พบผลลัพธ์ทั้งหมด 563 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงที่ขัดต่อสัญญาเช่าเดิม: สิทธิของผู้ให้เช่า
สัญญาเช่ามีข้อความระบุไว้ชัดว่า ผู้เช่าจะไม่เอาสถานที่เช่าไปให้เช่าช่วงเป็นอันขาดเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร ฉะนั้น เมื่อผู้เช่าเอาสถานที่ไปให้เช่าช่วงโดยไม่ได้รับคำอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่าช่วงจะอ้างการเช่าระหว่างตนกับผู้เช่ามายันผู้ให้เช่าไม่ได้ และต้องถือว่าผู้เช่าช่วงเป็นผู้เข้าอยู่โดยละเมิดสิทธิของผู้ให้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อใช้ประกอบธุรกิจซักรีด ไม่ถือเป็น 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เช่าตึกเพื่อใช้เป็นสถานที่รับจ้างซักรีดผ้า ติดป้ายโฆษณาและตั้งตู้แสดงกิจการซักรีดตำบลซึ่งตึกเช่าตั้งอยู่ ก็อยู่ในทำเลการค้าวัตถุประสงค์แห่งการเช่า ไม่ปรากฏว่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ดังนี้ จะถือว่าตึกเช่านั้นเป็น 'เคหะ' ตามความหมายของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2490 มาตรา 3 ไม่ได้ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 16
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าตึกเพื่อประกอบกิจการซักรีด ไม่ถือเป็น 'เคหะ' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า จึงไม่ได้รับความคุ้มครอง
เช่าตึกเพื่อใช้เป็นสถานที่รับจ้างซักรีดผ้า ติดป้ายโฆษณาและตั้งตู้แสดงกิจการซักรีด ตำบล ซึ่งตึกเช่าตั้งอยู่ ก็อยู่ในทำเลการค้า วัตถุประสงค์แห่งการเช่า ไม่ปรากฎว่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ดังนี้ จะถือว่าตึกเช่านั้นเป็น "เคหะ" ตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ(ฉะบับที่ 2) พ.ศ.2490 มาตรา 3 ไม่ได้ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 16
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และการฟ้องแย้งขอโอนสิทธิเช่า/ค่าเสียหาย ศาลแขวงไม่มีอำนาจบังคับบัญชา
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่โจทก์เช่ามา จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์โอนการเช่าห้องรายพิพาทให้จำเลยถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้เงิน 3000 บาท เรื่องขอโอนการเช่านั้น เมื่อไม่ปรากฏในฟ้องแย้งว่า ผู้ให้เช่าได้ยินยอมด้วย ก็ไม่มีทางบังคับได้ส่วนทุนทรัพย์ 3000 บาทก็เกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้บังคับบัญชา ศาลแขวงย่อมสั่งไม่รับฟ้องแย้งดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย้งขอโอนสิทธิการเช่าและการเรียกร้องค่าเสียหายต้องได้รับความยินยอมจากคู่สัญญาและอยู่ในอำนาจศาล
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าที่โจทก์เช่ามา จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์โอนการเช่าห้องรายพิพาทให้จำเลย ถ้าโอนไม่ได้ให้ใช้เงิน 3000 บาท เรื่องขอโอนการเช่านั้น เมื่อไม่ปรากฎในฟ้องแย้งว่า ผู้ให้เช่าได้ยินยอมด้วย ก็ไม่มีทางบังคับได้ ส่วนทุนทรัพย์ 3000 บาท ก็เกินอำนาจศาลแขวงที่จะรับไว้บังคับบัญชา ศาลแขวงย่อมสั่งไม่รับฟ้องแย้งดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากยังไม่สิ้นสุด แม้มีการขายยางบางส่วน สิทธิและหน้าที่ตามสัญญาคงอยู่
ทำสัญญาฝากยางกันไว้จำนวนหนึ่ง ภายหลังผู้ฝากขายยางที่ฝากให้แก่ผู้ซื้อไปส่วนหนึ่ง โดยให้ผู้ซื้อไปรับยางจากผู้รับฝาก ดังนี้ ย่อมถือว่าสัญญาฝากยางสำหรับยางจำนวนที่ยังคงเหลืออยู่ที่ผู้รับฝากยังหาได้สิ้นหรือเลิกกันไม่ เพราะยังไม่มีการแสดงเจตนาเลิกสัญญาแต่ประการใด สัญญายังคงผูกพันกันอยู่ จึงยังไม่เริ่มอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาฝากยังไม่สิ้นสุด อายุความยังไม่เริ่ม คดีไม่ขาดอายุความ
ทำสัญญาฝากยางกันไว้จำนวนหนึ่ง ภายหลังผู้ฝากขายยางที่ฝากให้แก่ผู้ซื้อไปส่วนหนึ่ว โดยให้ผู้ซื้อไปรับยางจากผู้รับฝาก ดังนี้ ย่อมถือว่าสัญญาฝากยางสำหรับยางจำนวนที่ยังคงเหลืออยู่ที่ผู้รับฝาก ยังหาได้สิ้นหรือเลิกกันไม่ เพราะยังไม่มีการแสดงเจตนาเลิกสัญญาแต่ประการใด สัญญายังคงผูกพันกันอยู่ จึงไม่เริ่มอายุความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 671.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดที่ดินหลังทำยอมโอนกรรมสิทธิ์แต่ยังไม่ได้โอนจริง เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
จำเลยทำยอมต่อศาล ยอมโอนที่ดินแปลงหนึ่งของจำเลยให้ผู้ร้องภายใน 7 วัน นับแต่วันทำยอมในระหว่างนั้น โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงิน ตามสัญญากู้ จำเลยก็ทำยอมใช้เงินแก่โจทก์แล้วไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานที่ดินที่จำเลยทำยอมแก่ผู้ร้องดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องจึงมาขัดทรัพย์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่า ขณะนำยึด จำเลยยังไม่ได้ทำการโอนกรรมสิทธิในที่พิพาทจึงยังเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะยึดที่ดินรายนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดต่อค่าเสียหายจากการใช้งานช้างเกินสมควรจนตาย และอำนาจฟ้องของเจ้าของช้าง
ในการขายฝากช้างกันนั้น ถ้าผู้ซื้อฝากใช้ช้างให้ทำการงานเกินสมควร แม้ช้างเจ็บป่วยก็ไม่ให้หยุดพักรักษาช้างสมบูรณ์ดีเสียก่อน กลับใช้งานจนช้างตาย ดังนี้ ผู้ซื้อฝากต้องรบผิดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ขายฝากตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 501.
โจทก์ที่ 1 ซื้อช้างจากโจทก์ที่ 2 ชำระราคาช้าง และส่งมอบช้างกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมิได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ต่อมาโจทก์ที่ 1 เอาช้างนั้นไปขายฝากไว้แก่จำเลย แต่ให้โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยในการทำสัญญาขายฝากที่อำเภอ เพราะยังมีชื่อโจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของในตั๋วพิมพ์รูปพรรณอยุ่ ดังนี้ ภายหลังจำเลยทำช้างตายโดยความผิดของจำเลย โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ย่อมมีอำนาจมาเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องอำนาจเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของช้างที่แท้จริง ได้
โจทก์ที่ 1 ซื้อช้างจากโจทก์ที่ 2 ชำระราคาช้าง และส่งมอบช้างกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมิได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ต่อมาโจทก์ที่ 1 เอาช้างนั้นไปขายฝากไว้แก่จำเลย แต่ให้โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยในการทำสัญญาขายฝากที่อำเภอ เพราะยังมีชื่อโจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของในตั๋วพิมพ์รูปพรรณอยุ่ ดังนี้ ภายหลังจำเลยทำช้างตายโดยความผิดของจำเลย โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ย่อมมีอำนาจมาเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องอำนาจเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของช้างที่แท้จริง ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในสัญญาขายฝาก: ช้างตายจากการใช้งานเกินสมควร
ในการขายฝากช้างกันนั้นถ้าผู้ซื้อฝากใช้ช้างให้ทำการงานเกินสมควรแม้ช้างเจ็บป่วยก็ไม่ให้หยุดพักรักษาให้ช้างสมบูรณ์ดีเสียก่อน กลับใช้งานจนช้างตายดังนี้ผู้ซื้อฝากต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ขายฝากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 501
โจทก์ที่ 1 ซื้อช้างจากโจทก์ที่2 ชำระราคาช้างและส่งมอบช้างกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมิได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ต่อมาโจทก์ที่ 1เอาช้างนั้นไปขายฝากไว้แก่จำเลย แต่ให้โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยในการทำสัญญาขายฝากที่อำเภอ เพราะยังมีชื่อโจทก์ที่2 เป็นเจ้าของในตั๋วพิมพ์รูปพรรณอยู่ ดังนี้ ภายหลังจำเลยทำช้างตายโดยความผิดของจำเลย โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ย่อมมีอำนาจมาเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของช้างที่แท้จริงได้
โจทก์ที่ 1 ซื้อช้างจากโจทก์ที่2 ชำระราคาช้างและส่งมอบช้างกันเสร็จเด็ดขาดแล้ว แต่ยังมิได้โอนตั๋วพิมพ์รูปพรรณ ต่อมาโจทก์ที่ 1เอาช้างนั้นไปขายฝากไว้แก่จำเลย แต่ให้โจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยในการทำสัญญาขายฝากที่อำเภอ เพราะยังมีชื่อโจทก์ที่2 เป็นเจ้าของในตั๋วพิมพ์รูปพรรณอยู่ ดังนี้ ภายหลังจำเลยทำช้างตายโดยความผิดของจำเลย โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ย่อมมีอำนาจมาเป็นโจทก์ร่วมกัน ฟ้องจำเลยให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของช้างที่แท้จริงได้