คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 72

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 499 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 863/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะ: การลดโทษอาญาในกรณีที่ผู้ถูกข่มเหงกระทำผิดต่อผู้ข่มเหงภายหลังเหตุข่มเหง
ผู้ตายไปพบนางเกษภรรยานายสุวรรณจำเลยอยู่บ้านคนเดียวก็คุกคามเกรี้ยวกราดเป็นทำนองข่มเหงว่าจะฆ่าจะชำเรา ครั้นนางเกษร้องเอ็ดอึงขึ้น ผู้ตายเป็นพระภิกษุจึงต้องรีบลงจากเรือนไป แต่พอดีจำเลยทั้งสองกลับมาได้ยินเสียงร้องและเมื่อทราบเรื่องเลยออกติดตามทันที จำเลยตามไปห่างเรือน 6-7 เส้น ก็ทันและทำร้ายผู้ตายนอนตายอยู่บนถนน ถือว่าการกระทำของนายสุวรรณจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้นแล้ว
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ผู้ถูกข่มเหงไม่จำเป็นจะต้องกระทำลงทันทีหรือ ณ ที่ซึ่งถูกข่มเหง หากได้กระทำผิดต่อผู้ที่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกัน ก็ยังถือว่ากระทำโดยบันดาลโทสะได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 14/2502)
นายสอจำเลยกับนายสุวรรณจำเลยเป็นเพียงเพื่อนสนิทกัน การที่นางเกษภรรยานายสุวรรณจำเลยถูกข่มเหงรังแก ย่อมเป็นการข่มเหงนายสุวรรณผู้สามีด้วย เป็นเหตุผลเกี่ยวกับตัวบุคคลหาใช่ลักษณะคดีไม่ แม้จำเลยทั้งสองจะทำผิดร่วมกัน ก็จะปรับบทลงโทษนายสอจำเลยตาม มาตรา 72 คือ เหตุลดโทษเพราะบันดาลโทสะด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยคุณแก่จำเลยแม้ไม่ได้ยกข้อต่อสู้ และความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาจากบันดาลโทสะ
คดีอาญา หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลย ในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกัน เพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย ๆ กำลังนั่งกินหมากอยู่ จึงใช้มีดเขียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 815/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยผลดีแก่จำเลยแม้มิได้ยกขึ้นเอง และการพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา
คดีอาญา หากปรากฏในทางพิจารณาจะวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยในทางใดได้ แม้จำเลยจะมิได้โต้แย้งมา ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยและผู้ตายเป็นสามีภริยากัน ได้เกิดทะเลาะกันเพราะจำเลยตีบุตร ผู้ตายตีจำเลย จำเลยกำลังนั่งกินหมากอยู่จึงใช้มีดเจียนหมากแทงสวนไป 1 ที ถูกที่ชายโครงข้างขวา ค่อนข้างไปทางด้านหลังลึกทะลุใน ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยบันดาลโทษาจากเหตุถูกข่มเหง: การต่อสู้ป้องกันตัวและสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความบันดาลโทษา
ผู้ตายได้มาร้องด่าท้าทาย พ่อตาจำเลยและจำเลยอยู่ที่ประตูรั้วบ้านด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ แล้วจำเลยกระโจนลงจากเรือนไป เมื่อผู้ตายเข้ามาในบริเวณ บ้านเกิดต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันผู้ตายมีมีดยาวประมาณ 1 ศอกจำเลยมีหอกยาว 140 ซ.ม. ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ ถือว่า จำเลยได้กระทำโดยบันดาลโทษา โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม
จำเลยถูกผู้ตายร้องค่าท้ายทายก่อนถึง 2 ครั้ง ในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้ เป็นเหตุให้ศาลลงโทษาสถานเบา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหง การกระทำเพื่อป้องกันตัวและลดโทษ
ผู้ตายได้มาร้องด่าท้าทายพ่อตาจำเลยและจำเลยอยู่ที่ประตูรั้วบ้านด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่างๆ แล้วจำเลยกระโดดลงจากเรือนไปเมื่อผู้ตายเข้ามาในบริเวณบ้านเกิดต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันผู้ตายมีมีดยาวประมาณ 1 ศอกจำเลยมีหอกยาว 140 ซ.ม.ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ ถือว่า จำเลยได้กระทำโดยบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม
จำเลยถูกผู้ตายร้องด่าท้าทายก่อนถึง 2 ครั้งในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้เป็นเหตุให้ศาลลงโทษสถานเบา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุบันดาลโทสะ ลดหย่อนโทษพยายามฆ่า: ศาลฎีกาใช้ดุลพินิจลดโทษจำเลยที่กระทำผิดด้วยความหึงหวงและถูกข่มเหง
เหตุบันดาลโทษะตามประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ให้อำนาจศาลไว้ว่าจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่ ก.ม.กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุบันดาลโทสะ ลดโทษทางอาญา: ศาลใช้ดุลยพินิจลดโทษจำเลยที่กระทำผิดด้วยความหึงหวงและถูกข่มเหง
เหตุบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ให้อำนาจศาลไว้ว่าจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากโทสะ: การทำร้ายร่างกายด้วยพร้าจากความหึงหวงและการพิจารณาเจตนาของผู้กระทำ
หญิงฟันสามีทางข้างหลังด้วยพร้าใหญ่ถูกที่คอเป็นแผลลึก6 ซ.ม. แต่ฟันเพราะสามีคลอเคลียเมียน้อยต่อหน้าเกิดโทสะจึงคว้าพร้าฟันลงไปทันที เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่พยายามฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยถูกยั่วโทสะจากพฤติการณ์ชู้สาวและชำเรา
เมื่อจำเลยที่ไม่ชอบด้วย ก.ม.เป็นชู้กับผู้ตาย จำเลยมาแอบจับชู้ระหว่างแอบจับชู้ผู้ตายทำชำเรากับเมียน้อยของจำเลยระหว่างกระทำชำเราเสียงสุกรร้องผู้ตายออกมามองเห็นปลอดภัยแล้วก็กลับไปทำชำเราต่อแต่ถูกยิงเสียก่อน พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเข้าลักษณะยั่วโทษะตาม ก.ม.อาญา ม.72 แล้ว
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ ก.ม.อาญา ร.ศ.127 แต่คดีมาสู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้วเช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมาย อาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้องหยิบยกประมวลก.ม.อาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม ม.3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยถูกยั่วยุ: ศาลลดโทษจากความผิดฐานฆ่าเนื่องจากพฤติการณ์ชู้และถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
เมียจำเลยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นชู้กับผู้ตายจำเลยมา แอบจับชู้ระหว่างแอบจับชู้ผู้ตายทำชำเรากับเมียน้อยของ จำเลยระหว่างกระทำชำเราเสียงสุกรร้องผู้ตายออกมามองเห็น ปลอดภัยแล้วก็กลับไปทำชำเราต่อแต่ถูกยิงเสียก่อน พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ถือว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วย เหตุอันไม่เป็นธรรมเข้าลักษณะยั่วโทสะตามกฎหมายอาญามาตรา72 แล้ว
จำเลยกระทำผิดในขณะใช้ กฎหมายอาญา ร.ศ.127 แต่คดีมา สู่ศาลฎีกาเมื่อใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 แล้ว เช่นนี้เมื่อประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 เป็นคุณแก่จำเลยศาลก็ต้อง หยิบยกประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาใช้บังคับแก่จำเลยตาม มาตรา3
of 50