คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนที่ดินขายฝากเกินกำหนด สิทธิของผู้รับซื้อและผลของการผัดผ่อน
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กำหนดไถ่ถอนภายใน 5 ปี เมื่อจวนครบกำหนดเคยไปขอไถ่ถอนแก่ผู้รับซื้อไว้ 2 ครั้ง แต่ผู้รับซื้อขอผัดไปวันหลัง ผู้ขายก็ยินยอมจนเกินกำหนด 5 ปีแล้ว ผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมให้ไถ่ถอนได้ เพราะผู้ชายละเลยไม่ใช่สิทธิของตนภายในกำหนดสัญญาเอง จะอ้างว่าผู้รับซื้อฝากใช้สิทธิ์ไม่สุจจริต เพื่อชนะคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนที่ดินขายฝาก: ผู้ขายละเลยสิทธิในกำหนดสัญญา ผู้ซื้อมีสิทธิปฏิเสธได้
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกำหนดไถ่ถอนภายใน 5 ปีเมื่อจวนครบกำหนดเคยไปขอไถ่ถอนแก่ผู้รับซื้อไว้ 2 ครั้ง แต่ผู้รับซื้อขอผัดไปวันหลัง ผู้ขายก็ยินยอมจนเกินกำหนด 5 ปีแล้ว ผู้ซื้อก็ย่อมมีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมให้ไถ่ถอนได้ เพราะผู้ขายละเลยไม่ใช่สิทธิของตนภายในกำหนดสัญญาเอง จะอ้างว่าผู้รับซื้อฝากใช้สิทธิ์ไม่สุจริตเพื่อชนะคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินนอกหน้าที่ (แป๊ะเจี๊ยะ) ถือเป็นความผิดอาญา
เจ้าพนักงานวิสามัญสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่มีหน้าที่เรียกเก็บค่าเช่า ไม่มีหน้าที่เรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะนั้น ถ้าไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะย่อมได้ชื่อว่า เรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควร จะเก็บและมิได้นำส่งต่อรัฐบาลก็เป็นผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 135

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินนอกหน้าที่ – ความผิดตามมาตรา 135 อาญา
เจ้าพนักงานวิสามัญสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่มีหน้าที่เรียกเก็บค่าเช่า ไม่มีหน้าที่เรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะนั้นถ้าไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะย่อมได้ชื่อว่าเรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควรจะเก็บและมิได้นำส่งต่อรัฐบาลก็เป็นผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 135

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าพื้นที่เพื่อใช้เป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยของพนักงาน ถือเป็นเคหะภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
บริษัทจำกัดเช่าสถานที่เป็นสาขาสำนักงานของบริษัทและสำหรับเสมียนพนักงานของบริษัทอยู่อาศัย เวลาเช่ากันนั้นรู้กันอยู่ว่าจะใช้เป็นที่อาศัยดังนี้สถานที่เช่านั้นย่อมเป็นเคหะตามความใน พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 178/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานที่เช่าใช้เป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยเข้าข่ายเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
บริษัทจำกัดเช่าสถานที่เป็นสาขาสำนักงานของบริษัท แลสำหรับเสมียนพนักงานของบริษัทอยู่อาศัย เวลาเช่ากันนั้นรู้กันอยู่ว่า จะใช้เป็นที่อาศัย ดังนี้ สถานที่เช่านั้นย่อมเป็นเคหะตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ซ้ำและการสิ้นสุดสิทธิอุทธรณ์ เมื่อศาลพิพากษาใหม่หลังยกคำพิพากษาเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย โดยมิได้ชี้ขาดความผิดของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่โดยให้ชี้ขาดความผิดของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ถ้าคู่ความประสงค์จะอุทธรณ์ ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นมาใหม่ จะอาศัยอุทธรณ์ฉบับเดิมไม่ได้ เพราะอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาครั้งแรกของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ซ้ำ: อุทธรณ์ฉบับเดิมหมดอายุเมื่อศาลพิพากษาใหม่ ต้องยื่นอุทธรณ์ใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยมิได้ชี้ขาดความผิดของจำเลยจำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่โดยให้ชี้ขาดความผิดของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่แล้ว ถ้าคู่ความประสงค์จะอุทธรณ์ก็ต้องอุทธรณ์ขึ้นมาใหม่ จะอาศัยอุทธรณ์ฉบับเดิมไม่ได้ เพราะอุทธรณ์ฉบับเดิมเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาครั้งแรกของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาสัญญากู้ vs. ขายพร้อมซื้อคืน หากไม่ใช้สิทธิภายในกำหนด ย่อมเสียสิทธิเรียกร้อง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขายมีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปี ดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบเพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง การครอบครองสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขไถ่คืน หากไม่ไถ่ตามกำหนด กรรมสิทธิ์จะสิ้นสุดลง
หนังสือสัญญามีข้อความอ่านตามแบบพิมพ์เป็นสัญญากู้เงิน ถ้าอ่านตามตัวเขียนเป็นสัญญาซื้อขาย มีกำหนดให้ไถ่ภายใน 1 ปีดังนี้ คู่ความฝ่ายที่อ้างว่าเป็นสัญญาซื้อขายย่อมมีสิทธินำพยานมาสืบประกอบ เพื่อให้เห็นว่าคู่สัญญามีเจตนาเป็นการขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้
ขายที่นามือเปล่าไม่มีหนังสือสำคัญให้เขาโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อคืนได้ภายใน 1 ปี เมื่อมิได้ซื้อคืนตามกำหนด 1 ปี เพิ่งจะมาขอคืนเมื่อเกิน 4 ปีแล้ว ถือว่ามีเจตนาสละการครอบครอง ๆ ย่อมสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 ไม่มีสิทธิจะขอคืนได้
of 219