พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตายโดยแต่งงานกันภายหลังวันใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 แล้วแต่มิได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย ดังนี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
โจทก์เป็นภรรยาผู้ตายโดยแต่งงานกันภายหลังวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว แต่มิได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย ดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องเขตที่ดินและการรุกล้ำที่ดิน ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อย ทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกครัว ห้องและกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่โจทก์เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหาย 490 บาท จำเลยว่าที่ ๆ ปลูกครัวห้องแถวและรั้วเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การทำรั้วเป็นการละเมิด แต่การปลูกครัวและห้องแถวไม่เป็นการละเมิด ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 80 บาท ศาลอุทธรณ์แก้ว่าการทำรั้วก็ไม่เป็นการละเมิดให้ยกฟ้องทั้งหมด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้. (คดีนี้คู่ความไม่ได้ตีราคาที่ดินตรงที่พิพาทกันนั้นขึ้นมา)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1486/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทที่ดิน: การรุกล้ำที่ดินและการแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริงเนื่องจากทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกครัว ห้องและกั้นรั้วล้ำเข้าไปในที่โจทก์เป็นการละเมิดเรียกค่าเสียหาย 490 บาท จำเลยว่าที่ที่ปลูกครัวห้องแถวและรั้วเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การทำรั้วเป็นการละเมิด แต่การปลูกครัวและห้องแถวไม่เป็นการละเมิด ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 80 บาทศาลอุทธรณ์แก้ว่าการทำรั้วก็ไม่เป็นการละเมิดให้ยกฟ้องทั้งหมด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ (คดีนี้คู่ความไม่ได้ตีราคาที่ดินตรงที่พิพาทกันนั้นขึ้นมา)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482-1483/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน คำนวณจากราคาตลาดเมื่อจำเลยผัดผ่อน
การให้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีผิดสัญญา ก็เพื่อที่จะชดใช้ และให้ความพอใจแก่ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญาสำหรับความเสียหายที่ฝ่ายนั้นได้รับ ฉะนั้น จึงต้องกำหนดจำนวนเงินที่จะให้ให้เพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญากลับไปอยู่ในฐานะเดิมเช่นเดียวกับเมื่อไม่มีการผิดสัญญาเกิดขึ้น
คดีโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ให้โจทก์ตามสัญญาจะขาย ถ้าจำเลยโอนที่ให้โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้ที่ถ้าหากที่นั้นมีราคามากกว่าราคาที่ตกลงไว้ในสัญญาราคาที่ผิดกันนั้น ย่อมเป็นผลประโยชน์ที่โจทก์สูญเสียไปจึงเป็นหลักค่าคำนวณค่าเสียหายได้
ในกรณีที่ผู้ขายที่ดินผิดสัญญา มีปัญหาว่าจะเอาราคาอันใด เมื่อได้ไปเทียบกับราคาในสัญญา ป.ม.แพ่งฯมาตรา 222 ไม่ได้กำหนดข้อนี้ไว้ ทั้งเป็นกรณีไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในสัญญา จึงไม่เข้ามาตรา 380 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อครบกำหนดโอนตามสัญญา จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาเพิ่งมาปฏิเสธไม่ยอมขายในภายหลัง จึงจะถือเอาราคาที่ดินในวันที่ครบกำหนดโอนตามสัญญาไม่ได้
คดีโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ให้โจทก์ตามสัญญาจะขาย ถ้าจำเลยโอนที่ให้โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้ที่ถ้าหากที่นั้นมีราคามากกว่าราคาที่ตกลงไว้ในสัญญาราคาที่ผิดกันนั้น ย่อมเป็นผลประโยชน์ที่โจทก์สูญเสียไปจึงเป็นหลักค่าคำนวณค่าเสียหายได้
ในกรณีที่ผู้ขายที่ดินผิดสัญญา มีปัญหาว่าจะเอาราคาอันใด เมื่อได้ไปเทียบกับราคาในสัญญา ป.ม.แพ่งฯมาตรา 222 ไม่ได้กำหนดข้อนี้ไว้ ทั้งเป็นกรณีไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในสัญญา จึงไม่เข้ามาตรา 380 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อครบกำหนดโอนตามสัญญา จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาเพิ่งมาปฏิเสธไม่ยอมขายในภายหลัง จึงจะถือเอาราคาที่ดินในวันที่ครบกำหนดโอนตามสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482-1483/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากผิดสัญญาซื้อขายที่ดิน: หลักการชดใช้ความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม
การให้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีผิดสัญญา ก็เพื่อที่จะชดใช้และให้ความพอใจแก่ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญาสำหรับความเสียหายที่ฝ่ายนั้นได้รับ ฉะนั้น จึงต้องกำหนดจำนวนเงินที่จะให้ให้เพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายที่ไม่ผิดสัญญากลับไปอยู่ในฐานะเดิมเช่นเดียวกับเมื่อไม่มีการผิดสัญญาเกิดขึ้น
คดีโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ให้โจทก์ตามสัญญาจะขายถ้าจำเลยโอนที่ให้โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้ที่ถ้าหากที่นั้นมีราคามากกว่าราคาที่ตกลงไว้ในสัญญา ราคาที่ผิดกันนั้น ย่อมเป็นผลประโยชน์ที่โจทก์สูญเสียไป จึงเป็นหลักค่าคำนวณค่าเสียหายได้
ในกรณีที่ผู้ขายที่ดินผิดสัญญา มีปัญหาว่าจะเอาราคาอันใด เมื่อได้ไปเทียบกับราคาในสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 222 ไม่ได้กำหนดข้อนี้ไว้ ทั้งเป็นกรณีไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในสัญญา จึงไม่เข้ามาตรา 380 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อครบกำหนดโอนตามสัญญา จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาเพิ่งมาปฏิเสธไม่ยอมขายในภายหลัง จึงจะถือเอาราคาที่ดินในวันที่ครบกำหนดโอนตามสัญญาไม่ได้
คดีโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ให้โจทก์ตามสัญญาจะขายถ้าจำเลยโอนที่ให้โจทก์ โจทก์ก็ย่อมได้ที่ถ้าหากที่นั้นมีราคามากกว่าราคาที่ตกลงไว้ในสัญญา ราคาที่ผิดกันนั้น ย่อมเป็นผลประโยชน์ที่โจทก์สูญเสียไป จึงเป็นหลักค่าคำนวณค่าเสียหายได้
ในกรณีที่ผู้ขายที่ดินผิดสัญญา มีปัญหาว่าจะเอาราคาอันใด เมื่อได้ไปเทียบกับราคาในสัญญาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 222 ไม่ได้กำหนดข้อนี้ไว้ ทั้งเป็นกรณีไม่ได้กำหนดเบี้ยปรับกันไว้ในสัญญา จึงไม่เข้ามาตรา 380 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อครบกำหนดโอนตามสัญญา จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาเพิ่งมาปฏิเสธไม่ยอมขายในภายหลัง จึงจะถือเอาราคาที่ดินในวันที่ครบกำหนดโอนตามสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนอง vs. ขายฝาก: การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงจากซื้อขายเป็นจำนองมีผลอย่างไร
โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่นาไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ต้องการเงิน ได้ตกลงจะขายที่นาให้แก่จำเลย แต่การขายต้องรังวัดและประกาศโฆษณา โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรมสัญญา เป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้และเลิกข้อความตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จะนำสืบถึงการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนอง vs. ขายฝาก: การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมเป็นจำนองใหม่ ไม่ถือเป็นการขายฝาก
โจทก์ได้ทำสัญญาจำนองที่นาไว้กับจำเลย โดยมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ต้องการเงิน ได้ตกลงจะขายที่นาให้แก่จำเลย แต่การขายต้องรังวัดและประกาศโฆษณา โจทก์ต้องการเงินด่วนจึงได้ทำกรมธรรม์สัญญา เป็นการเพิ่มเงินจำนอง ดังนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้และเลิกข้อความตกลงเรื่องซื้อขายมาทำเป็นจำนองแล้ว จำนำสืบถึงการซื้อขายอีกก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการทำให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้
ทำกรมธรรม์จำนองที่นาแต่มอบที่นาให้ทำต่างดอกเบี้ยเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 แล้ว ไม่เป็นการทำให้สัญญาจำนองกลับกลายเป็นสัญญาขายฝากได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำเลยในฐานะผู้เช่าและการบังคับคดีแก่ผู้ที่อยู่อาศัยสืบเนื่องจากสัญญาเช่าเดิม
เดิมจำเลยได้เช่าตึกของโจทก์ประกอบการค้าโดยจำเลยเป็นเจ้าของ ต่อมาได้ตั้งเป็นหุ้นส่วน บุคคลในหุ้นส่วนก็คงถือว่าเป็นบริวารของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่และการขยายผลถึงผู้ที่เข้ามาอยู่ในอาคารโดยอาศัยอำนาจผู้เช่าเดิม แม้มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
เดิมจำเลยได้เช่าตึกของโจทก์ประกอบการค้าโดยจำเลยเป็นเจ้าของ ต่อมาได้ตั้งเป็นหุ้นส่วน บุคคลในหุ้นส่วนก็คงถือว่าเป็นบริวารของจำเลย