พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดในการจดทะเบียนสมรสและการคืนเงินหมั้นสินสอด กรณีฝ่ายชายไม่ยอมจดทะเบียน
ชายหญิงอยู่กินด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนชายเป็นฝ่ายผิดไม่ยอมจดทะเบียนเอง จะเรียกเงินหมั้นและสินสอดคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงฐานะตัวแทน-ตัวการ ไม่เป็นการแก้ไขเอกสารสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยและทายาทคนอื่นต่างเป็นผู้เช่าด้วยกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งบิดาเป็นผู้เช่า ครั้นบิดาตายแล้ว ทายาททุกคนต่างก็แสดงเจตนาขอเช่าทุกคน แต่เพื่อความสะดวกในการทำสัญญาเช่า จึงให้โจทก์ผู้เดียวเป็นผู้เซ็นสัญญาแทน ดังนี้จำเลยย่อมนำสืบความจริงได้เพราะเป็นการสืบความจริงระหว่างตัวแทนกับตัวการ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เงินฝากไม่จำเป็นต้องมีใบรับชำระ หากมีการชำระหนี้จริงแล้ว แม้ผู้รับฝากยังมีหลักฐานหนี้อยู่
มาตรา 326 มิได้บังคับให้ลูกหนี้ต้องมีใบรับชำระหนี้มาแสดงเมื่อลูกหนี้ผู้รับฝากได้ชำระเงินที่ได้รับฝากคืนให้ฝากแล้ว แม้ผู้ฝากจะยังยึดถือหนังสือที่เป็นหลักฐานแห่งหนี้อยู่ ผู้ฝากก็ฟ้องเรียกเงินอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินและโรงเรือน: หน้าที่การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้องว่ารับซื้อฝากที่ดินและโรงเรือนไว้จากผู้มีชื่อ 2 ห้องโดยทำสัญญาและจดทะเบียนกันที่อำเภอ จำเลยได้ทำละเมิดบังอาจปิดประตูใส่กุญแจโรงเรือนซึ่งรับซื้อฝากนั้น จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมา ห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมา ห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินและโรงเรือน: จำเลยต้องพิสูจน์ความสุจริตหากรับรองกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝาก
โจทก์ฟ้องว่ารับซื้อฝากที่ดินและโรงเรือนไว้จากผู้มีชื่อ 2 ห้อง โดยทำสัญญาและจดทะเบียนกันที่อำเภอ จำเลยได้ทำละเมิดบังอาจปิดประตูใส่กุญแจโรงเรือนซึ่งรับซื้อฝากไว้นั้น จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมาห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมาห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารราชการเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่างประเทศ และความผิดตามกฎหมายขบถ
จำเลยสมคบกันทำเอกสารปลอมขึ้นเป็นสำเนาหนังสือราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นคำสั่งลับมาก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ขอให้เจรจาตอบข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมสหภาพโซเวียตในเรื่องกิจการทหารและทางอาวุธซึ่งทางสหภาพโซเวียตจะให้ความช่วยเหลือและขอให้แจ้งข้อเสนอแนวทางนโยบายทางการเมืองของกระทรวงกลาโหมแห่งประเทศไทย เพื่อให้กระทรวงกลาโหมแห่งสหภาพโซเวียตทราบ โดยจำเลยได้ลงลายมือชื่อของรองผู้อำนวยการศึกษาและวิจัยกรมเสนาธิการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปลอมลงในสำเนาเอกสารปลอมนั้น รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถูกต้อง ความจริงเอกสารปลอมนั้น ไม่ใช่เอกสารของกระทรวงกลาโหม หากจำเลยคิดทำปลอมขึ้นเองทั้งนั้น แล้วทำการติดต่อกับชาวต่างประเทศ เพื่อทำการขายเอกสารลับปลอมนั้น ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 105 เบ็ญจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการเพื่อหลอกลวงและกระทบความมั่นคงระหว่างประเทศ
จำเลยสมคบกันทำเอกสารปลอมขึ้นเป็นสำเนาหนังสือราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นคำสั่งลับมาก ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเทศไทย ขอให้เจรจาตอบข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมสหภาพโซเวียตในเรื่องกิจการทหารและทางอาวุธ ซึ่งทางสหภาพโซเวียตจะให้ความช่วยเหลือและขอให้แจ้งข้อเสนอแนวทางนโยบายทางการเมืองของกระทรวงกลาโหมแห่งประเทศไทย เพื่อให้กระทรวงกลาโหมแห่งสหภาพโซเวียตทราบ โดยจำเลยได้ลงลายมือชื่อของรองผู้อำนวยการศึกษาและวิจัยกรมเสนาธิการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปลอมลงในสำเนาเอกสารปลอมนั้น รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถูกต้อง ความจริงเอกสารปลอมนั้น ไม่ใช่เอกสารของกระทรวงกลาโหม หากจำเลยคิดทำปลอมขึ้นเองทั้งนั้น แล้วทำการติดต่อกับชาวต่างประเทศเพื่อทำการขายเอกสารลับปลอมนั้นดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 105 เบ็ญจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญชาติไทย: คดีสิทธิสภาพบุคคล
ในคดีที่โจทก์ฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยผู้เป็นจำเลยคัดค้านนั้น เป็นคดีที่พิพาทกันว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยหรือเป็นคนต่างด้าว จึงเป็นคดีที่เกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2496)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพิพาทสัญชาติ: การฎีกาในข้อเท็จจริงสำหรับคดีสิทธิสภาพบุคคล
ในคดีที่โจทก์ฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งแสดงว่าโจทก์มีสัญชาติไทยตามกฎหมาย และกระทรวงมหาดไทยผู้เป็นจำเลยคัดค้านนั้น เป็นคดีที่พิพาทกันว่าโจทก์เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยหรือเป็นคนต่างด้าว จึงเป็นคดีที่เกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับบัญชีระบุพยานล่าช้า: เหตุสมควรเพื่อความยุติธรรม ศาลมีอำนาจรับฟังพยานได้
โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้ากว่ากำหนดตามกฎหมายไป 2 วัน แต่หาใช่เป็นโดยโจทก์จงใจฝ่าฝืนประการใดไม่ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาต และยื่นคำขอให้ศาลออกหมายเรียกพยาน ศาลก็ออกหมายเรียกพยานให้ตามคำขอแล้ว ทั้งจำเลยก็ยังมิได้สืบพยาน ดังนี้ มีเหตุผลสมควรเพื่อความยุติธรรมที่จะสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ได้ (อ้างฎีกาที่ 1830/2492,148/2496)