พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหุ้นส่วนทำเสาโทรเลขและการยักยอกทรัพย์ การรับเงินแทนโดยไม่แบ่งปันไม่ถือเป็นเจตนาทุจริต
ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าโจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อเสาโทรเลขให้แก่กรมไปรษณีย์โทรเลขแล้วโจทก์กับจำเลยเข้าหุ้นกันทำเสาส่งและจำเลยเป็นผู้เข้าทำสัญญากับกรมไปรษณีย์โทรเลขเสียเองโจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยทำการแทนหรือรับมอบเงินแทน เมื่อจำเลยได้รับเงินมาแล้วเพิกเฉยยังไม่แบ่งปันให้โจทก์ เพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหุ้นส่วนทำเสาโทรเลขแล้วเบียดบังเงิน: ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์หากไม่มีการมอบหมายให้รับเงินแทน
ข้อเท็จจริงฟังได้แต่เพียงว่าโจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อเสาโทรเลขให้แก่กรมไปรษณีย์โทรเลขแล้วโจทก์กับจำเลยเข้าหุ้นกันทำเสาส่ง และจำเลยเป็นผู้เข้าทำสัญญากับกรมไปรษณีย์โทรเลขเสียเอง โจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยทำการแทนหรือรับมอบเงินแทน เมื่อจำเลยได้รับเงินมาแล้วเพิกเฉยยังไม่แบ่งปันให้โจทก์เพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทนายบอกเลิกสัญญาเช่าทำได้ด้วยวาจา ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
การมอบให้ทนายความบอกกล่าวเลิกการเช่าบ้าน ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนในการนี้ด้วยวาจาก็ใช้ได้(อ้างฎีกาที่ 178/2496)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจบอกเลิกสัญญาเช่าทางวาจาได้
การมอบให้ทนายความบอกกล่าวเลิกการเช่าบ้าน ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำเป็นหนังสือการตั้งตัวแทนในการนี้ด้วยวาจาก็ใช้ได้
(อ้างฎีกาที่ 178/2496)
(อ้างฎีกาที่ 178/2496)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-589/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเทศบาลฟ้องรื้อถอนอาคารต่อเติมผิดกฎหมาย ไม่ติดอายุความอาญา
ต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจนถูกพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับไปแล้ว คณะเทศมนตรีเทศบาลโดยนายกเทศมนตรีมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้นได้ เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 11 วรรค 2
การฟ้องคดีขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้นพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 11 วรรค 2 ให้อำนาจไว้ มิใช่มีฐานะเป็นผู้เสียหายจึงไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 และต้องใช้อายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
การฟ้องคดีขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้นพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2479 มาตรา 11 วรรค 2 ให้อำนาจไว้ มิใช่มีฐานะเป็นผู้เสียหายจึงไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 และต้องใช้อายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586-589/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องรื้อถอนอาคารต่อเติม และอายุความตาม ป.พ.พ. เมื่อ พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคารไม่มีกำหนดอายุความ
ต่อเติมอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจนถูกพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับไปแล้ว คณะเทศมนตรีเทศบาลโดยนายกเทศมนตรีมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้นได้ เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 มาตรา 11 วรรค 2 การฟ้องคดีขอให้บังคับรื้อถอนอาคารที่ต่อเติมนั้น พ.ร.บ.ควบคุมการก่อสร้างอาคาร 2479 มาตรา 11 วรรค 2 ให้อำนาจไว้ มิใช่มีฐานะเป็นผู้เสียหาย จึงไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 51 และต้องใช้อายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
การที่จำเลยขอยืนเงินที่โจทก์จะนำไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ไปใช้แก้ขัดก่อนนั้น ถือว่าเป็นการกู้ยืม มิใช่เป็นเรื่องการรับมอบของตัวแทน เมื่อการกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไปมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืม จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
การที่จำเลยขอยืมเงินที่โจทก์จะนำไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ไปใช้แก้ขัดก่อนนั้นถือว่าเป็นการกู้ยืม มิใช่เป็นเรื่องการรับมอบของตัวแทนเมื่อการกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไปมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าบุหรี่ค้างชำระ โดยโจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะหุ้นส่วน
โจทก์กล่าวฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2496 โจทก์กับพวกได้เข้าหุ้นกันรับบุหรี่มาจำหน่าย และโจทก์ได้ขายบุหรี่แก่จำเลย จำเลยยังค้างชำระค่าบุหรี่อยู่12,036.05 บาทขอเรียกราคาบุหรี่ที่ค้าง ครั้นเวลานำสืบ โจทก์กลับนำสืบว่าที่โจทก์กับพวกเข้าหุ้นกันเช่นว่านั้นคือเมื่อ พ.ศ.2493(ไม่ใช่ พ.ศ.2496 ตามที่บรรยายในฟ้อง) เช่นนี้ ไม่กระทำให้คดีของโจทก์เสียไปอย่างใดเพราะเห็นได้ชัดว่าโจทก์ฟ้องคดีในฐานะส่วนตัวของโจทก์มิใช่ฟ้องในฐานะเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ข้อที่ว่าโจทก์จะได้เป็นหุ้นส่วนนั้นเมื่อใด จึงมิใช่เป็นประเด็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ และเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าบุหรี่ค้างชำระ: โจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัว ไม่ใช่ฐานะหุ้นส่วน แม้เวลาในการเข้าหุ้นจะแตกต่างกัน
โจทก์กล่าวฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2496 โจทก์กับพวกได้เข้าหุ้นกันรับบุหรี่มาจำหน่าย และโจทก์ได้ขายบุหรี่แก่จำเลย ๆ ยังค้างชำระค่าบุหรี่อยู่ 12,036.05 บาท ขอเรียกราคาบุหรี่ที่ค้าง ครั้นเวลานำสืบ โจทก์กลับนำสืบว่าที่โจทก์กับพวกเข้าหุ้นกันเช่นว่านั้นคือเมื่อ พ.ศ. 2493 (ไม่ใช่ พ.ศ.2496 ตามที่บรรยายในฟ้อง) เช่นนี้ ไม่กระทำให้คดีของโจทก์เสียไปอย่างใด เพราะเห็นได้ชัดว่าโจทก์ฟ้องคดีในฐานะส่วนตัวของโจทก์ มิใช่ฟ้องในฐานะเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ข้อที่ว่าโจทก์จะได้เป็นหุ้นส่วนนั้นเมื่อใด จึงมิใช่เป็นประเด็นข้อแพ้ชนะในคดีนี้ และเป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้อง