พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย แม้ในสัญญาจะระบุหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ความผิดตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475มาตรา 3 นั้น ความสำคัญอยู่ที่การให้กู้โดยเรียกหรือคิดเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นทำหนังสือสัญญาในการกู้ยืมเงินว่าให้ดอกเบี้ยตามกฎหมายหรือในเอกสารกู้ยืมเงินจะมิได้กล่าวถึงเรื่องดอกเบี้ยเลยแต่ในทางปฏิบัติผู้ให้กู้ได้คิดหรือเรียกเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิดเริ่มนับเมื่อเกิดความเสียหายจากการกระทำละเมิด ไม่ใช่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความเสียหาย
จำเลยใช้เรือขุด ขุดแร่ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินมูลทรายไหลเข้านาโจทก์ เพราะทำนบกั้นน้ำพังนั้น เพียงทำนบกั้นน้ำ พังไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ แต่การละเมิดสิทธิเกิดขึ้นเมื่อน้ำไหลพามูลดินทรายเข้าที่นาโจทก์ ทำให้โจทก์ทำ นาไม่ได้ ฉะนั้นอายุความจึงตั้งต้นแต่น้ำเข้านาโจทก์หาใช่ตั้งแต่ทำนบพังไม่.
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ในการที่จำเลยเดินเรือขุดแร่ ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินทรายไหลเข้านา โจทก์ ่จนโจทก์นำนาไม่ได้ในปี พ.ศ. 2492 เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยยังคงไม่ปิดทำนบกั้นน้ำ และยังคงใช้ เรือขุดแร่ ขุดต่อมาใน พ.ศ. 2493 โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการทำนาใน พ.ศ. 2493 ได้อีก ต่างหากไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นการละเมิดใหม่ ต่างหากจากที่ฟ้องคราวก่อน./
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ในการที่จำเลยเดินเรือขุดแร่ ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินทรายไหลเข้านา โจทก์ ่จนโจทก์นำนาไม่ได้ในปี พ.ศ. 2492 เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยยังคงไม่ปิดทำนบกั้นน้ำ และยังคงใช้ เรือขุดแร่ ขุดต่อมาใน พ.ศ. 2493 โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการทำนาใน พ.ศ. 2493 ได้อีก ต่างหากไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นการละเมิดใหม่ ต่างหากจากที่ฟ้องคราวก่อน./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิดเริ่มนับเมื่อเกิดความเสียหายจากการกระทำละเมิด ไม่ใช่แค่นั้นทำนบพัง ละเมิดใหม่ต่างหาก
จำเลยใช้เรือขุด ขุดแร่ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินมูลทรายไหลเข้านาโจทก์ เพราะทำนบกั้นน้ำพังนั้น เพียงแต่ทำนบกั้นน้ำพัง ไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ แต่การละเมิดสิทธิเกิดขึ้นเมื่อน้ำไหลพามูลดินทรายเข้าที่นาโจทก์ ทำให้โจทก์ทำนาไม่ได้ ฉะนั้นอายุความจึงตั้งต้นแต่น้ำเข้านาโจทก์หาใช่ตั้งแต่ทำนบพังไม่
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยในการที่จำเลยเดินเรือขุดแร่ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินทรายไหลเข้านาโจทก์จนโจทก์ทำนาไม่ได้ในปี พ.ศ.2492เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยยังคงไม่ปิดทำนบกั้นน้ำ และยังคงใช้เรือขุดแร่ ขุดต่อมาใน พ.ศ.2493โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการทำนาในพ.ศ.2493ได้อีกต่างหากไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นการละเมิดใหม่ต่างหากจากที่ฟ้องคราวก่อน
การที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยในการที่จำเลยเดินเรือขุดแร่ทำให้น้ำขุ่นข้นมูลดินทรายไหลเข้านาโจทก์จนโจทก์ทำนาไม่ได้ในปี พ.ศ.2492เป็นเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อจำเลยยังคงไม่ปิดทำนบกั้นน้ำ และยังคงใช้เรือขุดแร่ ขุดต่อมาใน พ.ศ.2493โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการทำนาในพ.ศ.2493ได้อีกต่างหากไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะเป็นการละเมิดใหม่ต่างหากจากที่ฟ้องคราวก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 653/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานขายเครื่องชั่งตวงวัดโดยไม่ได้รับอาชญาบัตรและบทบัญญัติมาตรา 30 ที่เกี่ยวข้อง
ความผิดสำหรับผู้ไม่ได้รับอาชญาบัตรให้เป็นผู้ขายและได้ขายเครื่องชั่งเครื่องตวงเครื่องวัดผิดกฎหมายนั้นบัญญัติไว้แล้วในมาตรา 29ส่วนในมาตรา 30 หมายถึงความผิดสำหรับผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งได้รับอาชญาบัตรให้เป็นผู้ขายและได้ขายเครื่องชั่งเครื่องตวงเครื่องวัด ผิดกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการครอบครองหลังสัญญาขายฝากเป็นโมฆะ แม้มีกำหนดเวลาชัดเจน การครอบครองนานเกิน 6 ปีทำให้ได้สิทธิ
ทำสัญญาขายฝากที่นามือเปล่ากันเอง มีข้อความว่า มีกำหนด6 เดือนขาดนั้นแม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ทำตามแบบก็ดีแต่ตามสัญญาที่ปรากฏว่าได้มีกำหนดไว้ชัดว่า 6 เดือนขาดซึ่งหมายความว่า ผู้ขายฝากยอมสละสิทธิในที่พิพาทให้เป็นของผู้รับซื้อฝากเมื่อครบ 6 เดือนแล้วฉะนั้น เมื่อที่นาพิพาทเป็นที่นามือเปล่าและฝ่ายผู้รับซื้อฝากก็ได้ครอบครองอย่างเป็นที่ของตนนานเกินกว่า6 ปีแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ย่อมได้สิทธิในที่พิพาท เพราะการครอบครองตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 405/2493
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินโดยการครอบครอง หลังสัญญาขายฝากเป็นโมฆะและขาดอายุ
ทำสัญญาขายฝากที่นามือเปล่ากันเอง มีข้อความว่า มีกำหนด 6 เดือนขาดนั้น แม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ทำตาม แบบก็ดี แต่ตามสัญญาที่ปรากฎว่าได้มีกำหนดไว้ชัดว่า 6 เดือนขาด ซึ่งหมายความว่า ผู้ขายฝากยอมสละสิทธิในที่ พิพาทให้เป็นของผู้รับซื้อฝากเมื่อครบ 6 เดือนแล้ว ฉะนั้น เมื่อที่นาพิพาทเป็นที่นามือเปล่าและฝ่ายผู้รับซื้อฝากก็ ครอบครองอย่างเป็นที่ของตนนานเกินกว่า 6 ปีแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ย่อมได้สิทธิในที่พิพาท เพราะการครอบครองตามนัย แห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 405/2493.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ในชั้นอุทธรณ์ทำให้หมดสิทธิฎีกา และการพิจารณาเฉพาะส่วนที่อุทธรณ์
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยหลายคน จำเลยบางคนอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ยืน จำเลยที่ไม่อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าโดยความยินยอมของคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสต่างประเทศ และการใช้หนังสือหย่าตามกฎหมายแพ่ง
สามีภริยายื่นคำร้องต่อกรมการอำเภอ มีข้อความกล่าวไว้ชัดแจ้งว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา กัน ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย มีพยานลงลายมือชื่อสองคน ดังนี้ ก็ถือได้ว่า หนังสือคำร้องนั้นเป็นหนังสือหย่าอย่าง บริบูรณ์ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1498.
ชายไทยทำการสมรสกับหญิงต่างด้าว ณต่างประเทศได้จดทะเบียน ณ ต่างประเทศ โดยมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนัก วานฑูตหรือกงศุลไทย ตามมาตรา 1450 วรรคท้าย นั้น การสมรสดังว่านี้ เป็นการสมรสที่มิได้จดทะเบียนตาม ป.ม. แพ่งฯ ฉะนั้นการหย่าจึงไม่ต้องจดทะเบียนตาม ป.ม.แพ่งฯ ก็ใช้ได้./
ชายไทยทำการสมรสกับหญิงต่างด้าว ณต่างประเทศได้จดทะเบียน ณ ต่างประเทศ โดยมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนัก วานฑูตหรือกงศุลไทย ตามมาตรา 1450 วรรคท้าย นั้น การสมรสดังว่านี้ เป็นการสมรสที่มิได้จดทะเบียนตาม ป.ม. แพ่งฯ ฉะนั้นการหย่าจึงไม่ต้องจดทะเบียนตาม ป.ม.แพ่งฯ ก็ใช้ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าโดยความยินยอมและการสิ้นสุดสภาพสมรสที่จดทะเบียนต่างประเทศ
สามีภริยายื่นคำร้องต่อกรมการอำเภอ มีข้อความกล่าวไว้ชัดแจ้งว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายมีพยานลงลายมือชื่อสองคนดังนี้ก็ถือได้ว่า หนังสือคำร้องนั้นเป็นหนังสือหย่าอย่างบริบูรณ์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1498
ชายไทยทำการสมรสกับหญิงต่างด้าว ณ ต่างประเทศได้จดทะเบียนณ ต่างประเทศ โดยมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานทูตหรือกงศุลไทยตามมาตรา 1450 วรรคท้าย นั้นการสมรสดังว่านี้ เป็นการสมรสที่มิได้ทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉะนั้นการหย่าจึงไม่ต้องจดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก็ใช้ได้
ชายไทยทำการสมรสกับหญิงต่างด้าว ณ ต่างประเทศได้จดทะเบียนณ ต่างประเทศ โดยมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานทูตหรือกงศุลไทยตามมาตรา 1450 วรรคท้าย นั้นการสมรสดังว่านี้ เป็นการสมรสที่มิได้ทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉะนั้นการหย่าจึงไม่ต้องจดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก็ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามสัญญา การส่งมอบสินค้าไม่ครบถ้วน และผลกระทบต่อการผิดสัญญา
โจทก์จำเลย สัญญาตกลงกันว่าจำเลยจะจัดการซ่อมแซมและจัดหาเครื่องจักรให้พร้อมบูรณ์เหมือนเดิม ส่งมอบให้โจทก์ก่อนวันที่ 25 กันยายน แต่โจทก์จะต้องมีกรรมการผู้เป็นกลางไปตรวจรับมอบด้วย 3 คน ครั้นถึงวันที่ 25 กันยายนแม้โจทก์จะมีกรรมการคนเดียวไปรับมอบขาดกรรมการไป 2 คนแต่ปรากฏว่า จำเลยยังจัดการซ่อมแซมเครื่องจักรไม่เสร็จและยังจัดหาเครื่องจักรไม่ครบถ้วนดังนี้ จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญายังไม่ได้