พบผลลัพธ์ทั้งหมด 563 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนกันและการเรียกร้องสิทธิในที่ดินที่ถูกยึดถือเพื่อเป็นหลักประกัน
บิดากู้เงินผู้อื่นมาแล้วมอบที่นาไว้ให้เขายึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยภายหลังบิดาตาย น้าจึงไปชำระเงินกู้และไถ่ถอนที่นาคืนมาจากเจ้าหนี้แทนบุตรดังนี้ บุตรมีอำนาจฟ้องน้า ขอให้รับชำระหนี้เงินกู้และคืนนาให้แก่บุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้แทนบุตรและการขอคืนทรัพย์สินที่ถูกยึด ผู้รับชำระหนี้มีหน้าที่คืนทรัพย์สินให้บุตร
บิดากู้เงินผู้อื่นมาแล้วมอบที่นาไว้ให้เขายึดถือ ทำกินต่างดอกเบี้ย ภายหลังบิดาตาย น้าจึงไปชำระเงินกู้และไถ่ถอนที่นาคืนมาจากเจ้าหนี้แทนบุตร์ ดังนี้ บุตรมีอำนาจฟ้องน้า ขอให้รับชำระหนี้เงินกู้ และคืนนาให้แก่บุตรได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506-507/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวผ่านเขตห้ามกักกัน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 บัญญัติห้ามฉะเพาะการขนย้ายข้าวออก ซึ่งต้องเป็นที่เข้าใจว่า ขนข้าวที่อยู่ในเขตต์กักกันออกไป หาได้บัญญัติห้ามถึงการขนผ่านไม่
จำเลยขนย้ายข้าวจากจังหวัดนอกเขตต์กักกันข้าว พาผ่านจังหวัดซึ่งเป็นเขตต์กักกันข้าว เพื่อจะนำไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ยังไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489
จำเลยขนย้ายข้าวจากจังหวัดนอกเขตต์กักกันข้าว พาผ่านจังหวัดซึ่งเป็นเขตต์กักกันข้าว เพื่อจะนำไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ยังไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506-507/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวผ่านเขตกักกันไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489
พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.2489 บัญญัติห้ามเฉพาะการขนย้ายข้าวออก ซึ่งต้องเป็นที่เข้าใจว่า ขนข้าวที่อยู่ในเขตกักกันออกไป หาได้บัญญัติห้ามถึงการขนผ่านไม่
จำเลยขนย้ายข้าวจากจังหวัดนอกเขตกักกันข้าว พาผ่านจังหวัดซึ่งเป็นเขตกักกันข้าว เพื่อจะนำไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489
จำเลยขนย้ายข้าวจากจังหวัดนอกเขตกักกันข้าว พาผ่านจังหวัดซึ่งเป็นเขตกักกันข้าว เพื่อจะนำไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ยังไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนสิทธิเช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่ได้ - ผู้ให้เช่าเดิมรวมถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ให้เช่าเดิมนั้นหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากเจ้าของผู้ให้เช่าเดิมด้วย (อ้างฎีกาที่ 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 496/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนกรรมสิทธิมีสิทธิเป็นผู้ให้เช่าเดิมได้
ผู้ให้เช่าเดิมนั้นหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิมาจากเจ้าของผู้ให้เช่าเดิมด้วย (อ้างฎีกาที่ 845/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิครอบครองที่ดินโดยการทำสัญญาตีใช้หนี้ ทำให้ไม่มีสิทธิเรียกคืน
กู้เงินเขาไปแล้วมอบที่มือเปล่าเอาทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาได้ทำสัญญาเอาที่นั้นตีใช้หนี้แก่เขา เป็นการแสดงว่าได้สละสิทธิครอบครองในที่นั้นให้แก่เขาแล้ว ไม่มีสิทธิจะมาเรียกคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละสิทธิครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: สัญญาตีใช้หนี้ทำให้สิทธิในที่ดินสิ้นสุด
กู้เงินเขาไปแล้วมอบที่มือเปล่าให้เขาทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาได้ทำสัญญาเอาที่นั้นตีใช้หนี้แก่เขาดังนี้เป็นการแสดงว่าได้สละสิทธิครอบครองในที่นั้นให้แก่เขาแล้ว ไม่มีสิทธิจะมาเรียกคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษในคดีวิวาท: จำเลยต้องลงมือทำร้ายร่างกายผู้ใดโดยเฉพาะ จึงจะลงโทษฐานทำร้ายร่างกายได้
ในกรณีวิวาทศาลจะลงโทษฐานทำร้ายร่างกายก็ต่อเมื่อได้ความชัดว่า จำเลยคนนั้นได้ลงมือทำร้ายคนไหนโดยฉะเพาะ ส่วนคนที่ร่วมมือในการวิวาทมีผิดเพียงฐานวิวาทเท่านั้น
โจทก์ฟ้องบรรยายในเบื้องต้นกล่าวไว้ชัดว่า เป็นเรื่องวิวาท ซึ่งต่างสมัคร์ใจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน แล้วไขความต่อไปว่า จำเลยสมคบกับพวก (ระบุชื่อ) ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บ บางคน ขอให้ลงโทษตาม ม.254 ดังนี้ เป็นข้อความที่ขัดกับความที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่า เป็นกรณีวิวาท แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษตาม ม.254 ไม่ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายในเบื้องต้นกล่าวไว้ชัดว่า เป็นเรื่องวิวาท ซึ่งต่างสมัคร์ใจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน แล้วไขความต่อไปว่า จำเลยสมคบกับพวก (ระบุชื่อ) ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บ บางคน ขอให้ลงโทษตาม ม.254 ดังนี้ เป็นข้อความที่ขัดกับความที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่า เป็นกรณีวิวาท แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษตาม ม.254 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษในคดีวิวาท: จำเลยต้องลงมือทำร้ายร่างกายผู้ใดโดยเฉพาะ จึงจะลงโทษฐานทำร้ายร่างกายได้
ในกรณีวิวาทศาลจะลงโทษฐานทำร้ายร่างกายก็ต่อเมื่อได้ความชัดว่า จำเลยคนนั้นได้ลงมือทำร้ายคนไหนโดยเฉพาะส่วนคนที่ร่วมมือในการวิวาทมีผิดเพียงฐานวิวาทเท่านั้น
โจทก์ฟ้องบรรยายในเบื้องต้นกล่าวไว้ชัดว่า เป็นเรื่องวิวาท ซึ่งต่างสมัครใจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันแล้วไขความต่อไปว่า จำเลยสมคบกับพวก(ระบุชื่อ) ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บ บางคน ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 254
ดังนี้ เป็นข้อความที่ขัดกับความที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่าเป็นกรณีวิวาทแม้จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษตามมาตรา 254ไม่ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายในเบื้องต้นกล่าวไว้ชัดว่า เป็นเรื่องวิวาท ซึ่งต่างสมัครใจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันแล้วไขความต่อไปว่า จำเลยสมคบกับพวก(ระบุชื่อ) ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บ บางคน ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 254
ดังนี้ เป็นข้อความที่ขัดกับความที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่าเป็นกรณีวิวาทแม้จำเลยรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษตามมาตรา 254ไม่ได้