พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ความรุนแรงเพื่อป้องกันตนเองและการกระทำโดยบันดาลโทสะ: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำผิด
เมื่อผู้ตายยกอาวุธปืนเล็งมายังจำเลย จำเลยได้เข้าแย่งอาวุธปืนจากผู้ตายทำให้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ผู้ตายจึงได้หักลำกล้องปืนและบรรจุกระสุนขึ้นใหม่ จำเลยได้เข้าแย่งอาวุธปืนอีกเป็นเหตุให้ปืนลั่นอีก 1 นัด และอาวุธปืนได้หลุดจากมือผู้ตายถือว่าภยันตรายที่จำเลยต้องป้องกันได้ผ่านพ้นไป ไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอันจะต้องป้องกันอีก การที่จำเลยใช้มีดโต้ฟันผู้ตายในขณะนั้น จึงไม่อาจเป็นการกระทำโดยป้องกันได้ แต่การกระทำของผู้ตายถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยฟันผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5371/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดโดยบันดาลโทสะจากการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามถึงบิดามารดา
ผู้ตายด่าจำเลยว่า ไอ้เหี้ยเลิกกันแล้วไม่มีสิทธิ ด่ามารดาจำเลยว่า เป็นคนเลือดชั่ว จำเลยเป็นลูกทิ้ง จำเลยพาบุตรสาวจะขึ้นรถ ผู้ตายร้องด่าอีกว่า อย่าไปกับมัน มันคนชั่ว คนเลวและด่าว่าไปถึงบิดามารดาจำเลยอีก บิดามารดานั้นเป็นที่เคารพของจำเลยซึ่งเป็นบุตร การที่ผู้ตายก้าวล่วงไปด่าว่าถึงบิดามารดาจำเลยนั้น นับได้ว่าจำเลยได้ถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการที่จำเลยยิงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำผิดโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4715/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. บันดาลโทสะ: การพิจารณาโทษจำคุกจากการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้มีดของกลางแทงไปที่กลางหน้าอกของผู้ตาย ซึ่งมีอวัยวะสำคัญอยู่ภายในอย่างแรง แม้แทงเพียงครั้งเดียว แต่จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ผู้ตายกับจำเลยด่ากันโดยใช้ถ้อยคำหยาบคายเป็นประจำทุกวันแม้ในวันเกิดเหตุผู้ตายด่าจำเลยว่า "ไอ้หน้าหีหน้าแตด ไม่ช่วยทำมาหากิน" ก็เป็นเพียงการกล่าวถ้อยคำหยาบคายตามปกติ ทั้งขณะเกิดเหตุเพื่อนบ้านที่ร่วมดื่มสุรากับจำเลยก็กลับไปแล้ว คำกล่าวของผู้ตายจึงไม่ได้ทำให้จำเลยต้องอับอายขายหน้าบุคคลอื่น จะถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมไม่ได้ การที่จำเลยแทงผู้ตายจึงไม่ใช่เพราะเหตุบันดาลโทสะ หากแต่เป็นเพราะจำเลยโกรธเคืองที่ผู้ตายด่าว่าจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3176/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายในความขัดแย้งส่วนตัว การกระทำจึงไม่เป็นการป้องกันตัวหรือบันดาลโทสะ
โจทก์ร่วมกับจำเลยโต้เถียงกันเรื่องเขตที่นา โดยจำเลยต่อว่าโจทก์ร่วมก่อนและชกต่อยกัน โจทก์ร่วมสู้ไม่ได้จึงใช้จอบตีจำเลยล้มลงและโจทก์ร่วมผละจากจำเลยเมื่อเห็นจำเลยล้มลงแล้ว จำเลยจึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงโจทก์ร่วม 1 นัด ขณะที่โจทก์ร่วมอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5 วา พฤติการณ์เป็นการสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน และจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันและบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3167/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงตอบโต้หลังถูกทำร้าย: ป้องกันตัวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เข้าข่ายบันดาลโทสะ ศาลลดโทษเนื่องจากเหตุการณ์เชื่อมโยง
จำเลยถูกโจทก์ร่วมแทงที่ไหปลาร้า จำเลยโกรธ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แล้วกลับมาที่ร้านของตนเล่าเรื่องให้ภริยาทราบ เอาปืนจากร้านตนกลับไปยิงโจทก์ร่วมที่บริษัทที่โจทก์ร่วมอยู่ เมื่อในขณะที่จำเลยยิงโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมไม่ได้ทำร้ายหรือกำลังจะทำร้ายจำเลยจึงไม่มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและถือไม่ได้ว่า จำเลยได้กระทำผิดต่อสู้ข่มเหงในขณะที่ถูกข่มเหงจึงไม่เป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2990/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ขวานทำร้ายร่างกายสามีภริยา ไม่ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะ แต่เป็นจากความโกรธเคือง
จำเลยอ้อนวอนขอให้ผู้ตายกลับมาอยู่กับจำเลยเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรจำเลยไม่ยอมให้กลับขอให้พูดกันให้รู้เรื่อง ผู้ตายไม่ยอมทั้งได้พูดว่าเบื่อขี้หน้าและถ่มน้ำลายรดหน้าจำเลยกับด่าว่าต่าง ๆ นา ๆ จำเลยโมโหจึงวิ่งไปหยิบขวานที่วางอยู่ใกล้ ๆ ผู้ตายพูดท้าให้ฟัน จำเลยจึงฟันผู้ตาย เป็นเรื่องสามีภริยามีปากเสียงทะเลาะกันตามปกติ ส่วนที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยต่าง ๆ นา ๆ นั้นก็ไม่ได้ความว่าผู้ตายด่าว่าจำเลยด้วยถ้อยคำอย่างไร ดังนี้ จะถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่ การที่จำเลยใช้ขวานเป็นอาวุธฟันผู้ตายถึงแก่ความตายจึงมิใช่เพราะเหตุบันดาลโทสะ แต่เป็นเพราะจำเลยโกรธเคืองผู้ตายที่ไม่ยอมกลับไปอยู่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2990/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนาไม่ใช่เหตุบันดาลโทสะ กรณีสามีภริยาทะเลาะกัน
จำเลยอ้อนวอนขอให้ผู้ตายกลับมาอยู่กับจำเลยเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรจำเลยไม่ยอมให้กลับขอให้พูดกันให้รู้เรื่อง ผู้ตายไม่ยอมทั้งได้พูดว่าเบื่อขี้หน้าและถ่มน้ำลายรดหน้าจำเลยกับด่าว่าต่าง ๆ นา ๆจำเลยโมโหจึงวิ่งไปหยิบขวานที่วางอยู่ใกล้ ๆ ผู้ตายพูดท้าให้ฟันจำเลยจึงฟันผู้ตาย เป็นเรื่องสามีภริยามีปากเสียงทะเลาะกันตามปกติส่วนที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยต่าง ๆ นา ๆ นั้นก็ไม่ได้ความว่าผู้ตายด่าว่าจำเลยด้วยถ้อยคำอย่างไร ดังนี้ จะถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่ การที่จำเลยใช้ขวานเป็นอาวุธฟันผู้ตายถึงแก่ความตายจึงมิใช่เพราะเหตุบันดาลโทสะ แต่เป็นเพราะจำเลยโกรธเคืองผู้ตายที่ไม่ยอมกลับไปอยู่ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2101/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายโดยมีเหตุทำร้ายก่อนหน้าและบันดาลโทสะ
ผู้ตายหาเรื่องทำร้ายเพื่อนของจำเลยแล้วหันไปหาเรื่องทำร้ายจำเลยอีก แต่มีกลุ่มชายประมาณ 10 คน ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นเห็นความไม่เป็นธรรมได้เข้าช่วยเหลือจำเลย ผู้ตายจึงวิ่งหนีออกไปที่ถนน จำเลยวิ่งไล่ตามไปติด ๆ แล้วต่อสู้กับผู้ตายที่ใกล้เกาะกลางถนน จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย บาดแผลที่แทงลึกถึง 14 ซ.ม. ทะลุถูกเยื่อหุ้มหัวใจและเส้นเลือดดำขั้วหัวใจแสดงว่าแทงโดยแรงเป็นการกระทำโดยเจตนาฆ่า เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายหาเรื่องทำร้ายจำเลยก่อน เป็นเรื่องที่จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และจำเลยติดตามไปทำร้ายผู้ตายในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากความคับแค้นใจ: เหตุลดหย่อนโทษคดีอาญาจากการถูกข่มเหงและครอบครัวแตกแยก
การที่จำเลยซึ่งเป็นหญิงถูกผู้เสียหายแย่งสามี แล้วต้องถูกสามีไล่ออกจากบ้านพร้อมบุตร เป็นเหตุให้ครอบครัวต้องแตกแยกจำเลยต้องไปเช่าบ้านอยู่และมีรายได้ไม่พอใช้จ่าย บุตรที่กำลังศึกษาอยู่ต้องออกจากโรงเรียน นับว่าผู้เสียหายทำให้จำเลยเกิดความคับแค้นใจอย่างมากอยู่ก่อนแล้ว เมื่อจำเลยไปขอเงินจากสามี แล้วพบผู้เสียหายและถูกผู้เสียหายด่าว่า และมองด้วยอาการเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจดเท้า ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมจนทำให้จำเลยเกิดโทสะ การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายไปในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72 เมื่อปรากฏว่าจำเลยมีเหตุอันควรเห็นใจ เนื่องจากถูกผู้เสียหายแย่งสามีแล้วถูกสามีขับไล่ออกจากบ้าน ครอบครัวประสบความเดือดร้อนจำเลยย่อมได้รับความคับแค้นใจอย่างมากประกอบกับหลังเกิดเหตุจำเลยได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งรู้จักให้พาเข้ามอบตัว อันเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงาน แสดงให้เห็นว่าที่จำเลยยิงผู้เสียหายไปถึง 4-5 นัด ก็เป็นเพราะขณะนั้นจำเลยไม่สามารถควบคุมสติได้ตามปกติ การกระทำของจำเลยจึงมีเหตุอันควรปรานีให้ลงโทษสถานเบาเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วรอการลงโทษและคุมความประพฤติของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกยั่วยุ: การกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และการลดโทษตามมาตรา 72
เมื่อจำเลยกับผู้ตายอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยา การที่ผู้ตายไปนอนค้างคืนกับนาย พ.และผู้ตายยังบอกจำเลยต่อหน้านายพ.อย่างปราศจากความยำเกรงจำเลยว่า ผู้ตายมานอนกับนาย พ.ทุกคืน จึงเป็นการเยาะเย้ยท้าทายจำเลยว่าได้ทำชู้ กันอยู่เรื่อย ๆจำเลยจะทำไม อันเป็นการยั่วยุอารมณ์ของจำเลย ถือได้ว่าเป็นการสบประมาทจำเลยอย่างร้ายแรง โดยมิได้คาดคิดมาก่อน ย่อมเหลือวิสัยที่จำเลยจะอดกลั้นไว้ได้ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการกดขี่ข่มเหงจิตใจของจำเลยอย่างร้ายแรง การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายในทันทีจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ.