คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ลัดพลีธรรมประคัลภ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 563 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่ใช่กฎหมายอันรู้ถึงประชาชนเสมอไป ต้องได้รับการสนับสนุนจากกฎหมายจึงมีผล
ประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นตามนิตินัยมิใช่ว่าประกาศใดที่ออกในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะต้องถือว่าเป็นกฎหมายอันรู้ถึงประชาชน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ว่าประกาศที่ออกแล้วนั้น จะได้รับการสนับสนุนให้มีผลใช้ได้ในกฎหมายเพียงใด
ประกาศของคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ซึ่งลงในราชกิจจานุเบกษานั้นเป็นประกาศธรรมดาไม่ใช่เป็นกฎหมายอันประชาชนจะพึงปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้น โจทก์ก็จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบก็จะเอาผิดลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษคดีฝิ่นตามราคาและอำนาจรวมโทษ
พ.ร.บ.ฝิ่น (ฉะบับที่ 6) 2481 มาตรา 6 ได้บัญญัติให้ปรับตามราคามูลฝิ่น เมื่อไม่มีราคามูลฝิ่น ก็ต้องปรับตามอัตราคั่นต่ำที่กฎหมายระบุไว้.
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
ความผิดหลายกะทงตาม พ.ร.บ.ฝิ่นนั้น ศาลมีอำนาจให้ปรับรวมกันได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 71.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับตามราคามูลฝิ่นเมื่อไม่มีราคา และการรวมโทษในความผิดหลายกระทง
พระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 6)2481 มาตรา 6 ได้บัญญัติให้ปรับตามราคามูลฝิ่น เมื่อไม่มีราคามูลฝิ่น ก็ต้องปรับตามอัตราขั้นต่ำที่กฎหมายระบุไว้(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)
ความผิดหลายกระทงตามพระราชบัญญัติฝิ่นนั้น ศาลมีอำนาจให้ปรับรวมกันได้ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 71

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ความผิดฟ้องแจ้งความเท็จ/พยานเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนครบถ้วน ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้น ศาลรับฟังไม่ได้.
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตามเมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จ: ฟ้องขาดองค์ความผิด ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้นศาลรับฟังไม่ได้
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตาม เมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการขอจ่ายสินบนนำจับในคดีป้องกันการค้ากำไรเกินควร: ความแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ. 2489 และ พ.ร.บ. 2490
พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 มาตรา 30 ได้บัญญัติถึงการบังคับให้ใช้สินบนนำจับไว้เป็นพิเศษแตกต่างไปจากที่บัญญัติไว้ในมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489
คำขอให้จ่ายค่าสินบนนำจับตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 พนักงานอัยการไม่มีอำนาจจะขอแทนได้ เพราะ พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.2490 ไม่ได้ระบุอำนาจไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหะสถาน: การเข้าถึงตัวทรัพย์สินด้วยมือและเครื่องมือ
จำเลยยื่นมือเข้าไปทางประตู เอาไม้เล็กประมาณ 1 แขนสอยเอากางเกงของเจ้าทรัพย์ ที่ตากไว้ข้างฝาในห้องไป ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 288 หาใช่ตามมาตรา 294 ข้อ 1 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหะสถาน: การ 'เข้าไป' ต้องหมายถึงตัวบุคคล มิใช่ส่วนใดส่วนหนึ่ง
จำเลยยื่นมือเข้าไปทางประตูเอาไม้เล็กประมาณ 1 แขนสอยเอากางเกงของเจ้าทรัพย์ ที่ตากไว้ข้างฝาในห้องไป ดังนี้ จำเลยย่อมมีผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 288 หาใช่ตามมาตรา 294 ข้อ 1 ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทสมัครใจทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 338 (3)
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยต่างสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน ถ้าฝ่ายใดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บ กรณีไม่เข้าบทมาตรา 338 (3) เพราะมิได้กระทำโดยบังอาจ จำเลยจึงยังไม่เป็นผิด
(อ้างฎีกา 697/2489)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทสมัครใจทำร้ายร่างกาย หากไม่ถึงบาดเจ็บ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338(3)
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยต่างสมัครใจวิวาททำร้ายซึ่งกันและกันถ้าฝ่ายใดทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งไม่ถึงบาดเจ็บกรณีไม่เข้าบทมาตรา 338(3) เพราะมิได้กระทำโดยบังอาจ จำเลยจึงยังไม่เป็นผิด
(อ้างฎีกาที่ 697/2489)
of 57