คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ แม้เจตนาจะเข้าเป็นสัญญาจะซื้อจะขายก็ไม่ได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมเป็นโมฆะ
เมื่อไม่มีเหตุให้สันนิษฐานว่าคู่สัญญายังมีเจตน์จำนงว่าถ้าสัญญาซื้อขายนี้ไม่สมบูรณ์ ก็คงจะได้ตั้งใจให้สมบูรณ์เข้าแบบเป็นนิติกรรรมอย่างอื่นแล้ว ก็ไม่มีผลบังคับเป็นสัญญาจะซื้ขายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สั่งนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย แม้ทำในฐานะตัวแทนบริษัท
สินค้าที่สั่งให้ส่งมาจากต่างประเทศ จนถึงด่านศุลกากรแล้วถือได้ว่า ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
จำเลยเป็นผู้สั่งให้ส่งสินค้าของกลางเข้ามาในฐานะกรรมการผู้จัดการของบริษัทนิติบุคคลจำเลยจึงเป็นผู้กระทำการ ซึ่งเป็นความผิด จะอ้างว่าทำในฐานะผู้แทนนุติบุคคล เป็นข้อแก้ตัวให้พ้นผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักล้างเอกสารด้วยการปฏิเสธตามคำให้การ การเบิกความว่าเซ็นเอกสารโดยไม่ทราบข้อความถือเป็นการสืบปฏิเสธ
คดีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ โจทก์อ้างเอกสารว่าจำเลยมอบกรรมสิทธิทรัพย์ที่พิพาทให้โจทก์ จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีกรรมสิทธิและเบิกความว่าได้เซ็นเอกสารนั้น โดยไม่ทราบข้อความ เช่นนี้เท่ากับสืบปฏิเสธดังที่ให้การไว้ จึงสืบหักล้างเอกสารนั้นได้ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าเสียหายจากละเมิด: ผู้กระทำผิด vs. ผู้ร่วมรับผิด
การเรียกร้องค่าเสียหายในฐานละเมิด ในมูลอันเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ให้นับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 448 วรรค 2 นั้น หมายความเฉพาะการเรียกร้องจากตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมในการกระทำผิดโดยเฉพาะ มิได้หมายความถึงผู้อื่นที่มิได้มีส่วนร่วม ในการกระทำผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจัดหาผู้เช่าที่ดินหลวงที่เป็นโมฆะ: การใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือขัดต่อความสงบเรียบร้อย
รับเป็นนายหน้าจัดให้เขาได้เช่าที่ดินของทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยวิ่งเต้นให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้ขอเช่า ดังนี้ ย่อมเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฉะนั้นความตกลงทั้งหลายในกรณีเช่นนี้ จึงเป็นโมฆะกรรม ใช้บังคับไม่ได้ จึงฟ้องเรียกค่านายหน้าจากผู้เช่า ไม่ได้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่ดิน: หน้าที่ของผู้ให้เช่าในการส่งมอบการครอบครองที่ดินให้ผู้เช่าอย่างสงบสุข
เช่าสวนเช่านากันแล้ว ผู้ให้เช่าไปชี้เขตที่เช่าให้แก่ผู้เช่า แต่ปรากฎว่าผู้เช่าเข้าไปครอบครองไม่ได้ เพราะบุตรของผู้เช่าคนเดิมยังปลูกเรือนอยู่ในที่เช่า และยังแย่งทำนาเสียด้วย ดังนี้ ถือว่าผู้ให้เช่าไม่อาจมอบที่เช่าให้ผู้เช่าได้ จึงกต้องคืนค่าเช่าและใช่ค่าเสียหายให้แก่ผู้เช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกและการครอบครองปรปักษ์: ศาลวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงและสิทธิที่ปรากฏในชั้นพิจารณา
โจทย์ฟ้องว่า นาพิพาทมารดายกให้ และโจทก์ได้ครอบครองโดยปรปักษ์มากว่า 10 ปีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า นาพิพาทตกเป็นมรดกได้แก่โจทก์จำเลย และโจทก์มิได้ ได้สิทธิในทางครอบครองปรปักษ์ ดังนี้ศาลย่อมวินิจฉัยให้แบ่งกันได้ตามส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 250/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายและการโอนสิทธิในที่ดิน: สิทธิเรียกร้องเมื่อสัญญาไม่สมบูรณ์และการจัดการผลประโยชน์
เดิมบิดาและมารดาทำสัญญาประนีประนอมยกที่ดินที่ปกครองรวมกัน ให้แก่บุตรชาย บุตรหญิงรวม 2 คนๆละ 1 ส่วนเท่าๆกัน แต่บุตรจะเข้าครอบครองได้ต่อเมื่อบิดามารดาตายหมดแล้วทั้งสองคน ครั้นบิดาตายไปก่อนคนเดียว มารดาจึงทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นแก่ผู้อื่น บุตรชายจึงฟ้องมารดา ในที่สุดศาลพิพากษาบังคับมารดาไม่ให้ขายที่พิพาทนั้น มารดาจึงบอกเลิกข้อผูกพันกับผู้ซื้อ และห้ามมิให้ผู้ซื้อเก็บผลประโยชน์ในที่ดินพิพาทอีกต่อไป ดังนี้ ผู้ซื้อจะมาฟ้องมารดาให้โอนที่ดินส่วนของบุตรหญิงให้ผู้ซื้อตามสัญญาเดิมนั้น ย่อมไม่ได้ และจะเรียกค่าเสียหายในฐานที่ถูกมารดาห้ามไม่ให้เก็บผลประโยชน์ในที่พิพาทต่อไปก็ไม่ได้
และสำหรับมารดาก็จะฟ้องเรียกค่าผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อได้จากที่ดินนั้นคืน ก็ไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะมารดาได้มอบที่ดินให้เขาเก็บผลประโยชน์เอาตามสัญญาจะซื้อขาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 209/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีหย่าขาดเมื่อจำเลยถึงแก่กรรมระหว่างการพิจารณาคดี
ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากสามีภริยากัน จำเลยฎีกาแต่ในระหว่างฎีกานั้น จำเลยถึงแก่กรรมลง ดังนี้ ศาลฎีกาก็มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 132 ( 3 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 202/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวผิดกฎหมาย: การรับทราบประกาศคณะกรรมการฯ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิสูจน์ความผิด
โจทย์ฟ้องหาว่า จำเลยขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าว โดยไม่ได้รับอนุญาต และได้บรรยายในฟ้องว่า จำเลยได้ทราบประกาศคณะกรรมการฯ แล้ว จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องทราบประกาศคณะกรรมการหรือไม่ คงปฏิเสธว่ามิได้นำข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายข้าว ดังนี้ เมื่อชั้นพิจารณาโจทก์ มีพยานผู้สอบสวนมาเบิกความประกอบคำให้การจำเลยชั้นสอบสวนว่า จำเลยรับว่าได้ทราบประกาศแล้ว ดังปรากฎในคำให้การชั้นสอบสวน จึงพอถือได้ว่า โจทก์ได้สืบถึงความที่ว่า จำเลยได้ทราบประกาศนั้นแล้ว
of 219