พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีฆ่าคนตาย ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี.
ศาลอุทธรณ์พิพากษามาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกัน แต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตามมาตรา 249,-53
จำคุก 3 ปี ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้.
ศาลอุทธรณ์พิพากษามาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกัน แต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตามมาตรา 249,-53
จำคุก 3 ปี ดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุในคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา249 จำคุก 15 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน 3คงจำคุก 10 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันแต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก3 ปีดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยกระทำโดยป้องกันแต่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ ผิดตาม มาตรา 249,53 จำคุก3 ปีดังนี้ เป็นการแก้มาก โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ การมอบอำนาจให้ทนายบอกกล่าวก็เช่นกัน
การมอบอำนาจให้ทนายความบอกกล่าวเลิกการเช่าตึกแถว ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทของผู้ขับรถรางและการดูแลระมัดระวังเมื่อมีผู้โดยสารลงจากรถเมล์
แม้ผู้เสียหายจะประมาทอยู่ด้วยถ้าจำเลยระมัดระวังตามควรแก่ฐานะแล้วก็จะไม่เป็นอันตรายแก่ผู้เสียหายดังนี้ จำเลยจะต้องรับผิดฐานทำให้บาดเจ็บสาหัสโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตบทบัญญัติ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง: การบังคับใช้กับผู้เข้ามาอยู่ก่อนและหลังวันใช้กฎหมาย
บทบัญญัติมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ซึ่งบัญญัติว่า "คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรด้วย
การเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 21 หรือโดยฝ่าฝืนหลีกเลี่ยงไม่กลับออกไปตามคำสั่งของ
พนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิด ฯลฯ" นั้น มุ่งหมายให้ใช้สำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาภายหลังวันใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
พ.ศ.2493 ถ้าเข้ามาอยู่ก่อนวันใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ย่อมไม่มีความผิดตามมาตราที่กล่าว./
การเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 21 หรือโดยฝ่าฝืนหลีกเลี่ยงไม่กลับออกไปตามคำสั่งของ
พนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิด ฯลฯ" นั้น มุ่งหมายให้ใช้สำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาภายหลังวันใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
พ.ศ.2493 ถ้าเข้ามาอยู่ก่อนวันใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 ย่อมไม่มีความผิดตามมาตราที่กล่าว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.ก.คนเข้าเมือง พ.ศ.2493 กับผู้เข้ามาอยู่ก่อนวันมีผลบังคับใช้
บทบัญญัติมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493ซึ่งบัญญัติว่า 'คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรด้วยการเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 21หรือโดยฝ่าฝืนหลีกเลี่ยงไม่กลับออกไปตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ มีความผิดฯลฯ' นั้นมุ่งหมายให้ใช้สำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาภายหลังวันใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 ถ้าเข้ามาอยู่ก่อนวันใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 ย่อมไม่มีความผิดตามมาตราที่กล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ แม้มีการฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้อื่น จำเลยยังต้องรับผิดใช้เงินที่ยักยอก
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และขอให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปด้วยนั้น แม้จะปรากฏว่าได้มีการฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไปนั้นจากผู้อื่น ซึ่งอาจต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตามเมื่อปรากฏว่าความจริงยังมิได้รับใช้เงินจำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการยักยอกทรัพย์และการใช้เงินคืน แม้มีการฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้อื่น
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และขอให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปด้วยนั้น แม้จะปรากฎว่าได้มีการฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไปนั้นจากผู้อื่น ซึ่งอาจต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อปรากฎว่าความจริงยังมิได้รับใช้เงิน จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิ ผู้ครอบครองปรปักษ์ไม่อาจต่อสู้ได้
ผู้ครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ จะยกข้อครอบครองโดยปรปักษ์ขึ้นต่อสู่ผู้รับซื้อที่ดินนั้น อันเป็นบุคคลภายนอกผู้รับ
โอนโฉนดรายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1299 หาได้ไม่./
โอนโฉนดรายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1299 หาได้ไม่./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเหนือที่ดิน: ผู้รับซื้อที่ดินโดยสุจริตมีสิทธิเหนือผู้ครอบครองปรปักษ์
ผู้ครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ จะยกข้อครอบครองโดยปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ผู้รับซื้อที่ดินนั้นอันเป็นบุคคลภายนอกผู้รับโอนโฉนดที่รายนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริต และจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 หาได้ไม่