พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5809/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การข่มเหงต้องร้ายแรงและเป็นเหตุโดยตรง
การที่ผู้ตายกล่าวกับจำเลยว่าให้จำเลยไปหาภรรยาใหม่ผู้ตายมีสามีใหม่แล้ว สามีใหม่รวยกว่าจำเลยเสียอีก ยังถือไม่ได้ว่าคำกล่าวของผู้ตายเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจะอ้างว่าฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากคำดูถูกเหยียดหยามและการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
ผู้ตายเมาสุรากล่าววาจาล่วงเกินจำเลยโดยกล่าวว่าทำงาน ไม่เป็นแต่ได้ค่าแรงแพงทำงานผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ทำงานเป็นช่างไม้ได้ ไม่เท่าไรทำเป็นอวดเก่ง และด่าแม่จำเลย ผู้ตายพูดจาถากถางซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ครั้นจำเลยจะกลับก็ไม่ยอมให้กลับ พฤติการณ์เหล่านี้เห็นได้ว่าผู้ตายกล่าววาจาและกระทำการอันเป็นการดูถูกเหยียดหยาม เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมจนจำเลยบันดาลโทสะ จึงไปหยิบค้อนมาตีผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: เหตุบันดาลโทสะไม่สมเหตุผล, ระยะเวลาระหว่างเหตุและลงมือเพียงพอที่จะยับยั้งความคิด
ผู้ตายเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลย ไม่ดำเนินการย้ายจำเลยกลับมาทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถตามที่จำเลยขอร้อง กลับนำบันทึกขอความเป็นธรรมของจำเลยมาเขียนว่า ให้ปฏิบัติตามคำสั่งกรมการแพทย์ที่สั่งให้จำเลยไปทำหน้าที่คนกลั่นน้ำ ดังนี้ เป็นการที่ผู้ตายปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ มิใช่การข่มเหงจำเลยด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยจะนำมาอ้างเพื่อกระทำต่อผู้ตายโดยอาศัยเหตุบันดาลโทสะไม่ได้ จำเลยไม่พอใจผู้ตายที่ไม่ดำเนินการย้ายจำเลยให้กลับมาทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถที่จำเลยเคยทำอยู่ จึงกลับไปเอาอาวุธปืนที่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำงาน 13-14 กิโลเมตร มายิงผู้ตายจำเลยมีระยะเวลานานพอสมควรที่จะทบทวนยับยั้งความคิดพยาบาทอาฆาตแค้นผู้ตาย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายตามที่ได้เตรียมการมา จึงเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 วางโทษประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกตลอดชีวิต เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ห้ามโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคสองพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 11
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกทำร้ายร่างกายและการใช้อาวุธปืน
ผู้ตายชกต่อยและเตะจำเลยซึ่งเป็นภรรยาไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมการที่จำเลยไปหยิบอาวุธปืนมายิงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำไปโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากการถูกทำร้ายร่างกายเป็นเหตุบรรเทาโทษทางอาญา
จำเลยปลุกผู้ตายตื่นขึ้นเพื่อให้ไปส่งจำเลย ผู้ตายไม่ยอมไปจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ผู้ตายชกต่อย และเตะ จำเลย จำเลยจึงหยิบอาวุธปืนมายิงผู้ตาย พฤติการณ์ที่ผู้ตายชกต่อยและเตะ จำเลยถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยหยิบอาวุธปืนมายิงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำไปโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6309/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุบันดาลโทสะต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องกระชั้นชิด การเว้นวรระห่างหลายชั่วโมงไม่ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะ
วันเกิดเหตุตอนใกล้เที่ยงวันจำเลยทราบเรื่องจากภริยาว่าผู้ตายข่มขืนกระทำชำเราภริยา แล้วจำเลยออกจากบ้านไปจับปลา การที่จำเลยพบผู้ตายในตอนเย็นระหว่างนำปลาที่จับได้ไปให้บิดาแล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทันที ดังนี้ จำเลยหาได้กระทำต่อผู้ตายในขณะมีโทสะหรือระยะเวลาที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับที่มีโทสะไม่ เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ตายกระทำการข่มเหงจำเลยอย่างใดอีก จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะเหตุบันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5916/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะ: การชวนทะเลาะวิวาทก่อนถูกข่มเหง ไม่ถือเป็นเหตุบันดาลโทสะ และการลดโทษจากประโยชน์การพิจารณา
จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อน โดยถาม ผู้ตายซึ่งขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาว่า จะยิงพวกจำเลยให้หมดใช่ ไหม อันเป็นการชวนทะเลาะวิวาท การที่ผู้ตายพูดตอบโต้ทำนองเยาะเย้ย ว่าจะฆ่าพวกจำเลยให้หมด แม้พ่อจำเลยก็จะยิงไม่ให้เหลือ เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม อันเป็นเหตุให้บันดาลโทสะ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4891/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำคุกจากคดีก่อนหน้าและการได้รับประโยชน์จาก พรบ.ล้างมลทิน
จำเลยและโจทก์ร่วมสมัครใจด่าทอซึ่งกันและกันก่อนเกิดเหตุแล้วจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยเช่นนี้ถือไม่ได้ว่ากระทำไปเพราะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อคดีก่อนจำเลยกระทำผิดก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530และพ้นโทษไปก่อนแล้ว จำเลยย่อมได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา พ.ศ. 2530 มาตรา 4 ถือว่าจำเลยไม่เคยถูกลงโทษในความผิดดังกล่าว จึงเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4758/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้เสียหายและจำเลยกับพวกนั่งดื่มสุรากันที่บ้านพักจำเลย ต่อมาผู้เสียหายเรียกจำเลยให้ลงไปพูดกัน จำเลยไม่ลง ผู้เสียหายดึงมือจำเลยหลายครั้งจนจำเลยตกจากที่นั่ง แล้วจำเลยเดินหนีเข้าไปในห้องนอนของจำเลย ผู้เสียหายเดินตามจำเลยเข้าไปในห้องกระชากมือจำเลยออกมา เช่นนี้ ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุ กรณีถือได้ว่าจำเลยถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้เหล็กตะไบสามเหลี่ยมแทงผู้เสียหายที่บริเวณหน้าท้อง 2 ทีขณะที่ผู้เสียหายเข้าไปกระชากมือหรือจับบ่า จำเลยดึงออกมาข้างนอกห้อง จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4758/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุ
ผู้เสียหายและจำเลยกับพวกนั่งดื่มสุรากันที่บ้านพักจำเลย ต่อมาผู้เสียหายเรียกจำเลยให้ลงไปพูดกัน จำเลยไม่ลง ผู้เสียหายดึงมือจำเลยหลายครั้งจนจำเลยตกจากที่นั่ง แล้วจำเลยเดินหนีเข้าไปในห้องนอนของจำเลย ผู้เสียหายเดินตามจำเลยเข้าไปในห้องกระชากมือจำเลยออกมา เช่นนี้ ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุ กรณีถือได้ว่าจำเลยถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้เหล็กตะไบสามเหลี่ยมแทงผู้เสียหายที่บริเวณหน้าท้อง 2 ทีขณะที่ผู้เสียหายเข้าไปกระชากมือหรือจับบ่า จำเลยดึงออกมาข้างนอกห้อง จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72.