พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อทรัพย์สินจากผู้กระทำผิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ถือเป็น 'ของได้มาโดยการกระทำผิด' ตามกฎหมาย
ของที่ได้มาโดยการกระทำอันเป็นความผิดโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานนั้นไม่ใช่เป็นของอันได้มาโดยกระทำผิดตามความหมายมาตราแห่งมาตรา 321 ผู้รับของเช่นนั้น จึงไม่มีผิดฐานรับของโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของที่ได้มาจากการกระทำผิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ถือเป็นของโจร
ของที่ได้มาโดยการกระทำอันเป็นความผิดโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานนั้น ไม่ใช่เป็นของอันได้มาโดยการกระทำผิดตามความหมายแห่งมาตรา 321 ผู้รับของเช่นนั้น จึงไม่มีผิดฐานรับของโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมมีข้อความแสดงเจตนาทำพินัยกรรมลับ แต่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรา 1660 ไม่ถือเป็นพินัยกรรมลับสมบูรณ์
พินัยกรรมมีพยานลงชื่อครบถ้วน เป็นแต่มีข้อความว่าขอแสดงเจตนาทำพินัยกรรมลับต่อหน้าพยานและมิได้ปฏิบัติอย่างอื่นตามมาตรา 1660 นั้น ไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรมลับคงสมบูรณ์ในฐานะเป็นพินัยกรรมธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมที่ระบุความลับต่อพยาน ไม่ถือเป็นพินัยกรรมลับตามกฎหมาย แต่เป็นพินัยกรรมธรรมดาที่สมบูรณ์
พินัยกรรม์มีพะยานลงชื่อครบถ้วน เป็นแต่มีข้อความว่าขอแสดงเจตนาทำพินัยกรรม์ลับต่อหน้าพะยานและมิได้ปฏิบัติอย่างอื่น ตาม ม. 1660 นั้น ไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรม์ลับ คงสมบูรณ์ในฐานะเป็นพินัยกรรม์ธรรมดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ในการยึดสินบริคณีของคู่สมรสที่ล้มละลาย แม้หนี้เกิดก่อนบังคับใช้ ป.ม.แพ่ง
เมื่อภริยาต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีสิทธิจะยึดสินบริคนห์มาแบ่งแยกส่วนของผู้ล้มละลายได้
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันธ์หญิงตาม ป.ม.แพ่งฯ ม. 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปี แล้วก็ไม่มีเหตุทีจะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคนห์ตาม ป.ม.แพ่งฯ ม.1484 ได้ ไม่ขัดกับบท ก.ม.เก่าหรือใหม่อย่างใด
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันธ์หญิงตาม ป.ม.แพ่งฯ ม. 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปี แล้วก็ไม่มีเหตุทีจะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคนห์ตาม ป.ม.แพ่งฯ ม.1484 ได้ ไม่ขัดกับบท ก.ม.เก่าหรือใหม่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 635/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดสินบริคณห์เมื่อภริยาล้มละลาย แม้หนี้เกิดก่อนบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อภริยาต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีสิทธิจะยึดสินบริคณห์มาแบ่งแยกส่วนของผู้ล้มละลายได้
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันหญิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปีแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484 ได้ ไม่ขัดกับบทกฎหมายเก่าหรือใหม่อย่างใด
หญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ได้ทำขึ้นจึงผูกพันหญิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 37
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว หนี้ที่ฟ้องล้มละลายจะเกิน 10 ปีแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะถือว่าคำพิพากษาไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด
แม้จะเป็นหนี้เกิดก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 ก็ดี ก็แบ่งแยกสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484 ได้ ไม่ขัดกับบทกฎหมายเก่าหรือใหม่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกสินบริคณห์ในคดีล้มละลาย: สิทธิของคู่สมรสที่ไม่เป็นหนี้ร่วม
ภรรยาต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย สามีไม่มีสิทธิฟ้อง ขอให้เพิกถอนคำพิพากษานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สามีไม่มีสิทธิฟ้องเพิกถอนคำพิพากษาล้มละลายของภรรยา แม้เกี่ยวข้องกับสินสมรส
ภรรยาต้องคำพิพากษาล้มละลาย สามีไม่มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนคำพิพากษานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสุเหร่า: สิทธิฟ้องต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น
สิทธิที่จะดำเนินคดีทางศาลได้นั้น มีได้เฉพาะแต่บุคคล
เมื่อไม่ปรากฏว่าสุเหร่าของพวกอิสลามเป็นนิติบุคคลแล้วก็ย่อมมอบให้ผู้ใดฟ้องความแทนไม่ได้
เจ้าของที่ดินตั้งตัวแทนฟ้องขับไล่ โดยอ้างในฟ้องว่าได้อุทิศที่ให้สุเหร่าแล้วนั้น จะชี้ขาดว่าเจ้าของที่ไม่มีอำนาจฟ้องในชั้นนี้ไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฏว่าสุเหร่าของพวกอิสลามเป็นนิติบุคคลแล้วก็ย่อมมอบให้ผู้ใดฟ้องความแทนไม่ได้
เจ้าของที่ดินตั้งตัวแทนฟ้องขับไล่ โดยอ้างในฟ้องว่าได้อุทิศที่ให้สุเหร่าแล้วนั้น จะชี้ขาดว่าเจ้าของที่ไม่มีอำนาจฟ้องในชั้นนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 624/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของสุเหร่า: ต้องเป็นนิติบุคคลจึงจะฟ้องได้
สิทธิที่จะดำเนินคดีทางศาลได้นั้นมีได้ฉะเพาะแต่บุคคล
เมื่อไม่ปรากฎว่าสุเหร่าของพวกอิสลามเป็นนิติบุคคลแล้ว ก็ย่อมมอบให้ผู้ใดฟ้องความแทนไม่ได้
เจ้าของที่ดินตั้งตัวแทนฟ้องขับไล่ โดยอ้างในฟ้องว่าได้อุทิศให้สุเหร่าแล้วนั้นจะชี้ขาดว่าเจ้าของไม่มีอำนาจฟ้องในชั้นนี้ไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฎว่าสุเหร่าของพวกอิสลามเป็นนิติบุคคลแล้ว ก็ย่อมมอบให้ผู้ใดฟ้องความแทนไม่ได้
เจ้าของที่ดินตั้งตัวแทนฟ้องขับไล่ โดยอ้างในฟ้องว่าได้อุทิศให้สุเหร่าแล้วนั้นจะชี้ขาดว่าเจ้าของไม่มีอำนาจฟ้องในชั้นนี้ไม่ได้