คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมจากเงินกู้ใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ของครอบครัว: การรักษาพยาบาลบุตรและค่าทนายความ
สามีกู้เงินเขามาใช้จ่ายเป็นค่าทนายในการที่ฟ้องพี่ชายของภริยาจนได้ที่ดินบางส่วนกลับคืนมาเป็นสินเดิมของภริยากับสามีได้เอาเงินที่กู้มานั้น มาใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลบุตร ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่เช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นหนี้ร่วมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1482 เจ้าหนี้เงินกู้มีอำนาจยึดที่ดินสินเดิมของภริยาดังกล่าวแล้วใช้หนี้เงินกู้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยักยอกทรัพย์ต้องระบุรายละเอียดชัดเจน และการหลอกลวงขายของเป็นความผิดตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่า จำเลยยักยอกทรัพย์ แต่มิได้ระบุวันเวลาที่กล่าวหา เป็นแต่ระบุเดือนปีที่กล่าวหาทั้งเดือน และไม่ได้บรรยายด้วยว่าจำเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาหรือเก็บรักษาทรัพย์หรือจัดการทรัพย์อย่างใดๆ นั้นศาลย่อมไม่รับพิจารณาข้อหาฐานยักยอกทรัพย์
ฟ้องหาว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ว่าจำเลยเป็นเจ้าของตู้เย็น ขอขายให้โจทก์ โจทก์หลงเชื่อรับซื้อไว้ ดังนี้ แม้จะมิได้กล่าวว่าหลงเชื่อว่าอย่างไรก็พอเข้าใจได้ว่าหลงเชื่อว่าเป็นทรัพย์ของจำเลยตามที่ใช้อุบายหลอกลวงนั้น คำว่าใช้อุบายหลอกลวงว่าจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ก็พอเข้าใจได้ว่า จำเลยเอาความเท็จมากล่าวว่าเป็นของจำเลย และเมื่อพิจารณาประกอบฟ้องอีกข้อหนึ่ง ที่ว่าโจทก์ไปที่ร้านค้าจำเลย ปรากฏว่าสิ่งของทั้งหมดไม่มีอยู่ในร้าน ถามจำเลยจำเลยว่าของเหล่านี้เดิมจำเลยเช่ามาจากเจ้าของ เจ้าของเอาไปหมดแล้ว เป็นการแสดงว่า ของที่กล่าวไม่ใช่ของจำเลย แต่จำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าเป็นของจำเลย และขายให้โจทก์ จึงเป็นฟ้องที่ศาลควรรับฟ้องไว้พิจารณาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายภรรยาถึงบาดเจ็บเป็นเหตุให้หย่าได้
สามีใช้กำปั้น ใช้เท้าเตะ และใช้ไม้โตเท่าผลส้มเขียวหวานตีภรรยา มีบาดแผลบวมช้ำเขียว รวม 23 แห่งด้วยกัน ต้องรักษาตัวอยู่รวม 20 กว่าวัน มีนายแพทย์มาเบิกความประกอบว่า ภรรยต้องรักษาตัวอยู่ที่ศุขศาลา 17 วัน มีอาการเจ็บที่อก ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและเป็นเหตุให้ภริยาฟ้องขอหย่าจากสามีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นเหตุให้หย่าได้
สามีใช้กำปั้นตีใช้เท้าเตะและใช้ไม้โตเท่าผลส้มเขียวหวานตีภรรยามีบาดแผลบวมช้ำเขียว รวม 23 แห่งด้วยกัน ต้องรักษาตัวอยู่รวม 20 กว่าวัน มีนายแพทย์มาเบิกความประกอบว่าภรรยาต้องรักษาตัวอยู่ที่สุขศาลา 17 วัน มีอาการเจ็บที่อก ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและเป็นเหตุให้ภริยาฟ้องขอหย่าจากสามีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินด้วยวาจาและการครอบครองปรปักษ์ กรณีจำเลยปฏิเสธการซื้อขาย
โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินมือเปล่าจากจำเลย ครอบครองมากว่า10 ปีแล้ว บัดนี้จำเลยมาขัดขวางโจทก์ มิให้โจทก์ใช้สอยที่ดินโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย จึงขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยต่อสู้ว่า มิได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ เป็นแต่จำนำไว้ให้โจทก์ยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินทำกินโดยอายุความและหน้าที่การนำสืบพยาน
โจทก์ฟ้องว่า ซื้อที่ดินมือเปล่าจากจำเลย ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว บัดนี้จำเลยมาขัดขวางโจทก์มิให้โจทก์ใช้สอยที่ดินที่ดินโดยอ้างว่าเป็นของจำเลย จึงขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง
จำเลยต่อสู้ว่า มิได้ขายที่พิพาทให้โจทก์ เป็นแต่จำนำไว้ ให้โจทก์ยึดถือที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย ดังนี้
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝากภายในกำหนด และสิทธิในการฟ้องบังคับไถ่ถอน แม้ฟ้องเกินกำหนดสัญญา
คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อน เพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝาทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มา ผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนด โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องของให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้ แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่การขายฝากและการฟ้องร้องเมื่อเกินกำหนดสัญญา
คดีที่ศาลนัดชี้สองสถานไว้ แต่ถึงวันนัด โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่มีทางปรองดองกัน ขอให้นัดพิจารณาไป โจทก์รับเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเพียงเท่านี้ หาใช่เป็นการชี้สองสถานตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183ไม่ ฉะนั้นคู่ความจึงมีสิทธิขอแก้ฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันสืบพยาน
ขายฝากทรัพย์ไว้แก่เขาแล้วได้ติดต่อขอไถ่ถอนภายในกำหนดเขารับว่าจะรับการไถ่ถอน แต่ถึงกำหนด ก็ไม่มาผู้ขายฝากจึงร้องต่ออำเภอท้องที่ และนำเงินไปเพื่อไถ่ถอนที่อำเภอก่อนครบกำหนดตามสัญญา ดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่การขายฝากภายในกำหนดโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้ผู้รับซื้อฝากรับการไถ่ถอนการขายฝากได้แม้จะฟ้องเมื่อเกินกำหนดสัญญาไปก็ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม แม้ศาลสูงจะพิพากษากลับ ผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิด
ผู้เช่าถูกผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่ และไม่ได้รับการทุเลาการบังคับ ผู้เช่าจึงต้องออกจากห้องเช่าไป ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง กลับปรากฏว่าผู้ให้เช่าได้เอาห้องเช่านั้นไปให้ผู้อื่นเช่าอยู่ต่อไปเสียแล้ว ดังนี้เมื่อการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ผู้เช่าคนเดิมก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับคดีให้ผู้ให้เช่าและคนเช่าใหม่คืนห้องเช่าแก่ตนได้
และการที่ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่า ก็เป็นไปโดยคำบังคับของศาลตามคำพิพากษาซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีคำพิพากษาของศาลสูงกว่าเปลี่ยนแปลงฉะนั้นแม้ภายหลังศาลสูงจะพิพากษากลับว่ายังขับไล่ผู้เช่าไม่ได้ ผู้ให้เช่าก็ไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการสิ้นสุดสิทธิเช่า: แม้ศาลฎีกาจะยกฟ้อง แต่ผู้เช่าที่ถูกขับไล่ตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีสิทธิกลับเข้าใช้ห้องเช่า
ผู้เช่าถูกผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ออกจากห้องเช่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ขับไล่ และไม่ได้รับการทุเลาการบังคับ ผู้เช่าจึงต้องออกจากห้องเช่าไป ต่อมาศาลฎีกา พิพากษายกฟ้อง กลับปรากฎว่าให้ผู้เช่าได้เอาห้องเช่านั้นไปให้ไปให้ผู้อื่นเช่าอยู่ต่อไปเสียแล้ว ดังนี้เมื่อการเช่าไม่มีหลีกฐาน เป็นหนังสือ ผู้เช่าคนเดิมก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับคดีให้ผู้เช่าและคนเช่าใหม่คืนห้องเช่าแก่ตนได้
และการที่ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่า ก็เป็นไปโดยคำบังคับของศาลตามคำพิพากษาซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีคำพิพากษาของศาลสูงกว่าเปลี่ยนแปลงฉะนั้นแม้ภายหลังศาลสูงจะพิพากษากลับว่ายังขับไล่ผู้เช่าไม่ได้ ผู้ให้เช่าก็ไม่ต้องรับผิด
of 153