พบผลลัพธ์ทั้งหมด 563 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากคำรับสารภาพในคดีสมคบฆ่าเจ้าพนักงาน ศาลฎีกายืนตามดุลยพินิจศาลล่าง
ศาลล่างพิพากษาประหารชีวิตจำเลย แต่ไม่เพิ่มโทษตามมาตรา 72 เพราะโทษสูงสุดแล้ว คงลดฐานสารภาพ 1 ใน 3 จำคุกจำเลยตลอดชีวิต โจทก์ฎีกาว่าไม่ควรลดฐานรับสารภาพ เพราะจำเลยจำนนต่อพะยาน ดังนี้ ไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงเรื่องเพิ่มโทษ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษทางอาญาเนื่องจากรับสารภาพ: ศาลฎีกาพิพากษายืนตามดุลพินิจศาลชั้นต้น
ศาลล่างพิพากษาประหารชีวิตจำเลย แต่ไม่เพิ่มโทษตามมาตรา 72เพราะโทษสูงสุดแล้ว คงลดฐานสารภาพ 1 ใน 3 จำคุกจำเลยตลอดชีวิตโจทก์ฎีกาว่าไม่ควรลดฐานรับสารภาพเพราะจำเลยจำนนต่อพยาน ดังนี้ ไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาวินิจฉัยถึงเรื่องเพิ่มโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ vs. สิทธิจากนิติกรรมซื้อขาย: การครอบครองที่ดินโดยอาศัย vs. การซื้อขายจริง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าอาศัย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างโจทก์กับผู้โอนตามฟ้องแย้งของจำเลย โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้รับโอนโดยสุจริต ให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นข้อที่ว่า จำเลยอยู่โดยปรปักษ์หรือโดยอาศัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายที่ดิน: ศาลวินิจฉัยสิทธิในที่ดินเมื่อจำเลยอ้างการซื้อขายกับผู้โอนก่อน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย อ้างว่าอาศัย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยได้กรมมสิทธิทางปรปักษ์ ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างโจทก์กับผู้โอนตามฟ้องแย้งของจำเลย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้รับโอนโดนสุจริต ให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นข้อที่ว่า จำเลยอยู่โดยปรปักษ์หรือโดยอาศัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การบอกเลิกสัญญา และสิทธิในการครอบครอง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยอาศัยและได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยไม่ออก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นการเช่า ดังนี้แม้จะได้ความว่า จำเลยได้เช่าจากโจทก์ก็ดี เมื่อเป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกกล่าวล่วงหน้าครบกำหนดตาม ป.พ.พ.มาตรา 566 แล้ว ศาลก็พิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 690/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา สิ้นสุดลงได้ด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยอาศัยและได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยไม่ออก จำเลยต่อสู้ว่า เป็นการเช่า ดังนี้แม้จะได้ความว่า จำเลยได้เช่าจากโจทก์ก็ดีเมื่อเป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกกล่าวล่วงหน้าครบกำหนดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566แล้ว ศาลก็พิพากษาขับไล่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันสินบริคณห์หลังละทิ้งภรรยา: สิทธิในการบอกล้างสัญญาซื้อขายที่ดินสินสมรส
สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้หลังได้ละทิ้งภรรยา ๆ ไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับ เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร+สัญญานี้จึงผูกพันธ์สินบริคนห์ตาม ป.พ.พ.ม.1480 - 1482 สามีจะบอกล้างมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันสินสมรสจากการขายฝากเพื่อเลี้ยงบุตร แม้สามีละทิ้งภรรยา
สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้ ภายหลังได้ละทิ้งภรรยา ภรรยาไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับซื้อฝากเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร ดังนี้ สัญญาขายนี้จึงผูกพันสินบริคณห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480-1482 สามีจะบอกล้างมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยการยกที่ดินและบ้านเรือน แม้ระยะเวลาครอบครอง/ละทิ้งไม่ถึง 10 ปี ก็ถือเป็นการชำระหนี้โดยชอบ
ทำหนังสือกันเองยกที่บ้านและเรือนเพื่อใช้หนี้แก่เขาแล้ว แม้เขาจะได้ครอบครองมาเพียง 5 - 6 ปี หรือตนได้ละทิ้งไปเพียง 5 - 6 ปีก็ดี ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนได้ เพราะได้ยอมให้แก่เขาเป็นการชำระหนี้โดยชอบแล้ว (คำพิพากษาฎีกาที่ 784/2486)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สิน: ยกทรัพย์สินให้แก่เจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้แล้ว ถือเป็นการชำระหนี้โดยชอบ โจทก์หมดสิทธิเรียกคืน
ทำหนังสือกันเองยกที่บ้านและเรือนตีใช้หนี้แก่เขาแล้ว แม้เขาจะได้ครอบครองมาเพียง 5-6 ปี หรือตนได้ละทิ้งไปเพียง 5-6 ปีก็ดีย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเรียกคืนได้ เพราะได้ยอมให้แก่เขาเป็นการชำระหนี้โดยชอบแล้ว (คำพิพากษาฎีกาที่ 784/2486)