คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทรงนิติกรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,336 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำให้การทั้งหมดและการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนดเวลา ศาลไม่อนุญาต
จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีแพ่งแล้ว ต่อมาขอยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมเสียทั้งหมดแล้วขอให้การใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับคำให้การเดิมเลยถ้าถอนไปหมดเท่ากับคำให้การเดิมไม่มีทั้งการยื่นคำให้การใหม่พ้นกำหนดเวลาแห่งกฎหมายเช่นนี้ศาลไม่อนุญาตให้ให้การใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเป็นจำเลยร่วมในคดีกู้ยืมเงิน: สิทธิของสามีเมื่อภรรยาทำสัญญาโดยไม่ได้รับความยินยอม
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหญิงมีสามีเป็นจำเลยเรียกเงินตามสัญญากู้นั้นเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดคดียังไม่แน่ว่าโจทก์จะชนะหรือไม่ ถึงหากชนะ จะยึดทรัพย์ส่วนตัวของหญิงสามีก็ไม่มีสิทธิโต้แย้งคัดค้านเช่นนี้สามีก็ยังไม่ถูกโต้แย้งสิทธิอย่างไรฉะนั้นการที่สามีร้องขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับภรรยาเพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ในขณะนี้ศาลจึงไม่จำเป็นต้องอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิสามีในการโต้แย้งสัญญากู้ของภรรยา: ศาลไม่อนุญาตให้เข้าเป็นจำเลยร่วมหากสิทธิยังไม่ถูกโต้แย้ง
ในคดีที่โจทก์ฟ้องหญิงมีสามีเป็นจำเลยเรียกเงินตามสัญญากู้นั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด คดียังไม่แน่ว่าโจทก์จะชนะหรือไม่ ถึงหากชนะ จะยึดทรัพย์ส่วนตัวของหญิงสามีก็ไม่มีสิทธิโต้แย้งคัดค้านเช่นนี้ สามีก็ยังไม่ถูกโต้แย้งสิทธิอย่างไร ฉะนั้นการที่สามีร้องขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับภรรยาเพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิที่มีอยู่ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 57(1) ในขณะนี้ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการยึดทรัพย์ เป็นการแสดงเจตนาลวงและเป็นโมฆะ
ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันมานานถึง 2 ปีเศษแล้วแต่ปรากฏว่าภรรยาและบุตรผู้ขายยังคงอยู่และทำกินในที่ดินที่ทำสัญญาซื้อขายตลอดมา โดยผู้ซื้อมิได้เกี่ยวข้องทำอะไรในที่ดิน และยังปรากฏว่าบุตรเขยผู้ขายได้ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินที่ทำสัญญาซื้อขาย พฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าวเป็นเครื่องแสดงให้เห็นได้ว่าการทำสัญญาซื้อขายเป็นการแสดงเจตนาลวง มิใช่มีเจตนาซื้อขายต่อกันจริงจัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงเจตนาลวงในการซื้อขายที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการยึดทรัพย์ ศาลพิพากษาเพิกถอนนิติกรรม
ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันมานานถึง 2 ปีเศษแล้วแต่ปรากฎว่าภรรยาและบุตรผู้ขายยังคงอยู่และทำกินในดินที่ทำสัญญาซื้อขายตลอดมา โดยผู้ซื้อมิได้เกี่ยวข้องทำอะไรในที่ดิน และยังปรากฎว่าบุตรเขยผู้ขายได้ปลูกเรือนอยู่ในที่ดินที่ทำสัญญาซื้อขาย พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นเครื่องแสดงให้เห็นได้ว่าการทำสัญญาซื้อขายเป็นการแสดงเจตนาลวง มิใช่มีเจตนาซื้อขายต่อกันจริงจัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนและการรับผิดของตัวการในหนี้ซื้อขาย
บรรยายฟ้องว่า "จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ได้แต่งตั้งและเชิดให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมีอำนาจซื้อขายและออกเช็คในนามของห้างหุ้นส่วน " เช่นนี้ ถือว่ามิได้บรรยายให้จำเลยที่ 2 รับผิดชอบเป็นส่วนตัวด้วย แต่เป็นเรื่องเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนและการรับผิดของตัวการในหนี้ซื้อขาย
บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้แต่งตั้งและเชิดให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมีอำนาจซื้อขายและออกเช็คในนามของห้างหุ้นส่วน' เช่นนี้ถือว่ามิได้บรรยายให้จำเลยที่ 2 รับผิดชอบเป็นส่วนตัวด้วยแต่เป็นเรื่องเป็นตัวแทนของจำเลยที่1 ซึ่งเป็นตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามลักทรัพย์: การงัดฝาห้องและร่องรอยการถอดกลอนบ่งชี้เจตนา
จำเลยงัดฝาห้องของเจ้าทรัพย์เผยออกและกลอนหน้าต่างก็เป็นรอยถอดแล้ว ในห้องนั้นมีทรัพย์เก็บอยู่หลายอย่าง เจ้าพนักงานตำรวจมาพบจำเลยกำลังงัดห้องอยู่ จำเลยวิ่งหนีการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมด้วยการกู้ยืมเงินและมอบรถยนต์เป็นประกัน โดยจำเลยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาซื้อขายได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายรถยนต์ปอนเตี๊ยกจึงเรียกเงินมัดจำคืนจำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ 15,000บาทเอารถฮิลแมนประกันแล้วกู้อีก 10,000 บาทเอารถปอนเตี๊ยกประกันต่อมาจำเลยชำระคืน 15,000 บาทโจทก์คืนรถปอนเตี๊ยกให้แล้วโจทก์ยึดรถฮิลแมนของจำเลยโอนเป็นของโจทก์ โจทก์ยังจะต้องคืนเงินให้จำเลยอีก5,000 บาทข้อต่อสู้ของจำเลยมิได้กล่าวอ้างตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย ดังนี้ จำเลยจะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขายท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขาย - จำเลยมิได้ต่อสู้ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย จึงไม่อาจนำสืบเปลี่ยนแปลงสัญญาได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายรถยนต์ปอนเตี๊ยกจึงเรียกเงินมัดจำคืน จำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ 15,000 บาท เอารถฮิลแมนประกันแล้วกู้อีก 10 ,000 บาทเอารถปอนเตี๊ยกประกัน ต่อมาจำเลยชำระคืน 15,000 บาท โจทก์คืนรถปอนเตี๊ยกให้ แล้วโจทก์ยึดรถฮิลแมนของจำเลยโอนเป็นของโจทก์ โจทก์ยังจะต้องคืนเงินให้จำเลยอีก 5,000 บาท ข้อต่สู้ของจำเลยมิได้กล่าวอ้างตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย ดังนี้ จำเลยจะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขายท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้
of 134