิดทะเลาะกันต่างไม่พอใจอยู่รวมกัน ภริยาจึงแยกไปอยู่ที่อื่น อันเป็นความพอใจของสามี ส่วนสามีคงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่สามีไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูภริยาอย่างใดเลยดังนี้ ถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตาม ป.พ.พ.ม.39(2) แล้ว ภริยาจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคนห์ได้โดยมิพักต้องได้รับอนุญาตจากสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกกันอยู่และการสละละทิ้งภริยา ทำให้ภริยามีสิทธิจำหน่ายสินบริคณห์ได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสามี
สามีภริยาแยกกันอยู่ประมาณ 8 ปี เนื่องจากเกิดทะเลาะกันต่างไม่พอใจอยู่รวมกัน ภริยาจึงแยกไปอยู่ที่อื่น อันเป็นความพอใจของสามี ส่วนสามีคงอยู่ที่บ้านเรือนเดิม ตลอดเวลาที่แยกกันอยู่สามีไม่ได้ให้ความอุปการะส่งเสียเงินทองเลี้ยงดูภริยาอย่างใดเลย ดังนี้ ถือได้ว่าสามีได้สละละทิ้งภริยาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(2) แล้ว ภริยาจึงย่อมทำการผูกพันส่วนของตนในสินบริคณห์ได้โดยมิพักต้องได้รับอนุญาตจากสามี