คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทรงนิติกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับช้างโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.รักษาช้างป่า ทำให้สิทธิในช้างตกเป็นของหลวง
แม้โจทก์จะประมูลทำการจับช้างได้ตามที่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ประมูล และได้ชำระเงินค่าประมูลแล้ว โจทก์ก็ต้องรอให้ได้รับใบอนุญาตให้จับช้างได้จากจำเลย ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอันเป็นเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงจะลงมือตั้งคอกจับช้างได้ถ้าตราบใดยังไม่ได้รับใบอนุญาตไปทำการจับช้าง ต้องถือว่าจับช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ช้างนั้นต้องตกเป็นของหลวง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจับช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต: สิทธิในช้างตกเป็นของหลวง แม้จะประมูลได้และชำระเงินแล้ว
แม้โจทก์จะประมูลทำการจับช้างได้ตามที่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ประมูล และได้ชำระเงินค่าประมูลแล้วโจทก์ก็ต้องรอให้ได้รับใบอนุญาตให้จับช้างได้จากจำเลยซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอันเป็นเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงจะลงมือตั้งคอกจับช้างได้ ถ้าตราบใดยังไม่ได้รับใบอนุญาตไปทำการจับช้างต้องถือว่าจับช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ช้างนั้นต้องตกเป็นของหลวง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957-958/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตที่ดินพิพาท - สันนิษฐานเจ้าของร่วม - คูเป็นทรัพย์สินร่วม
โจทก์จำเลยพิพากกันเรื่องคูที่กั้นเขตระหว่างที่ว่าเป็นของตน แต่นำสืบให้เห็นโดยชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นของใคร ก็ต้องใช้บทสันนิษฐานของประมวลแพ่ง ฯ ม.1344 คือถือว่าคู่ความเป็นเจ้าของคูร่วมกัน ตัดสินให้เป็นเจ้าของคนละครึ่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957-958/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทคูเขตแดน - สันนิษฐานเจ้าของร่วมตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 1344
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องคูที่กั้นเขตระหว่างที่ว่าเป็นของตนแต่นำสืบให้เห็นโดยชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นของใคร
ก็ต้องใช้บทสันนิษฐานของประมวลแพ่งฯ มาตรา1344 คือถือว่าคู่ความเป็นเจ้าของคูร่วมกันตัดสินให้เป็นเจ้าของคนละครึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำซัดทอดจำเลยด้วยกันฟังเป็นหลักฐานยันจำเลยอื่นไม่ได้ และการพิจารณาหลักฐานพยานต้องน่าเชื่อถือ
คำซัดทอดของจำเลยด้วยกันฟังเป็นพยานหลักฐานยันจำเลยอื่นไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานนอกประเด็น การครอบครองมรดก และการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตในคดีขับไล่
ฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่ดินมรดก จำเลยเป็นทายาทครอบครองร่วมกันมากับโจทก์ ข้อที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยครอบครองมา เพราะเจ้ามรดกยกให้เป็นส่วนสัดตั้งแต่ก่อนเจ้ามรดกตายไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต้องพิสูจน์การสาบาลตนก่อนเบิกความ หากโจทก์ไม่นำสืบพยานหลักฐานยืนยัน ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ในคดีฟ้องหาว่าเบิกความเท็จนั้น ถึงแม้โจทก์จะอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องฐาน เบิกความเท็จ และปรากฎมีข้อความในคำเบิกความนั้นว่า "ข้าพเจ้าพยานได้สาบาลตนแล้ว" ก็ตามข้อความดังกล่าว ก็เป็นแต่เพียงแบบพิมพ์ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้ก่อน และเพราะในการเบิกความเป็นพยานในศาลก็หามีกฎหมายบังคับให้พยานทุกคนต้องสาบาลหรือปฏิญาณตัวก่อนเบิกความไม่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยปฏิเสธและโจทก์ไม่ได้นำสืบพยานบุคคลถึงความข้อนี้เลย ก็ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต้องพิสูจน์การสาบานตนของพยาน การอ้างแบบพิมพ์ไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
ในคดีฟ้องหาว่าเบิกความเท็จนั้นถึงแม้โจทก์จะอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีที่เป็นเหตุให้จำเลยถูกฟ้องฐานเบิกความเท็จ และปรากฏมีข้อความในคำเบิกความนั้นว่า'ข้าพเจ้าพยานได้สาบานตนแล้ว' ก็ตาม ข้อความดังกล่าวก็เป็นแต่เพียงแบบพิมพ์ซึ่งได้ตีพิมพ์ไว้ก่อนและเพราะในการเบิกความเป็นพยานในศาลก็หามีกฎหมายบังคับให้พยานทุกคนต้องสาบานหรือปฏิญาณตัวก่อนเบิกความไม่ฉะนั้นเมื่อจำเลยปฏิเสธและโจทก์ไม่ได้นำสืบพยานบุคคลถึงความข้อนี้เลย ก็ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาทำผิดที่ไม่จำเป็นต้องละเอียด หากจำเลยเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนไม่ไปรับการตรวจคัดเลือก เพื่อเข้ารับราชการทหารในวันที่ 8 เมษายน 2498 แม้จะไม่ได้กล่าวว่าเวลากระทำผิดเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เมื่อเป็นที่เข้าใจทั่วไปแล้วว่าการตรวจคัดเลือก ตามปกติเป็นเวลากลางวัน และในฟ้องกล่าวว่าจำเลยทราบกำหนดแล้วประกอบกับจำเลยรับสารภาพ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้ว มิได้หลงข้อต่อสู้ ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับวันเวลาจึงสมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158(5) แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุเวลาที่กระทำผิดและการเข้าใจข้อหาของจำเลย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยฝ่าฝืนไม่ไปรับการตรวจคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารในวันที่ 8 เมษายน 2498 แม้จะไม่ได้กล่าวว่าเวลากระทำผิดเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เมื่อเป็นที่เข้าใจทั่วไปแล้วว่าการตรวจคัดเลือก ตามปกติเป็นเวลากลางวัน และในฟ้องกล่าวว่าจำเลยทราบกำหนดแล้ว ประกอบกับจำเลยรับสารภาพ ดังนี้ ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้วมิได้หลงข้อต่อสู้ ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับวันเวลาจึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว
of 134