คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับบทกฎหมายอาญาใหม่ให้เป็นคุณแก่จำเลย แม้กฎหมายมีผลบังคับใช้หลังการกระทำผิด
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา (ฉบับที่14) พ.ศ.2494 มาตรา 7 ที่ว่า "ผู้ใดอายุกว่าสิบเจ็ดขวบแต่ยังไม่เกินยี่สิบขวบกระทำการอันกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดถ้าศาลเห็นสมควรจะลดมาตราส่วนโทษที่กำหนด ไว้สำหรับความผิดนั้นลง 1 ใน 3 หรือกึ่งหนึ่งก็ได้" แม้ พระราชบัญญัตินี้จะประกาศใช้ภายหลังการกระทำผิดของจำเลยก็ดี แต่ถ้าคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล. ศาลนั้นก็มีอำนาจที่จะยก พระราชบัญญัตินี้ขึ้นปรับบทให้เป็นคุณแก่จำเลยได้ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องยักยอกทรัพย์ที่ขาดความชัดเจนในวันเวลาที่กระทำความผิด ทำให้ฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องบรรยายว่าได้ฝากทรัพย์ไว้แก่จำเลย ต่อมาเดือน8 ปีนี้ตรงกับเดือนกรกฎาคม 2493 โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่น ขอให้ลงโทษ ดังนี้มิได้กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์วันใด หรือระหว่างวันเดือนใด จึงได้ชื่อว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องยักยอกทรัพย์ไม่ชัดเจนวันเวลาที่กระทำผิด ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องบรรยายว่าได้ฝากทรัพย์ไว้แก่จำเลย ต่อมาเดือน 8 ปีนี้ตรงกับเดือนกรกฎาคม 2493 โจทก์ไปขอรับทรัพย์ที่ฝากคืน จำเลยไม่คืนให้โดยเจตนาทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้อื่น ขอให้ลงโทษ ดังนี้ มิได้กล่าวว่าจำเลยยักยอกทรัพย์วันใด หรือระหว่างวันเดือนใด จึงได้ชื่อว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำ: โจทก์คนละคน แม้ผู้รับมอบอำนาจเป็นคนเดิม ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
เคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในนามตนเอง ศาลพิพากษาว่าไม่มีอำนาจฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง ภายหลังจึงมาฟ้องจำเลยใหม่โดยเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิฟ้องจำเลย ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ผู้ฟ้องคดีหลังนี้ เป็นคนละคนกับในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและฟ้องซ้ำ: โจทก์คนละคนย่อมไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้เคยฟ้องแล้วยกฟ้อง
เคยเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในนามตนเอง ศาลพิพากษาว่าไม่มีอำนาจฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริง ภายหลังจึงมาฟ้องจำเลยใหม่โดยเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิฟ้องจำเลย ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ผู้ฟ้องคดีหลังนี้ เป็นคนละคนกับในคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ การที่คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยประเพณีข้อกฎหมายศาลมีอำนาจตัดสินไปตามนั้นได้ตาม มาตรา 183 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหาใช่กิจการพนันขันต่อไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลในคดีแพ่ง: ศาลฎีกามุ่งหมายให้ชำระเฉพาะชั้นฎีกา
ผู้ขายฝากฟ้องว่า ได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากแล้วแต่ผู้รับซื้อไม่ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน จึงขอให้ศาลบังคับผู้ซื้อให้ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน ฝ่ายผู้ซื้อให้การปฏิเสธว่าไม่เคยรับเงินค่าไถ่ถอนจากผู้ขายฝากเลย ดังนี้ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เท่าราคาทรัพย์ที่ขายฝาก โจทก์เสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ครั้นคดีมาถึงชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเส่ยให้ถูกต้อง ดังนี้ ย่อมมุ่งหมายให้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลที่ถูกต้องในคดีซื้อขายฝาก – ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม
ผู้ขายฝากฟ้องว่า ได้ชำระเงินค่าไถ่ถอนทรัพย์ที่ขายฝากแล้วแต่ผู้รับซื้อไม่ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน จึงขอให้ศาลบังคับผู้ซื้อให้ไปแก้ทะเบียนการไถ่ถอน ฝ่ายผู้ซื้อให้การปฏิเสธว่าไม่เคยรับเงินค่าไถ่ถอนจากผู้ขายฝากเลย ดังนี้ถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ เท่าราคาทรัพย์ที่ขายฝาก โจทก์เสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ครั้นคดีมาถึงชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเสียให้ถูกต้อง ดังนี้ ย่อมมุ่งหมายให้เสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน: การพิจารณาความผิดตามมาตราที่ถูกต้อง
จำเลยเป็นข้าราชการพลเรือนวิสามัญชั้นตรี รับราชการอยู่ในแผนกเงินและรายได้ กองผลประโยชน์สำนักงานท่าเรือกรุงเทพ ฯ กรมการขนส่งกระทรวงคมนาคมมีหน้าที่เก็บเงินลูกหนี้ของสำนักงานท่าเรือกรุงเทพฯ แล้วต้องนำส่งต่อเจ้าหน้าที่กองผลประโยชน์ แต่จำเลยเก็บเงินมาแล้วบังอาจยักยอกเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย มิได้ส่งให้ทั้งหมดตามหน้าที่ ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 131 ไม่ใช่มาตรา 319 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการยักยอกเงินของสำนักงาน – ความผิดตามมาตรา 131
จำเลยเป็นข้าราชการพลเรือนวิสามัญชั้นตรี รับราชการอยู่ในแผนกเงินและรายได้ กองผลประโยชน์สำนักงานท่าเรือกรุงเทพฯกรมการขนส่ง กระทรวงคมนาคม มีหน้าที่เก็บเงินลูกหนี้ของสำนักงานท่าเรือกรุงเทพฯแล้วต้องนำส่งต่อเจ้าหน้าที่กองผลประโยชน์ แต่จำเลยเก็บเงินมาแล้วบังอาจยักยอกเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย มิได้ส่งให้ทั้งหมดตามหน้าที่ ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 ไม่ใช่มาตรา 319(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
หญิงที่อยู่กินกับชาย โดยไม่จดทะเบียนสมรสนั้น ไม่ใช่ภรรยาอันชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อชายถูกเขาฆ่าตาย หญิงนั้นย่อมมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องหรือร้องขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการฟ้องผู้ฆ่าเป็นจำเลย
of 153