พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุกับบันดาลโทสะ: องค์ประกอบความผิดต่างกัน
การกระทำการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ กับการกระทำโดยบันดาลโทสะเป็นการกระทำที่มีองค์ประกอบความผิดต่างกัน.กล่าวคือ หากเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ไม่เข้าองค์ประกอบของอีกอย่างหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษ เป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา218
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั่งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวแก่เจ้าพนักงานแต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่ง อันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั่งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวแก่เจ้าพนักงานแต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่ง อันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ และการลดโทษโดยคำนึงถึงการให้การเท็จต่อศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษ เป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั้งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้มอบตัวแก่เจ้าพนักงาน แต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่งอันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั้งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้มอบตัวแก่เจ้าพนักงาน แต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่งอันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายในกรณีชุลมุนจากการทำร้ายร่างกายและการแย่งสิ่งของ
โจทก์ร่วมกับพวกดื่มสุราที่ร้านของจำเลยจนมึนเมา แล้วสั่งสุราอีกภรรยาจำเลยบอกว่าสุราหมด โจทก์ร่วมได้ลุกขึ้นไปหยิบขวดสุราของจำเลยที่โต๊ะชงกาแฟ ภรรยาจำเลยเข้าแย่ง โจทก์ร่วมได้ทำร้ายภรรยาจำเลยพวกของโจทก์ร่วมได้บีบคอจำเลยจนหน้าแหงนอกแอ่น จำเลยควานไปพบเหล็กเปิดขวดแล้วเหวี่ยงไป 1 ทีในขณะชุลมุนกันอยู่ไปถูกนัยน์ตาโจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตาบอด การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมายในเหตุชุลมุน จำเลยไม่มีความผิด
โจทก์ร่วมกับพวกดื่มสุราที่ร้านของจำเลยจนมึนเมา แล้วสั่งสุราอีก ภรรยาจำเลยบอกว่าสุราหมด โจทก์ร่วมได้ลุกขึ้นไปหยิบขวดสุราของจำเลยที่โต๊ะชงกาแฟภรรยาจำเลยเข้าแย่ง โจทก์ร่วมได้ทำร้ายภรรยาจำเลย พวกของโจทก์ร่วมได้บีบคอจำเลยจนหน้าแหงนอกแอ่น จำเลยควานไปพบเหล็กเปิดขวดแล้วเหวี่ยงไป 1 ทีในขณะชุลมุนกันอยู่ ไปถูกนัยน์ตาโจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตาบอด การกระทำของจำเลยเช่นนี้เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหง ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและเหตุบรรเทาโทษ
ผู้ตายเป็นทหาร จำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีมีอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ ในหมู่นั้นก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอยืมปืนจำเลยไปเที่ยว แต่จำเลยไม่ให้ผู้ตายกับจำเลยเถียงกัน มีคนบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย ผู้ตายก็กลับไป แต่แล้วกลับย้อนตามจำเลยมาอีกพร้อมกับพูดว่า พวกมึงแน่สักแค่ไหนกูรู้ไต๋อยู่ แล้วผู้ตายวิ่งเข้ามาใกล้จำเลยจำเลยยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และวิ่งหนีผู้ตาย ผู้ตายยังวิ่งไล่กับได้ร้องด่าด้วย ดังนี้พฤติการณ์ถือได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมฉะนั้น การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ควรลงโทษจำเลยให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยบันดาลโทสะจากเหตุข่มเหงอย่างร้ายแรง ลดโทษอาญา มาตรา 72
ผู้ตายเป็นทหาร จำเลยมีอายุกว่าสิบเจ็ดปีมีอายุน้อยกว่าคนอื่น ๆ ในหมู่นั้นก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอยืมปืนจำเลยไปเที่ยว แต่จำเลยไม่ให้ผู้ตายกับจำเลยเถียงกัน มีคนบอกให้ผู้ตายกลับไปเสีย ผู้ตายก็กลับไป แต่แล้วกลับย้อนตามจำเลยมาอีกพร้อมกับพูดว่า พวกมึงแน่สักแค่ไหน กูรู้ไต๋อยู่ แล้วผู้ตายวิ่งเข้ามาใกล้จำเลย จำเลยยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และวิ่งหนีผู้ตาย ผู้ตายยังวิ่งไล่กับได้ร้องด่าด้วย ดังนี้พฤติการณ์ถือได้ว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ฉะนั้น การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ควรลงโทษจำเลยให้น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงพลาดจากเหตุถูกข่มเหง: ผลกระทบต่อความผิดทางอาญาและการลดโทษจากบันดาลโทสะ
จำเลยถูกข่มเหงแล้วจำเลยได้ยิงคนที่ข่มเหงในขณะนั้น แต่เนื่องจากคนที่ข่มเหงต่างวิ่งหนีไป กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้เสียหายเข้า จำเลยก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 60 แต่การกระทำของจำเลยนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากจำเลยถูกข่มเหงโดยไม่เป็นธรรม และกระทำลงไปโดยบันดาลโทสะ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 ประกอบด้วยมาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงพลาดจากเหตุถูกข่มเหง: บันทึกโทษสถานเบาตามมาตรา 72
จำเลยถูกข่มเหงแล้วจำเลยได้ยิงคนที่ข่มเหงในขณะนั้นแต่เนื่องจากคนที่ข่มเหงต่างวิ่งหนีไป กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้เสียหายเข้า จำเลยก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60 แต่การกระทำของจำเลยนั้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากจำเลยถูกข่มเหงโดยไม่เป็นธรรม และกระทำลงไปโดยบันดาลโทสะ จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 ประกอบด้วยมาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกดูหมิ่น: เหตุลดโทษอาญา มาตรา ๗๒
ผู้ตายต้องการเล่นไพ่อีก จำเลยไม่ยอมเล่นด้วย ผู้ตายด่าจำเลยด้วยประการต่าง ๆ เป็นการที่ผู้ตายดูหมิ่นจำเลยซึ่งหน้า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด่าแล้วด่าอีกจนจำเลยอดโทสะไม่ได้ ถือได้ว่าเป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงตีผู้ตายในขณะนั้น เพราะบันดาลโทสะ ศาลลดโทษได้ตามมาตรา 72
(อ้างฎีกาที่ 295/2495)
(อ้างฎีกาที่ 295/2495)