พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงานมีผลต่อความผิดตามมาตรา 145 อาญา ต้องพิจารณาช่วงเวลาที่กระทำผิด
จำเลยเป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกฟ้องก่อนที่ใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2499 ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการอันไม่ควรทำ ละเว้นการอันไม่ควรละเว้นโดยเจตนาจะให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งอ้างว่าผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145 นั้นไม่เป็นผิด เพราะก่อนใช้พระราชบัญญัติธรรมศาสตร์ มาตรา 2499 ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานของนิติบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงานก่อนมี พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2499 มีผลต่อความผิด ม.145 ก.ม.ลักษณะอาญา
จำเลยเป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกฟ้องก่อนที่ใช้ พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2499 ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการอันไม่ควรทำ ละเว้นการอันไม่ควรละเว้น โดยเจตนาจะให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ซึ่งอ้างว่าผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.145 นั้น ไม่เป็นผิดเพราะก่อนใช้ พ.ร.บ.ธรรมศาสตร์ 2499 ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานของนิติบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 145.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลดหนี้ผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนที่เหลือ
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลดหนี้ของผู้ค้ำประกันและการเรียกร้องหนี้ระหว่างผู้ค้ำประกันร่วม ผู้ค้ำประกันที่ได้รับการปลดหนี้แล้วไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันร่วม
เมื่อเจ้าหนี้ได้ยอมปลดหนี้ตามส่วนของผู้ค้ำประกันลูกหนี้แล้ว หนี้ที่ผู้ค้ำประกันจะพึงต้องชำระก็ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องเอาแก่ผู้ค้ำประกันร่วมกันอีกคนหนึ่งเกินกว่าที่ต้องรับผิดไม่ได้
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว.
ผู้ค้ำประกันร่วมคนหนึ่งซึ่งยอมชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนต้องรับผิดนั้น ไม่มีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากผู้ค้ำประกันร่วมคนอื่นผู้ซึ่งเจ้าหนี้ได้ปลดหนี้ให้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระหนี้จากการกู้ยืม - อำนาจการให้กู้เป็นเรื่องภายในของบริษัท
เมื่อจำเลยกู้เงินของบริษัทโจทก์ไป ถึงกำหนดชำระคืนก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินให้ จะโต้เถียงอำนาจของผู้ให้กู้ไม่ได้
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1804/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ชำระหนี้จากการกู้ยืม แม้ผู้ให้กู้ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้กู้ก็ต้องชำระหนี้
เมื่อจำเลยกู้เงินของบริษัทโจทก์ไป ถึงกำหนดชำระคืนก็มีหน้าที่ต้องใช้เงินให้ จะโต้เถียงอำนาจของผู้ให้กู้ไม่ได้
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท.
การที่บริษัทจำกัดใดจะมีอำนาจให้จำเลยกู้ได้หรือไม่เป็นเรื่องของทางราชการจะว่ากล่าว ไม่เกี่ยวกับผู้กู้เงินไปจากบริษัท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองก่อนสัญญาเช่า: โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ครอบครองก่อนไม่ได้ หากไม่ร่วมฟ้องเจ้าของเดิม
จำเลยได้ครอบครองห้องพิพาทอยู่ก่อนที่โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าจากเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองกรณีต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 477,549 ซึ่งถ้าโจทก์ไม่ขอให้ศาลเรียกเจ้าของเดิมเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมในคดีแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยโดยลำพังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1717/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองห้องเช่าก่อนสัญญาใหม่: โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้ครอบครองก่อนไม่ได้ หากไม่รวมเจ้าของเดิม
จำเลยได้ครอบครองห้องพิพาทอยู่ก่อนที่โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าจากเจ้าของเดิม เมื่อจำเลยไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครองกรณีต้องด้วย ป.พ.พ. มาตรา 477,549 ซึ่งถ้าโจทก์ไม่ขอให้ศาลเรียกเจ้าของเดิมเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมในคดีแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยโดยลำพังได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางค่าฤชาธรรมเนียมในการอุทธรณ์ หากศาลชั้นต้นรับฟ้องโดยมิได้วางค่าธรรมเนียม จำเลยไม่ขัดขืน ศาลอุทธรณ์มีอำนาจขยายเวลาได้
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฟ้องอุทธรณ์โดยผู้อุทธรณ์มิได้วางค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมฟ้องอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้น ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ได้ขัดขืน ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะขยายเวลาวางเงินดังกล่าวให้ ไม่ควรจะยกอุทธรณ์เสียทีเดียว (ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางค่าฤชาธรรมเนียมในการอุทธรณ์ ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ แม้ผู้ถูกอุทธรณ์มิได้คัดค้าน
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฟ้องอุทธรณ์โดยผู้อุทธรณ์มิได้วางค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมฟ้องอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้น ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ได้ขัดขืน ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะขยายเวลาวางเงินดั่งกล่าวให้ ไม่ควรจะยกอุทธรณ์เสียทีเดียว.
(ประชุมใหญ่)
(ประชุมใหญ่)