คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายจากการถูกข่มเหงรุนแรงขณะปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ขณะเกิดเหตุจำเลยกำลังปฏิบัติงานแจกยาแก่ประชาชน ผู้ตายกล่าวคำหยาบคายก้าวร้าวต่อบุคคลที่กำลังปฏิบัติงาน เมื่อจำเลยห้ามก็ถูกผู้ตายซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเข้าชกต่อย จำเลยต่อยตอบแต่ผู้ตายก็ไม่หยุดยั้ง การข่มเหงเป็นเหตุให้จำเลยต้องใช้ปืนยิงผู้ตายเช่นนี้ กรณีถือว่าจำเลยถูกข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 373/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ป้องกันตัวจากการถูกข่มเหงร้ายแรงและการลดโทษจากเหตุยั่วโทสะ
ขณะเกิดเหตุจำเลยกำลังปฏิบัติงานแจกยาแก่ประชาชน ผู้ตายกล่าวคำหยาบคายก้าวร้าวต่อบุคคลที่กำลังปฏิบัติงาน เมื่อจำเลยห้ามก็ถูกผู้ตายซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเข้าชกต่อย จำเลยต่อยตอบแต่ผู้ตายก็ไม่หยุดยั้งการข่มเหงเป็นเหตุให้จำเลยต้องใช้ปืนยิงผู้ตายเช่นนี้ กรณีถือว่าจำเลยถูกข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเหตุป้องกันตัว ศาลพิจารณาเจตนาและเหตุแห่งการกระทำ
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่าจำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเจตนา: ลดโทษฐานถูกข่มเหง
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่า จำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยเจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงร้ายแรง ศาลลดโทษได้ตามกฎหมาย
จำเลยมาพบเห็นผู้ตายกำลังกอดจูบภริยาตน จึงบันดาลโทสะเข้าแทงผู้ตายขณะนั้นทันที กรณีเช่นนี้ถือว่าจำเลยบันดาลโทสะกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลอาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ (เทียบฎีกาที่435/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ศาลลดโทษได้ตามดุลพินิจ
จำเลยมาพบเห็นผู้ตายกำลังกอดจูบภริยาตน จึงบันดาลโทสะเข้าแทงผู้ตายขณะนั้นทันที. กรณีเช่นนี้ถือว่าจำเลยบันดาลโทสะกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม. ซึ่งศาลอาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้.(เทียบฎีกาที่435/2500).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงร้ายแรง ศาลลดโทษได้ตามดุลยพินิจ
จำเลยมาพบเห็นผู้ตายกำลังกอดจูบภริยาตน จึงบันดาลโทสะเข้าแทงผู้ตายขณะนั้นทันที กรณีเช่นนี้ถือว่าจำเลยบันดาลโทสะกระทำไปโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลอาจลงโทษจำน้อยเลยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้(เทียบฎีกาที่ 435/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย: การป้องกันตัวและเจตนาฆ่าในคดีอาญา
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน. จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่. และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้. เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน. แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย. แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย. และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา. จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้. เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้. คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาททำร้ายร่างกาย การพิเคราะห์เจตนา การป้องกันตัว และบันดาลโทสะ
เมื่อพฤติการณ์เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะเป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทสมัครใจ การป้องกันตัว และเจตนาในการทำร้ายร่างกาย ศาลฎีกาพิจารณาพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้
เมื่อพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีวิวาทสมัครใจต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะยกข้อต่อสู้ว่าที่จำเลยกระทำไปนั้นมีลักษณะ เป็นการป้องกันหาได้ไม่ และจำเลยจะอ้างว่ากระทำไปด้วยบันดาลโทสะก็ไม่ได้ เพราะจำเลยสมัครใจต่อสู้มาตั้งแต่แรก จำเลยมิได้ถูกฝ่ายผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อน แล้วจำเลยจึงได้ทำร้ายฝ่ายผู้ตาย แต่การที่จำเลยถูกฝ่ายผู้ตายซึ่งมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธดีกว่ารุมทำร้ายจำเลย และการที่จำเลยเหวี่ยงมีดกราดไปมาถูกผู้ตายที่ขมับเพราะผู้ตายโผเข้ามา จำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้ตายให้ถูกที่สำคัญได้ เพราะเป็นการชุลมุนต่อสู้กันหลายคน จะฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ได้ คงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาเท่านั้น
of 50