คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการพิจารณาคำฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้รอการลงอาญา เป็นการแก้ มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามมาตรา 218.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากทำร้ายร่างกายและการพิจารณาแก้ไขโทษของศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาทโทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่าเป็นการแก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษเท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษอาญาในชั้นอุทธรณ์และการฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดสมคบทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254 จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาท โทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำ คุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่า เป็นการ แก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษ เท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะ 'ผู้ค้า' เพื่อประโยชน์ในการฟ้องคดีภายในอายุความ
ตามปกติโจทก์ทำงานประจำที่บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้าติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอื่นๆบ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่าเคยปฏิบัติในเวลาว่างงาน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่างๆ ตามความหมายแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะ 'ผู้ค้า' เพื่อกำหนดอายุความคดีนายหน้า ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 165(7)
ตามปกติโจทก์ทำงานประจำที่บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้า ติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอื่น ๆ บ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่าเคยปฏิบัติ ในเวลาว่างงาน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่าง ๆ ตาม ความหมายแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 165 (7).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์ เจ้าหนี้จำเลยมีสิทธิยึดได้ แม้ผู้จะซื้อครอบครองแล้ว
ทำสัญญาจะขายที่ดินมือเปล่ากัน แม้จะได้รับชำระราคาบางส่วน และส่งมอบที่ดินให้ผู้จะซื้อครอบครองแล้วก็ตาม ถ้าตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้จะขายมีเจตนาเพียงมอบที่ให้ผู้จะซื้อครอบครองแทนเท่านั้นแล้วสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของที่ก็ยังหาเปลี่ยนจากผู้จะขายไปเป็นของผู้จะซื้อไม่ ฉะนั้นในระหว่างนั้น เจ้าหนี้ของผู้จะขายตามคำพิพากษา ย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้น เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้จำเลยมีสิทธิยึดได้ แม้มีการส่งมอบการครอบครองและรับชำระเงินบางส่วน
ทำสัญญาจะขายที่ดินมือเปล่ากัน แม้จะได้รับชำระราคาบางส่วน และส่งมอบที่ดินให้ผู้จะซื้อครอบครองแล้วก็ตาม ถ้าตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้จะขายมีเจตนาเพียงมอบที่ให้ผู้จะซื้อครอบครองแทนเท่านั้นและสิทธิแห่งการ เป็นเจ้าของที่ ก็ยังหาเปลี่ยนจากผู้จะขายไปเป็นของผู้จะซื้อไม่ฉะนั้นในระหว่างนั้น เจ้าหนี้ของผู้จะขายตามคำพิ พากษา ย่อมมีสิทธิยึคที่ดินนั้น เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างและลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาทเลินเล่อ และค่าเสียโอกาสในอาชีพ
คนขับรถยนต์ของมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ขับรถยนต์รับและส่งนักเรียนและข้าราชการของมหาวิทยาลัยระหว่างมหาวิทยาลัยและที่ต่างๆ เมื่อขับไปชนรถยนต์อื่นโดยประมาทเลินเล่อ ในระหว่างทางที่ไปและกลับนั้นเป็นเหตุให้คนโดยสารในรถที่ถูกชนแขนหัก ดังนี้มหาวิทยาลัยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับรถยนต์ ซึ่งเป็นลูกจ้างด้วย
ผู้โดยสารถูกรถชนแขนหักพิการก่อนแขนหักพิการ มีอาชีพในการถ่ายภาพยนต์และได้มีผู้ว่าจ้างไว้แล้ว เมื่อแขนหักพิการเขาจึงไม่จ้าง ดังนี้เป็นเรื่องเห็นได้ชัดว่าต้องขาดประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต อันเป็นประโยชน์ชอบจะได้โดยตรง ฉะนั้น ผู้ขับรถยนต์ชนเขาและนายจ้าง ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้วด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างและลูกจ้างในความเสียหายจากการประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติงาน
คนขับรถยนต์ของมหาวิทยาลัยมีหน้าที่ขับรถยนต์รับและส่งนักเรียนและข้าราชการของมหาวิทยาลัยระหว่างมหา วิทยาลัยและที่ต่าง ๆ เมื่อขับไปชนรถยนต์อื่นโดยประาทเลินเล่อ ในระหว่างทางที่ไปและกลับนั้นเป็นเหตุให้คน โดยสารในรถที่ถูกชนแขนหัก ดังนี้มหาวิทยาลัยผู้เป็นนายจ้างต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับรถยนต์ ซึ่งเป็นลูกจ้างด้วยซ.
ผู้โดยสารถูกรถชนแขนหักพิการก่อนแขนหักพิการ มีอาชีพในการถ่ายภาพยนต์และได้มีผู้ว่าจ้างไว้แล้ว เมื่อแขน หักพิการเขาจึงไม่จ้าง ดังนี้เป็นเรื่องเห็นได้ชัดว่า ต้องขาดประโยชน์ทั้งปัจจุบันและอนาคต อันเป็นประโยชน์ชอบจะ ได้โดยตรง ฉะนั้น ผู้ขับรถยนต์ชนเขาและนายจ้าง ต้องรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวแล้วด้วย./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าการค้าหมดอายุ แม้มีที่อยู่อาศัยรวมด้วย ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกทำการค้าในทำเลการค้า แม้จะอยู่อาศัยด้วยก็ไม่เป็นเคหะอันจะได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันฯ
ผู้ให้เช่าเรียกค่าเช่าสูงขึ้น ผู้เช่าไม่ยอมให้ผู้ให้เช่าจึงมาฟ้องเลิกสัญญาเช่า ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
of 153