คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทรงนิติกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยทุจริตทำให้การจำนองจากผู้ไม่มีสิทธิทำสัญญาเป็นโมฆะ กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของผู้ถือกรรมสิทธิ์เดิม
จำเลยที่ 1 รับเอาโฉนดที่พิพาทของโจทก์ไปโดยบอกว่าจะซื้อ แล้วจัดการโอนเอาเสียเองโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยเมื่อนิติกรรมการโอนที่ดินรายพิพาทมาเป็นของจำเลยที่ 1 เกิดขึ้นจากการทุจริตและโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วยนิติกรรมการโอนเป็นโมฆะแล้วก็ต้องถือเสมือนว่ามิได้มีนิติกรรมการโอนเกิดขึ้นเลยกรรมสิทธิ์ในที่ดินยังคงเป็นของโจทก์อยู่ตามเดิมหาตกเป็นของจำเลยที่ 1 ไม่เมื่อจำเลยที่ 1ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้วจำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะเอาที่ดินนั้นไปจำนองใครได้ การที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนรับจำนองที่ดินรายนี้ไว้จากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิจะจำนองได้ จึงไม่เกิดผลให้จำเลยที่2 มีสิทธิตามนิติกรรมจำนองนั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยทุจริตเป็นโมฆะ สิทธิจำนองที่จดทะเบียนกับผู้ไม่มีสิทธิไม่สมบูรณ์
จำเลยที่ 1 รับเอาโฉนดที่พิพาทของโจทก์ไปโดยบอกว่าจะซื้อ แล้วจัดการโอนเอาเสียเองโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย เมื่อนิติกรรมการโอนที่ดินรายพิพาทมาเป็นของจำเลยที่ 1 เกิดขึ้นจากการทุจริตและโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย นิติกรรมการโอนเป็นโมฆะแล้ว ก็ต้องถือเสมือนว่ามิได้มีนิติกรรมการโอนเกิดขึ้นเลย กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังคงเป็นของโจทก์อยู่ตามเดิม หาตกเป็นของจำเลยที่ 1 ไม่ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแล้ว จำเลยที่ 1 ก็ไม่มีสิทธิจะเอาที่ดินนั้นไปจำนองใครได้ การที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนรับจำนองที่ดินรายนี้ไว้จากจำเลยที่ 1 ผู้ไม่มีสิทธิจะจำนองได้ จึงไม่เกิดผลให้จำเลยที่ 2 มีสิทธิตามนิติกรรมจำนองนั้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของไม่สำเร็จ สิทธิค่าจ้างและเงินยืมทดรอง
สัญญาจ้างทำของถือผลสำเร็จแห่งการที่ทำถ้าทำการที่จ้างไม่เสร็จก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้างและถ้ารับเงินที่ยืมทดรองไปเพื่อดำเนินการก่อนก็ต้องคืนผู้ว่าจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของไม่สำเร็จ สิทธิเรียกร้องค่าจ้างและเงินยืมทดรอง
สัญญาจ้างทำของถือผลสำเร็จแห่งการที่ทำ ถ้าทำการที่จ้างไม่เสร็จก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้าง และถ้ารับเงินที่ยืมทดรองไปเพื่อดำเนินการก่อนก็ต้องคืนผู้ว่าจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินร่วมกันระหว่างสามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน: การพิสูจน์เจตนาให้เป็นเจ้าของร่วม
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกัน มีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกัน ทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม (อ้างฎีกาที่ 303/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถือครองทรัพย์สินร่วมกันระหว่างอยู่กินฉันท์สามีภริยา แม้ใช้เงินฝ่ายเดียวซื้อ
พฤติการณ์ที่จำเลยกับบิดาโจทก์อยู่กินกันฉันท์สามีภริยาและนำเอาเงินซื้อขายที่นาเดิมของจำเลยมาซื้อแล้วทำนาที่ซื้อใหม่นี้ร่วมกันจนบิดาโจทก์ตายเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับบิดาโจทก์ได้ร่วมเข้าทำมาหากินด้วยกันมีเจตนาให้ทรัพย์ที่ซื้อหามาใหม่นี้เป็นทรัพย์ร่วมกันทรัพย์ที่ได้มาในระหว่างอยู่กินร่วมกันทำนองนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายเงินของฝ่ายใดซื้อหามาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายต่างเป็นเจ้าของร่วม
(อ้างฎีกาที่ 303/2488)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: พฤติการณ์เลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นบุตรเพียงพอตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้ แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 และพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 19
(ฎีกาที่ 1503/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: การเลี้ยงดูและจดทะเบียนเป็นหลักฐานการรับรองตามกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายนั้นเมื่อมีพฤติการณ์แสดงออก เช่น บิดาได้เลี้ยงดู ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จดทะเบียนว่าเป็นบุตรของตน และให้ใช้นามสกุล เช่นนี้แล้วย่อมเป็นการแสดงว่าบิดาได้รับรองแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 1627 ไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ครอบครัว ซึ่งผิดกับกรณีที่จะจดทะเบียนเด็กให้เป็นบุตรตาม ป.พ.พ. มาตรา 1527 และพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ. 2478 มาตรา 19 (ฎีกาที่ 1503/2497)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเลิกสัญญาเช่าที่ดินโบราณสถานเพื่อสาธารณประโยชน์ ย่อมไม่ขัดต่อกฎหมายควบคุมค่าเช่า หากทำโดยสมัครใจและทราบวัตถุประสงค์
ข้อสัญญาในสัญญาเช่าที่ว่าคู่สัญญาจะยอมเลิกการเช่ากันเมื่อผู้ให้เช่ามีความประสงค์จะใช้ที่เช่านั้นถ้าข้อสัญญานี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ โดยฝ่ายผู้เช่าได้เห็นสภาพที่เช่าและรู้ความประสงค์ของผู้ให้เช่าดีแล้วจึงยอมตกลงด้วย และข้อตกลงนั้นเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ข้อตกลงเช่นนี้ย่อมไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกการเช่าตามข้อตกลงนั้นได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเลิกสัญญาเช่าที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า หากทำด้วยความสมัครใจและทราบถึงวัตถุประสงค์
ข้อสัญญาในสัญญาเช่าที่ว่าคู่สัญญาจะยอมเลิกการเช่ากันเมื่อผู้ให้เช่ามีความประสงค์จะใช้ที่เช่านั้น ถ้าข้อสัญญานี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ โดยฝ่ายผู้เช่าได้เห็นสภาพที่เช่าและรู้ความประสงค์ของผู้ให้เช่าดีแล้วจึงยอมตกลงด้วย และข้อตกลงนั้นเกี่ยวกับ สาธารณประโยชน์ ข้อตกลงเช่นนี้ย่อมไม่ขัดต่อ พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์บอกเลิกการเช่าตามข้อตกลงนั้นได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2501)
of 134