พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจอัยการผู้ช่วยศาลทหาร: คำสั่งแต่งตั้งชอบด้วยกฎหมายเมื่อเป็นการรับคำสั่งรัฐมนตรี และการลงชื่อฟ้องคดีเมื่ออัยการหลักเป็นพยาน
คำสั่งที่ปลัดกระทรวงกลาโหมลงนามแต่งตั้งอัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯ โดยวิธีรับคำสั่งรัฐมนตรีนั้นเป็นคำสั่งรัฐมนตรีตั้งหาใช่ปลัดกระทรวงตั้งไม่ จึงชอบด้วย พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหาร มาตรา 79
เมื่ออัยการศาลทหารกรุงเทพฯเป็นพยานในคดีใด ซึ่งต้องห้ามมิให้เป็นโจทก์ตาม พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหาร มาตรา 85(2)อัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯจึงมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้นได้ หาขัดต่อ พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหาร มาตรา 80ไม่
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลทหารกลางแล้วให้ศาลทหารกลางวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามกระบวนความ
เมื่ออัยการศาลทหารกรุงเทพฯเป็นพยานในคดีใด ซึ่งต้องห้ามมิให้เป็นโจทก์ตาม พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหาร มาตรา 85(2)อัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯจึงมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้นได้ หาขัดต่อ พระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลทหาร มาตรา 80ไม่
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลทหารกลางแล้วให้ศาลทหารกลางวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการแต่งตั้งอัยการผู้ช่วยศาลทหาร และอำนาจการเป็นโจทก์เมื่ออัยการเป็นพยาน
คำสั่งที่ปลัดกระทรวงกลาโหมลงนามแต่งตั้งอัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯ โดยวิธีคำสั่งรัฐมนตรีนั้นเป็นคำสั่งรัฐมนตรีตั้ง หาใช่ปลัดกระทรวงตั้งไม่ จึงชอบด้วย พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร ม. 79
เมื่ออัยการศาลทหารกรุงเทพฯเป็นพยานในคดีใด ซึ่งต้องห้ามมิให้เป็นโจทก์ตาม พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหารมาตรา 85(2) อัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯ จึงมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้นได้ หาขัดต่อ พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร ม.80 ไม่
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลทหารกลางแล้วให้ศาลทหารกลางวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามกระบวนความ
เมื่ออัยการศาลทหารกรุงเทพฯเป็นพยานในคดีใด ซึ่งต้องห้ามมิให้เป็นโจทก์ตาม พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหารมาตรา 85(2) อัยการผู้ช่วยศาลทหารกรุงเทพฯ จึงมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้นได้ หาขัดต่อ พ.ร.บ.พระธรรมนูญศาลทหาร ม.80 ไม่
ศาลฎีกามีอำนาจยกคำพิพากษาศาลทหารกลางแล้วให้ศาลทหารกลางวินิจฉัยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ที่ถูกพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์แล้ว ศาลต้องพิจารณาความสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้
จำเลยเป็นหนี้ โจทก์ ๆ ฟ้อง จำเลยทำยอม จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงนำยึดที่ดินของจำเลย ผู้ร้องคัดค้านว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดนั้นศาลพิพากษาให้จำเลยโอนให้แก่ผู้ร้องแล้วในคดีอีกสำนวนหนึ่ง โจทก์และผู้ร้องต่างอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งกับจำเลยสมยอมกันเพื่อเลี่ยงการชำระหนี้และโต้เถียงกันในประเด็นอื่นอีก ดังนี้ศาลจะต้องดำเนินการะบวนพิจารณาไปโดยไม่ต้องให้โจทก์ไปฟ้องเป็นคดีขึ้นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ที่มีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์และการสมยอมเพื่อเลี่ยงหนี้ ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยทำยอม จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำยึดที่ดินของจำเลย ผู้ร้องคัดค้านว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดนั้นศาลพิพากษาให้จำเลยโอนให้แก่ผู้ร้องแล้วในคดีอีกสำนวนหนึ่ง โจทก์และผู้ร้องต่างอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งกับจำเลยสมยอมกันเพื่อเลี่ยงการชำระหนี้และโต้เถียงกันในประเด็นอื่นอีก ดังนี้ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยไม่ต้องให้โจทก์ไปฟ้องเป็นคดีขึ้นใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชดใช้ค่าซ่อมแซมบ้านหลังการยกให้ไม่สมบูรณ์ ผู้รับยกให้ลงทุนซ่อมแซมไปแล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยอาศัยอยู่ที่บ้านโจทก์แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น ปิดประตูบ้าน ไม่ยอมให้โจทก์เข้าบ้าน จำเลยให้การว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้จำเลยแล้ว บ้านทรุดโทรม จำเลยจ้างช่างก่อสร้างซ่อมแซม จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์ส่งหนังสือยกให้และสัญญาจ้างเหมาที่จำเลยฝากผู้อื่นไว้ และโจทก์ไปหลอกลวงเอามากับให้โจทก์ใช้ค่าซ่อมแซมบ้าน ดังนี้ถือได้ว่าฟ้องแย้งและฟ้องเดิมเกี่ยวข้องกัน ศาลรับพิจารณาไว้ได้
จำเลยลงทุนก่อสร้างซ่อมแซมบ้านโดยเชื่อด้วยความสุจริตใจว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้แล้ว เมื่อปรากฏภายหลังว่าการให้ไม่สมบูรณ์ โจทก์จะเอาบ้านคืนโจทก์ก็ต้องชดใช้เงินที่จำเลยลงทุนซ่อมแซมไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1376
จำเลยลงทุนก่อสร้างซ่อมแซมบ้านโดยเชื่อด้วยความสุจริตใจว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้แล้ว เมื่อปรากฏภายหลังว่าการให้ไม่สมบูรณ์ โจทก์จะเอาบ้านคืนโจทก์ก็ต้องชดใช้เงินที่จำเลยลงทุนซ่อมแซมไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1376
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชดใช้ค่าซ่อมแซมบ้านจากการลงทุนโดยสุจริตแม้การให้จะยังไม่สมบูรณ์
โจทย์ฟ้องว่า จำเลยอาศัยอยู่ที่บ้านโจทก์แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น ปิดประตูบ้าน ไม่ยอมให้โจทก์เข้าบ้าน จำเลยให้การว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้จำเลยแล้วบ้านทรุดโทรม จำเลยจ้างช่างก่อสร้างซ่อมแซม จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์ส่งหนังสือยกให้และสัญญาจ้างเหมาที่จำเลยฝากผู้อื่นไว้และโจทก์ไปหลอกลวงเอามากับให้โจทก์ใช้ค่าซ่อมแซมบ้านดังนี้ถือได้ว่าฟ้องแย้งและฟ้องเดิมเกี่ยวข้องกัน ศาลรับพิจารณาไว้ได้
จำเลยลงทุนก่อสร้างซ่อมแซมบ้านโดยเชื่อด้วยความสุจริตใจว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้แล้ว เมื่อปรากฎภายหลังว่าการให้ไม่สมบูรณ์ โจทก์จะเอาบ้านคืนโจทก์ก็ต้องชดใช้เงินที่จำเลยลงทุนซ่อมแซมไปตาม ป.พ.พ.ม. 1376
จำเลยลงทุนก่อสร้างซ่อมแซมบ้านโดยเชื่อด้วยความสุจริตใจว่าสามีโจทก์ยกบ้านให้แล้ว เมื่อปรากฎภายหลังว่าการให้ไม่สมบูรณ์ โจทก์จะเอาบ้านคืนโจทก์ก็ต้องชดใช้เงินที่จำเลยลงทุนซ่อมแซมไปตาม ป.พ.พ.ม. 1376
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า: สิทธิของคู่สัญญาและบริวารเมื่อสัญญาสิ้นสุด
ภรรยาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจึงเป็นคู่สัญญากับผู้ให้เช่า สามีมิใช่คู่สัญญาด้วย ย่อมเป็นเพียงบริวารเท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 898/2491) เมื่อสัญญาเช่าสิ้นอายุและภรรยาได้ออกไปจากห้องเช่าแล้ว สามีย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าระหว่างภรรยาและผู้ให้เช่า สามีไม่มีสิทธิในสัญญาเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
ภรรยาเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจึงเป็นคู่สัญญากับผู้ให้เช่า สามีมิใช่คู่สัญญาด้วย ย่อมเป็นเพียงบริวารเท่านั้น ( อ้างฎีกาที่ 848/2491 ) เมื่อสัญญาเช่าสิ้นอายุและภรรยาได้ออกไปจากห้องเช่าแล้ว สามีย่อมไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในห้องเช่าต่อไป ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยตามความผิดกระทงหนึ่ง 3 ปี อีกกระทงหนึ่ง 1 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปี แล้วเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งเป็น 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะโทษแต่ละกระทงไม่ถึง 5 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาเมื่อโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยตามความผิดกะทงหนึ่ง 3 ปี อีกกะทงหนึ่ง 1 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปี แล้วเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งเป็น 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะโทษแต่ละกะทงไม่ถึง 5 ปี