คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3235/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า และบันดาลโทสะ: พฤติการณ์การทำร้ายด้วยอาวุธมีคม
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ที่เกิดเหตุมืดสลัว ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันผู้เสียหายไป 1 ที แล้วมิได้ฟันซ้ำอีกซึ่งลักษณะของขวานของกลางเป็นอาวุธที่หนักและมีคม ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าก็ย่อมจะฟันแรง บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับจึงไม่ฉกรรจ์ ประกอบกับผู้เสียหายกับจำเลยไม่มีเรื่องหมางใจกันมาก่อน ดังนี้ จำเลยมีเจตนาทำร้ายไม่มีเจตนาฆ่า การที่ผู้เสียหายเตะจำเลยก่อนถูกอัณฑะโดยไม่มีเหตุผลใด ๆเป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจำเลยฟันผู้เสียหายไปในทันที ดังนี้ เป็นการกระทำเพราะบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2280/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะจากความขัดแย้งในครอบครัว ศาลพิจารณาเหตุผลและลดโทษ
จำเลยกับผู้ตายมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยา ผู้ตายเป็นคนโมโหร้าย จำเลยจะกลับไปเยี่ยมมารดา แต่ผู้ตายไม่ให้ ไป และกล่าวหาจำเลยว่าจะไปมีชู้ ด่าว่าจำเลยพร้อมทั้งตบตี จำเลยใช้ปืนของผู้ตายยิงผู้ตายเพียงนัดเดียว เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ เพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุ อันไม่เป็นธรรม ทั้งยิงผู้ตายในขณะนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตำรวจก่อเหตุวิวาทก่อนแล้วยิงฆ่าประชาชน ศาลไม่รับฟังเหตุบันดาลโทสะ
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ปลุก ท.ซึ่งนอนหลับอยู่บนม้านั่งของตู้รถไฟโดยใช้มือเขย่าและใช้ปืนพกจี้พร้อมกับจับคอเสื้อท. ดึงกับใช้คำพูดที่ไม่สมควร ท.ตื่นขึ้นด่าจำเลยด้วยถ้อยคำหยาบคาย เมื่อ จำเลย ลงจากรถไฟได้ท้าทายให้ ท. ตามลงไปที่ชานชาลาของสถานีรถไฟ เมื่อท. ไม่ยอมลงจำเลยก็ใช้ปืนพกยิง ท. จนถึงแก่ความตาย การกระทำ ของจำเลย เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ เจ้าพนักงานตำรวจ พึงปฏิบัติต่อราษฎร นับได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนและสมัครใจ เพื่อเข้าวิวาทกับ ท. โดยตรง และกระทำไปโดยโมหจริตลืมตัว จึงจะอ้างเหตุบันดาลโทสะหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจที่ก่อเหตุวิวาทก่อนและมีเจตนาฆ่า ย่อมไม่อ้างเหตุบันดาลโทสะได้
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ปลุก ท. ซึ่งนอนหลับอยู่บนม้านั่งของตู้รถไฟโดยใช้มือเขย่าและใช้ปืนพกจี้พร้อมกับจับคอเสื้อ ท. ดึงกับใช้คำพูดที่ไม่สมควร ท.ตื่นขึ้นด่าจำเลยด้วยถ้อยคำหยาบคาย เมื่อ จำเลย ลงจากรถไฟได้ท้าทายให้ ท. ตามลงไปที่ชานชาลาของสถานีรถไฟ เมื่อ ท. ไม่ยอมลงจำเลยก็ใช้ปืนพกยิง ท. จนถึงแก่ความตาย การกระทำ ของจำเลย เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ เจ้าพนักงานตำรวจพึงปฏิบัติต่อราษฎร นับได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนและสมัครใจ เพื่อเข้าวิวาทกับ ท. โดยตรง และกระทำไปโดยโมหจริตลืมตัว จึงจะอ้างเหตุบันดาลโทสะหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในสถานการณ์ฉุกละหุกและบันดาลโทสะ ศาลลดโทษจากฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในที่มืด ในระยะเวลาฉุกละหุกไม่ มีเวลาเลือกที่แทง และแทงไปเพียงครั้งเดียวซึ่งเป็น การแทงโดยไม่อาจทราบได้ว่าจะถูกตรงที่ใด จำเลยรักผู้ตายซึ่งเป็นภรรยามาก ไม่เคยดุด่าทำร้ายผู้ตายมาก่อน เมื่อแทงผู้ตายแล้วมิได้หลบหนี ได้พยายามนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลเพราะเข้าใจว่าผู้ตายยังไม่ตาย ถือไม่ได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดเพียง ฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
จำเลยเอาใจชวนผู้ตายซึ่งเมาสุรามากให้รับประทานอาหารผู้ตายไม่รับประทานกลับเหยียบจานข้าวและตะเกียงจนดับแล้ว เดินข้ามสำรับกับข้าวไปนอน จำเลยตามไปง้อ ผู้ตายกลับใช้มีดแทงจำเลยก่อนจำเลยแย่งมีดได้จึงใช้มีดแทงผู้ตาย ถือได้ว่าจำเลยบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณา ได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจน เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในภาวะฉุกละหุกและบันดาลโทสะ ศาลลดโทษจากฆ่าผู้อื่นเป็นทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในที่มืด ในระยะเวลาฉุกละหุกไม่ มีเวลาเลือกที่แทงและแทงไปเพียงครั้งเดียวซึ่งเป็น การแทงโดยไม่อาจทราบได้ว่าจะถูกตรงที่ใดจำเลยรัก ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยามาก ไม่เคยดุด่าทำร้ายผู้ตายมาก่อนเมื่อแทงผู้ตายแล้วมิได้หลบหนี ได้พยายามนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลเพราะเข้าใจว่าผู้ตายยังไม่ตาย ถือไม่ได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายจำเลยจึงมีความผิดเพียง ฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 จำเลยเอาใจชวนผู้ตายซึ่งเมาสุรามากให้รับประทานอาหารผู้ตายไม่รับประทานกลับเหยียบจานข้าวและตะเกียงจนดับแล้ว เดินข้ามสำรับกับข้าวไปนอน จำเลยตามไปง้อ ผู้ตายกลับ ใช้มีดแทงจำเลยก่อน จำเลยแย่งมีดได้จึงใช้มีดแทงผู้ตาย ถือได้ว่าจำเลยบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ฟ้องขอให้ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เมื่อทางพิจารณา ได้ความว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจน เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ก็ลงโทษตามฐานความผิดเท่าที่พิจารณาได้ความได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยบันดาลโทสะและการทำร้ายร่างกาย: ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าโดยบันดาลโทสะ และยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นสำหรับจำเลยที่ 2
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตาย ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ใช้ไม้ตีผู้ตายได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้ตาย พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295ดังนี้ เป็นเรื่องเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 หาใช่เหตุลักษณะคดีไม่ เมื่อโจทก์และจำเลยที่ 2 ไม่อุทธรณ์ คดีเฉพาะจำเลยที่ 2 จึงต้องบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ตายทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นภรรยามิได้จดทะเบียนสมรสของจำเลยที่ 1 แล้วใช้ขวานฟันจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งขวานได้ก็เหวี่ยงทิ้ง ผู้ตายยังติดตามจะทำร้ายจำเลยทั้งสองซ้ำอีก ดังนี้ การกระทำของผู้ตายจึงเป็นการข่มเหงจำเลยทั้งสองอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 ยิงและตีผู้ตายผู้ข่มเหงในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ หาใช่เพื่อป้องกันไม่ศาลฎีการับฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การโต้เถียงรุนแรงนำไปสู่การยิงเสียชีวิต ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยยิงผู้ตายขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ในรถยนต์ที่จำเลยขับขี่ แล้วจำเลยขับรถยนต์นำศพจากที่เกิดเหตุ และจากรถยนต์เข้าไปในโบสถ์ นำศพไปใส่ไว้ในกล่องกระดาษในลักษณะให้ศพนั่งคุดคู้อยู่ในกล่อง นำกล่องไปเก็บไว้ในห้องเก็บหนังสือ แม้มิได้ใช้วัสดุอื่นปิดบังกล่อง เมื่อเปิดประตูห้องเก็บหนังสือก็สามารถเห็นกล่องได้ ก็เป็นการกระทำเพื่อที่จะปิดบังเหตุแห่งการตายของผู้ตายจำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199
การที่ผู้ตายด่าว่าจำเลยถึงโคตรพ่อโคตรแม่ ทั้งๆ ที่ จำเลยเป็นผู้ให้ความอุปการะช่วยเหลือผู้ตายตลอดมา จนจำเลยระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้และใช้อาวุธปืนที่ติดตัวยิงเพียง 1 นัด ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดไปโดยบันดาลโทสะตามมาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3362/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฆ่าโดยเจตนา: เหตุบันดาลโทสะและการข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายเป็นพี่สาวร่วมบิดามารดาของจำเลย และมีสามีคนเดียวกันผู้ตายได้กับสามีก่อนจำเลย ผู้ตายย่อมมีส่วนที่จะนำรถจักรยานของสามีไปใช้ได้เช่นกัน การที่ผู้ตายมาเอารถจักรยานไปใช้ จำเลยไม่ยอมให้ ผู้ตายเข้ามาถึงรถจักรยาน จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3362/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แม้เกิดจากความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินร่วมกัน ศาลไม่รับฟังเหตุบันดาลโทสะ
ผู้ตายเป็นพี่สาวร่วมบิดามารดาของจำเลย และมีสามีคนเดียวกัน ผู้ตายได้กับสามีก่อนจำเลย ผู้ตายย่อมมีส่วนที่จะนำรถจักรยานของสามีไปใช้ได้เช่นกัน การที่ผู้ตายมาเอารถจักรยานไปใช้ จำเลยไม่ยอมให้ ผู้ตายเข้ามาถึงรถจักรยาน จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
of 50