คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทรงนิติกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนข้าวผ่านเขตห้ามตาม พรบ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 ไม่ถือเป็นความผิด
พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ห้ามมิให้ขนข้าวออกจากเขตซึ่งคณะกรรมการประกาศกำหนดมิได้ห้ามการขนผ่านเขต (อ้างฎีกาที่ 506-507/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนข้าวผ่านเขตห้าม การตีความ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ห้ามมิให้ขนข้าวออกจากเขตต์ ซึ่งคณะกรรมการประกาศกำหนดมิได้ห้ามการขนผ่านเขตต์
(อ้างฎีกาที่ 506 - 507/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำเองได้ตามกฎหมาย หากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง ผู้ขายมีสิทธิบังคับให้ผู้ซื้อโอนกรรมสิทธิ์
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง... โฉนดที่ 4233......ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้จ้อยสกุลจะขอมอบกรรมสิทธิ์ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นจ้อยสกุลซึ่งเป็นภรรยานายโก้ และนายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป320บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินทำได้โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน แต่มีผลผูกพันตามกฎหมายหากมีข้อเท็จจริงสมฟ้อง
สัญญามีข้อความว่า "ข้าพเจ้านายเลื่อน จ้อยสกุล....ได้มีที่ดิน 1 แปลง...โฉนดที่ 4233.....ที่ดินรายนี้มีชื่อนายเลื่อนนายโก้ จ้อยสกุล จะขอมอบกรรมสิทธิที่ดินรายนี้ให้นางปิ่น จ้อยสกุล ซึ่งเป็นภรรยานายโก้ นายเลื่อน จ้อยสกุลได้เอาเงินของนางปิ่นไป 320 บาท ที่ดินรายนี้ให้นางปิ่นเก็บกินได้ตั้งแต่วันทำสัญญา..." นั้น เป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดินแก่กัน เพียงแต่ทำหนังสือกันเอง ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดจากการเป็นสามีภริยาต้องด้วยกฎหมาย การแบ่งสินสมรส และการพิสูจน์สินเดิม
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิงก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจาการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้ และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม. 177 วรรค 2
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มี ก.ม.จำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยา จะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิมก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏ แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวนส่วนแบ่งใน+อันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา+ได้รับ ศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นสามีภริยา,สินสมรส,สินเดิม,การขาดจากการเป็นสามีภริยา,ภริยาร้าง
ในกฎหมายลักษณะผัวเมีย ไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่า เมื่อชายไม่พอใจหญิง ก็ทิ้งหญิงได้ โดยหญิงไม่ต้องยินยอม และขาดจากการเป็นสามีภรรยากันได้ การที่สามีไม่พอใจภรรยาแล้วเขียนหนังสือเก็บไว้และไม่ไปมาหาสู่ภริยา ไม่ว่าจะเขียนหนังสือนั้น และเลิกติดต่อกับภริยาเมื่อใดก็ตาม ไม่ทำให้ขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้
ในคดีแพ่ง ถ้าจำเลยประสงค์จะต่อสู้ในข้อใด จำเลยจะต้องกล่าวในคำให้การโดยชัดแจ้งพร้อมทั้งเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง
เมื่อศาลฟังว่าภริยามีสินเดิม ศาลก็พิพากษาให้ส่วนแบ่งในสินสมรสได้ ไม่มีกฎหมายจำกัดว่าแม้จะมีสินเดิม ก็ต้องอยู่ร่วมบ้านด้วย จึงจะได้ส่วนแบ่งในสินสมรส
การแบ่งทรัพย์ระหว่างสามีภริยาจะต้องหักสินสมรสใช้สินเดิม ก็ต่อเมื่อปรากฏว่าสินเดิมสูญไปแล้ว
แม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า สินเดิมของจำเลยไม่ปรากฏแต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในทางหาว่าจำเลยมีส่วนแบ่งในสินสมรสด้วย ฉะนั้นในการที่ศาลจะคำนวณส่วนแบ่งในสินสมรสอันโจทก์ซึ่งเป็นภรรยาคนหนึ่งจะได้รับศาลก็จำต้องคำนวณโดยถือว่าจำเลยมีส่วนในสินสมรสด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185-1187/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะ 'อยู่อาศัย' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า: การใช้พื้นที่เพื่อการค้าควบคู่กับการอยู่อาศัย
แม้จำเลยจะรับว่าอยู่อาศัยในที่เช่าก็ตาม ยังฟังไม่ชัดลงไปว่า เป็นการอยู่ในฐานะ "อยู่อาศัย" ตามพระราชบัญญัติ หรือเพียงอยู่ในฐานะที่เข้าไปประกอบกิจ
(อ้างฎีกาที่ 1099 - 1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185-1187/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ฐานะ 'อยู่อาศัย' เพื่อคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า แม้จะยอมรับว่าอยู่อาศัยจริง
แม้จำเลยจะรับว่าอยู่อาศัยในที่เช่าก็ตาม ยังฟังไม่ชัดลงไปว่า เป็นการอยู่ในฐานะ "อยู่อาศัย" ตามพระราชบัญญัติ หรือเพียงอยู่ในฐานะที่เข้าไปประกอบกิจ (อ้างฎีกาที่ 1099-1147/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุพยานในคดีอาญา: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้ไม่มีผู้ระบุอ้างเป็นพยาน
ในคดีหาว่า จำเลยมีและจำหน่ายธนบัตรปลอม ธนบัตรปลอมของกลางที่โจทก์ขอให้ศาลริบและนำส่งเป็นของกลาง และจำเลยได้ตรวจดูแล้วไม่คัดค้านอย่างใด ธนบัตรของกลางจึงเป็นวัตถุของกลางซึ่งเป็นตัวพิพาทในคดี เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดอยู่แล้วว่าเป็นของดีหรือปลอม ถึงจะไม่มีใครระบุอ้างเป็นพยาน ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยเป็นหลักฐานพยานในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุพยานในคดีอาญา: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้ไม่มีผู้ระบุอ้าง
ในคดีหาว่าจำเลยมีและจำหน่ายธนบัตรปลอม ธนบัตรปลอมของกลางที่โจทก์ขอให้ศาลริบและนำส่งเป็นของกลาง และจำเลยได้ตรวจดูแล้วไม่คัดค้านอย่างใด ธนบัตรของกลางจึงเป็นวัตถุของกลางซึ่งเป็นตัวพิพาทในคดีเป็นหน้าที่ของศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดอยู่แล้วว่าเป็นของดีหรือปลอม ถึงจะไม่มีใครระบุอ้างเป็นพยาน ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยเป็นหลักฐานพยานในคดีได้
of 134