พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากความหึงหวง การทำร้ายร่างกายสาหัส และการลดโทษจากคำรับสารภาพ
ผู้เสียหายได้เคยซื้อของกินจากหญิงซึ่งเคยได้เสียกับจำเลย โดยที่ผู้เสียหายไม่รู้มาก่อน และเคยพูดจาเกี้ยวพาราสีหญิงนั้น คืนเกิดเหตุ จำเลยรู้เรื่องจากคำบอกเล่าของหญิงนั้นว่าผู้เสียหายยังพูดจาเกี้ยวพาราสีเพื่อจะติดพันหญิงนั้นอยู่อีก จำเลยต่อว่าผู้เสียหายผู้เสียหายปฏิเสธ จำเลยก็ใช้มีดฟันผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมิได้กอดปล้ำหญิงนั้น การกระทำของจำเลยมิใช่เป็นเรื่องป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 และจำเลยจะอ้างว่าได้กระทำผิดโดยบันดาลโทสะตามมาตรา 72 ก็ไม่ได้
ผู้เสียหายถูกฟันด้วยมีดโต้ เป็นแผลที่หัวคิ้วขวาผ่านหน้าผาก ยาว 8 นิ้ว กว้างครึ่งนิ้ว ลึกถึงมันสมองกระโหลกศีรษะแตก ถ้าผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการรักษาเยียวยาให้ทันท่วงทีแล้ว ย่อมถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณาประกอบให้หลักฐานพยานโจทก์หนักแน่นขึ้นมาก เป็นเหตุให้ปรานีบรรเทาโทษจำเลยหนึ่งในสามได้
ผู้เสียหายถูกฟันด้วยมีดโต้ เป็นแผลที่หัวคิ้วขวาผ่านหน้าผาก ยาว 8 นิ้ว กว้างครึ่งนิ้ว ลึกถึงมันสมองกระโหลกศีรษะแตก ถ้าผู้บาดเจ็บไม่ได้รับการรักษาเยียวยาให้ทันท่วงทีแล้ว ย่อมถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายให้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่า
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณาประกอบให้หลักฐานพยานโจทก์หนักแน่นขึ้นมาก เป็นเหตุให้ปรานีบรรเทาโทษจำเลยหนึ่งในสามได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้ตายด้วยความบันดาลโทสะจากพฤติกรรมยั่วยุของบุตรเขย ศาลลดโทษตามมาตรา 72
ผู้ตายเป็นลูกเขย ได้เอาปืนของจำเลยซึ่งเป็นพ่อตามายิงเล่น จำเลยต่อว่าผู้ตายโต้เถียง แล้วยิงปืนมาจากในเรือน 2 นัด นัดหลังไปโดนเสาไม้ซึ่งจำเลยนั่งแอบอยู่สะเก็ดไม้กระเด็นไปถูกคิ้วจำเลยแตก จำเลยเข้าไปหยิบปืนในครัวมายิงผู้ตายขณะผู้ตายหันหลังลงบันไดเรือน นับได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยต่อเนื่องมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะจำเลยควรได้รับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเหนือกว่าเหตุ: ลดโทษฐานบันดาลโทสะจากถูกยั่วยุอย่างร้ายแรง
ผู้ตายเป็นลูกเขย ได้เอาปืนของจำเลยซึ่งเป็นพ่อตามายิงเล่น จำเลยต่อว่า ผู้ตายโต้เถียง แล้วยิงปืนมาจากในเรือน 2 นัด นัดหลังไปโดนเสาไม้ซึ่งจำเลยนั่งแอบอยู่ สะเก็ดไม้กระเด็นไปถูกคิ้วจำเลยแตก จำเลยเข้าไปหยิบปืนในครัวมายิงผู้ตายขณะผู้ตายหันหลังลงบันไดเรือน นับได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยต่อเนื่องมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะ จำเลยควรได้รับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: ลดโทษอาญาฐานฆ่าคนตาย
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่าได้เตะพ่อจำเลยแล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า "กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน" นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ๆ ค่านายเที่ยวและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใด ผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยงจำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลย จำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหง: การลดโทษอาญา มาตรา 72
ผู้ตายพูดก้าวร้าวจำเลยว่า ได้เตะพ่อจำเลย แล้วพูดยั่วจำเลยต่อไปว่า 'กูแก่แล้วใครเตะพ่อกูละก็ต้องเคืองกัน' นายเที่ยงพูดห้ามผู้ตาย ผู้ตายด่านายเที่ยงและยิงปืนเข้าไประหว่างจำเลยกับนายเที่ยงแต่ไม่ถูกผู้ใดผู้ตายใช้ปืนตีนายเที่ยง จำเลยร้องห้าม ผู้ตายหันมาหาจำเลยและใช้ปืนตีจำเลยจำเลยยิงปืนไป 1 นัดไม่ถูกใคร ผู้ตายหันหลังเดินผละออกมาได้ 1 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายพฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้ยิงผู้ตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยบันดาลโทสะจากถูกทำร้าย: ศาลพิจารณาความรุนแรงของการกระทำและบาดแผลเพื่อตัดสินโทษ
ผู้ตายเมาสุรามาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกันครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นมาเสียบนเรือนผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีกเมื่อจำเลยขัดขืนผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้จึงฟันเอาเช่นนี้ จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะจากเหตุถูกรังควาน ศาลพิจารณาความร้ายแรงของการกระทำและขนาดอาวุธ
ผู้ตายเมาสุรามาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกัน ครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นมาเสียบนเรือน ผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีก เมื่อจำเลยขัดขืนผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้จึงฟันเอา เช่นนี้ จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมดาตามมาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากถูกข่มเหงและสบประมาทเป็นเหตุให้ฆ่า: ศาลลดโทษตามมาตรา 72 และรอการลงโทษ
การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในถนนสาธารณก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงฆ่าเขาตายนั้น ต้องมีความผิดตามมาตรา 371 กระทงหนึ่งด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ได้ ไม่ใช่มาตรา 90
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกัน จำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่าเป็น "หน้าตัวเมีย ผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงทางจิตใจและการพรากภรรยา ศาลลดโทษอาญา
การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในถนนสาธารณะก่อนแล้วจึงใช้ปืนยิงฆ่าเขาตายนั้น ต้องมีความผิดตามมาตรา 371 กระทงหนึ่งด้วย แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ได้ไม่ใช่มาตรา 90
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกันจำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่า "เป็นหน้าตัวเมียผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้ และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
การที่ผู้ตายรู้อยู่ว่าหญิงเป็นภรรยาของจำเลยแล้วยังพยายามติดต่อทางชู้สาวเอาไปเป็นภรรยาจนได้ จำเลยยังมีเยื่อใยจึงติดตามไปพบทั้งภรรยาและผู้ตายเดินมาด้วยกันจำเลยได้วิงวอนขอให้ภรรยากลับไปอยู่กับตน ผู้ตายกลับสบประมาทว่า "เป็นหน้าตัวเมียผู้หญิงเขาไม่รักจะตามมาทำไม" ถือว่ารุนแรงสำหรับกรณีเช่นจำเลยนี้ และเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72 และคำนึงถึงเหตุผลเช่นนี้กับเหตุผลตามมาตรา 56 แล้ว ศาลรออาญาโทษจำคุกไว้ตามมาตรา 56 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1242/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากถูกข่มเหง: การกระทำหลังถูกทำร้ายไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
ผู้ตายไปลอบดักทำร้ายและได้ลงมือต่อยเตะจำเลยก่อนนั้น นับว่าจำเลยได้ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแล้ว ฉะนั้น เมื่อจำเลยชักหลาวออกมาไล่ทำร้ายและแทงผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงเข้าอยู่ในลักษณะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และได้กระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องยั่งโทสะขึ้น เป็นข้อต่อสู้ไว้ เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่า มีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยจะได้รับการลดหย่อนโทษ ศาลก็มีอำนาจที่จะยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยได้รับผลตามกฎหมายนั้นได้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องยั่งโทสะขึ้น เป็นข้อต่อสู้ไว้ เมื่อทางพิจารณาปรากฏว่า มีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยจะได้รับการลดหย่อนโทษ ศาลก็มีอำนาจที่จะยกขึ้นวินิจฉัยให้จำเลยได้รับผลตามกฎหมายนั้นได้