พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนใจเรียกทรัพย์โดยอ้างอำนาจกองทัพ: ไม่เข้าข่ายปล้นทรัพย์
จำเลยได้ส่งซองจดหมายอักษรจีนให้ผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อความว่า "กองทัพที่ 8 ขาดสะเบียง จึงมาขอเรี่ยรายเงิน" และจำเลยได้พูดให้ผู้เสียหายออกเงินแล้วจะรักษาความปลอดภัยให้ ถ้าไม่ให้เงินจะเป็นอันตราย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้จำเลย โดยจำเลยเอาอำนาจกองทัพที่ 8 อันเป็นส้องโจรมาขู่ผู้เสียหาย ความผิดของจำเลยต้องด้วย ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 268 วรรค 4.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนใจเอาทรัพย์โดยอ้างอำนาจซ่องโจร มิใช่ปล้นทรัพย์
จำเลยได้ส่งซองจดหมายอักษรจีนให้ผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อความว่า 'กองทัพที่ 8 ขาดเสบียง จึงมาขอเรี่ยไรเงิน' และจำเลยได้พูดให้ผู้เสียหายออกเงินแล้วจะรักษาความปลอดภัยให้ ถ้าไม่ให้เงินจะเป็นอันตรายดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการข่มขืนใจให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์ให้จำเลยโดยจำเลยเอาอำนาจกองทัพที่ 8 อันเป็นซ่องโจรมาขู่ผู้เสียหาย ความผิดของจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268 วรรคสี่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซ่อมรถไม่เรียบร้อย ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยได้ว่าจ้างให้โจทก์ซ่อมรถให้จำเลย โจทก์ซ่อมรถไม่ดีรถจึงวิ่งได้เร็วเพียง 30 ไมล์เป็นอย่างสูงเวลาโจทก์ส่งมอบรถ จำเลยรับไปโดยอิดเอื้อนและบ่นว่าทำไมจะทำให้รถวิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์จึงไม่พ้นจากความรับผิดตามมาตรา 598 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
การที่โจทก์ผู้ซ่อมรับรองว่าถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก 3 เดือน ผู้ซ่อมจะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ผู้ซ่อมรับซ่อมให้อีก ไม่หมายความโจทก์ผู้ซ่อม ซ่อมไม่ดี จำเลยผู้ว่าจ้างจะต้องนำกลับมาให้ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมจึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวของโจทก์
โจทก์ซ่อมรถให้จำเลยไม่เรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องไปจ้างที่อื่นซ่อมใหม่ ไม่ปรากฏว่าการแก้เครื่องรถนั้นโจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย จำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าแก้เครื่องที่นับว่าเรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใดไม่ปรากฏ ปัญหาว่าควรจะให้จำเลยชำระค่าซ่อมแก่โจทก์บ้างหรือไม่ จึงไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าเห็นว่าควรให้ ก็ไม่สามารถคำนวณได้อนึ่งโจทก์ไม่ได้ซ่อมแต่เครื่อง ซ่อมตัวถังและอื่นๆ ด้วย เหล่านี้เป็นมูลค่าเท่าใดไม่ปรากฏ ศาลฎีกาจึงไม่ให้จำเลยชำระค่าซ่อมเหล่านี้แก่โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป
การที่โจทก์ผู้ซ่อมรับรองว่าถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก 3 เดือน ผู้ซ่อมจะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ผู้ซ่อมรับซ่อมให้อีก ไม่หมายความโจทก์ผู้ซ่อม ซ่อมไม่ดี จำเลยผู้ว่าจ้างจะต้องนำกลับมาให้ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมจึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวของโจทก์
โจทก์ซ่อมรถให้จำเลยไม่เรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องไปจ้างที่อื่นซ่อมใหม่ ไม่ปรากฏว่าการแก้เครื่องรถนั้นโจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย จำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าแก้เครื่องที่นับว่าเรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใดไม่ปรากฏ ปัญหาว่าควรจะให้จำเลยชำระค่าซ่อมแก่โจทก์บ้างหรือไม่ จึงไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าเห็นว่าควรให้ ก็ไม่สามารถคำนวณได้อนึ่งโจทก์ไม่ได้ซ่อมแต่เครื่อง ซ่อมตัวถังและอื่นๆ ด้วย เหล่านี้เป็นมูลค่าเท่าใดไม่ปรากฏ ศาลฎีกาจึงไม่ให้จำเลยชำระค่าซ่อมเหล่านี้แก่โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซ่อมรถบกพร่อง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยได้ว่าจ้างให้โจทก์ซ่อมรถให้จำเลย โจทก์ซ่อมรถไม่ดี รถจึงวิ่งได้เร็วเพียง 30 ไมล์เป็นอย่างสูง เวลาโจทก์ส่งมอบรถ จำเลยรับไปโดยอิดเอื้อน และบ่นว่าทำไมจะทำให้รถวิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์จึงไม่พ้นจากความรับผิดตามมาตรา 598 ป.ม.แพ่งฯ
การที่โจทก์ผู้ซ่อมรับรองว่าถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก 3 เดือน ผู้ซ่อมจะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ ผู้ซ่อมรับซ่อมให้อีก ไม่หมายความโจทก์ผู้ซ่อม ซ่อมไม่ดี จำเลยผู้ว่าจ้างจะต้องนำกลับมาให้ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมจึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวของโจทก์
โจทก์ซ่อมรถให้จำเลยไม่เรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องไปจ้างที่อื่นซ่อมใหม่ ไม่ปรากฎว่าการแก้เครื่องรถนั้นโจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย จำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าแก้เครื่องที่นับว่าเรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใดไม่ปรากฎ ปัญหาว่าควรจะให้จำเลยชำระค่าซ่อมแก่โจทก์บ้างหรือไม่ จึงไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าเห็นว่าควรให้ก็ไม่สามารถคำนวณได้ อนึ่งโจทก์ไม่ได้ซ่อมแต่เครื่อง ซ่อมตัวถังและอื่น ๆ ด้วย เหล่านี้เป็นมูลค่าเท่าใดไม่ปรากฎ ศาลฎีกาจึงไม่ให้จำเลยชำระค่าซ่อมเหล่านี้แก่โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป.
การที่โจทก์ผู้ซ่อมรับรองว่าถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก 3 เดือน ผู้ซ่อมจะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ ผู้ซ่อมรับซ่อมให้อีก ไม่หมายความโจทก์ผู้ซ่อม ซ่อมไม่ดี จำเลยผู้ว่าจ้างจะต้องนำกลับมาให้ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมจึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวของโจทก์
โจทก์ซ่อมรถให้จำเลยไม่เรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องไปจ้างที่อื่นซ่อมใหม่ ไม่ปรากฎว่าการแก้เครื่องรถนั้นโจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย จำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าแก้เครื่องที่นับว่าเรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใดไม่ปรากฎ ปัญหาว่าควรจะให้จำเลยชำระค่าซ่อมแก่โจทก์บ้างหรือไม่ จึงไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าเห็นว่าควรให้ก็ไม่สามารถคำนวณได้ อนึ่งโจทก์ไม่ได้ซ่อมแต่เครื่อง ซ่อมตัวถังและอื่น ๆ ด้วย เหล่านี้เป็นมูลค่าเท่าใดไม่ปรากฎ ศาลฎีกาจึงไม่ให้จำเลยชำระค่าซ่อมเหล่านี้แก่โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บังคับสัญญาซื้อขายเมื่อกรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ: ศาลไม่สามารถบังคับโอนกรรมสิทธิ์จากผู้รับซื้อฝากได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะขายที่นาขณะที่ฟ้องคดีนาไม่ได้อยู่ในกรรมสิทธิ์ของจำเลย โดยได้ตกไปเป็นของผู้รับซื้อฝากเสียแล้ว เมื่อจำเลยยังมิได้ไถ่ถอนกลับคืนมาก็ไม่มีทางที่จะบังคับให้จำเลย ทำการโอนขายให้โจทก์ได้ เพราะสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้ศาลพิพากษาบังคับได้
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝากแทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 233,234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยเฉพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝากแทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 233,234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยเฉพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะเมื่อกรรมสิทธิเปลี่ยนมือ ศาลบังคับโอนไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะขายที่นา ขณะที่ฟ้องคดีนาไม่ได้อยู่ในกรรมสิทธิของจำเลย โดยได้ตกไปเป็นของผู้รับซื้อฝากเสียแล้ว เมื่อจำเลยยังมิได้ไถ่ถอนกลับคืนมาก็ไม่มีทางที่จะบังคับให้จำเลย ทำการโอนขายให้โจทก์ได้ เพราะสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้ ศาลพิพากษาบังคับได้
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝาก แทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 233, 234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยฉะเพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ต้องยกฟ้อง
คดีผิดสัญญาจะซื้อขายที่นาอาจมีทางที่โจทก์จะเรียกร้องได้ในทางอื่น เช่น ใช้สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือใช้สิทธิเรียกร้องของจำเลยทำการไถ่ถอนการขายฝากจากผู้รับซื้อฝาก แทนที่จำเลย ดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 233, 234 แต่โจทก์หาได้ดำเนินการดังกล่าวไม่ โจทก์ฟ้องโดยฉะเพาะเจาะจงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่นาให้โจทก์แต่ประการเดียว เมื่อศาลบังคับให้โดยตรงเช่นนั้นไม่ได้ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายควบคุมข้าว: ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค และ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว และหลักการพิจารณาคดีอาญา
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน 2488 กับ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
(อ้างฎีกา 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพะยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายควบคุมข้าว: ศาลต้องพิจารณาพยานหลักฐานแม้จำเลยรับสารภาพ
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขัน 2488 กับ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน (อ้างฎีกาที่ 197,198/2491)
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
คดีที่มีอัตราโทษอย่างสูงถึง 10 ปี แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร: แก้ไขได้หากมีเหตุผลเปลี่ยนแปลง และอาจร้องต่อศาลตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1596
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ศาลกำหนดให้นั้น ต่อไปถ้ามีเหตุอันควรแก้ไขประการใดอาจร้องขอต่อศาลตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1596 ได้.
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ป.ม.วิ.แพ่ง.
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ป.ม.วิ.แพ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม หากมีเหตุเปลี่ยนแปลงอาจขอแก้ไขได้
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ศาลกำหนดให้นั้น ต่อไปถ้ามีเหตุอันควรแก้ไขประการใดอาจร้องขอต่อศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1596 ได้
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง