คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับรางวัลจับกุมข้าวสารลักลอบออกนอกประเทศ: ข้าวสารต้องเป็นของที่นำออกนอกประเทศแล้ว
กรมตำรวจประกาศให้รางวัลแก่ผู้นำจับหรือตำรวจผู้จับผู้ลักลอกนำข้าวสารออกนอกประเทศ เมื่อปรากฎว่าข้าวสารที่จับ เป็นข้าวสารที่เจ้าของนำมาจากอินโดจีนจะไปสิงคโปร์แต่ถูกลมพายุ จึงหลบเข้ามาในอาณาจักรประเทศไทยนั้น ผู้จับย่อมไม่มีสิทธิที่จะได้รับรางวัลตามคำประกาศของกรมตำรวจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดลอกหนังสือผู้อื่นเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จะมีข้อมูลที่มา
คัดลอกหนังสือที่ผู้อื่นประพันธ์ขึ้นออกจำหน่ายโดยมิได้รับความยินยอมหรือรับอนุญาตจากเจ้าของแล้ว แม้จะมีคำนำเขียนไว้ในหนังสือถึงที่มาของหนังสือนั้นก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมมาตรา 11 และ 20
กระทรวงศึกษาธิการให้หัวหน้าแผนกหลักสูตรและแบบเรียน กรมสามัญศึกษาเรียบเรียงประมวลการสอนชั้นประถมศึกษาขึ้น เมื่อเรียบเรียงแล้ว ได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ฯ รัฐมนตรีอนุมัติให้ใช้เพื่อโรงเรียนต่าง ๆ ใช้เป็นแนวสำหรับทำการสอนดังนี้ประมวลการสอนดังกล่าวย่อมเป็นลิขสิทธิตามกฎหมายเพราะเป็นหนังสือวรรณกรรมที่มีเจ้าของคิดเรียบเรียงขึ้นผู้ใดคัดลอกจัดพิมพ์ออกจำหน่ายโดยมิได้รับความยินยอมหรือรับอนุญาตจากเจ้าของแล้ว ย่อมมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ลดค่าปรับสัญญาประกัน แม้ชำระค่าปรับแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจลดหย่อนได้ตามสมควร
การที่ผู้ประกันนำเงินค่าปรับฐานผิดสัญญาประกันซึ่งศาลสั่งปรับมาชำระต่อศาลนั้น เป็นวิธีการทุเลาการบังคับหาทำให้สิทธิที่จะขอลดค่าปรับหมดไปไม่ เพราะผู้ประกันย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาขอลดได้ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 119 และเมื่อศาลฎีกาเห็นว่ารูปคดีมีเหตุสมควรที่จะลดหย่อนค่าปรับให้แก่ผู้ประกันได้ศาลฎีกาก็มีอำนาจให้ลดค่าปรับให้ปรับให้น้อยลงได้ตามสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1231/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากชกต่อยเป็นทำร้ายด้วยปืน: ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ใกล้เคียงกันและลงโทษฐานทำร้ายร่างกาย
ใช้ปืนสั้นตีเขามีบาดแผลฟกช้ำโลหิตขับที่ใต้ขมับขวา 1แห่ง ฟกซ้ำที่แก้ซ้าย 3 แห่งและที่ข้อมือซ้ายถูกของมีคมอีก 1 แห่ง ย่อมถือได้ว่าเป็นบาดแผลถึงบาดเจ็บตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายชกต่อยผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนสั้นตีผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ ดังนี้การชกต่อยกับการใช้ปืนสั้นตีเป็นกิริยาอาการที่ใกล้ชิดกัน ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ถึงกับยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญามาตรา 192
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยข้อกฎหมายว่าโจทก์นำสืบข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง แม้ศาลอุทธรณ์จะยกฟ้องในข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อการเช่า การผิดสัญญาเช่าทำให้ผู้ทรงเช็คมีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์จำเลยรับว่าสั่งจ่ายเช็คนั้นจริงเพื่อกิจการอย่างหนึ่ง แต่ถึงกำหนดกิจการนั้นเลิกล้มไปเพราะโจทก์ประพฤติผิดสัญญา แต่ในวันชี้สองสถานจำเลยแถลงว่าออกเช็คให้โจทก์เนื่องจากมีสัญญาจะเช่าห้องโจทก์ภายใน 7 วัน ครั้นครบ 7 วันจำเลยไม่สามารถหาเงินมาเช่าห้องได้ ดังนี้เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ได้รับเช็คโดยชอบและสุจริตจำเลยไม่พ้นความผิดไปได้ตาม ป.พ.พ.ม.900

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งของจากด่านศุลกากรไปยังตลาดชายแดน ไม่ถือเป็นการนำเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักรเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2480 มาตรา 5 นั้น เป็นเรื่องควบคุมมิให้นำสิ่งของเข้าในหรือออกนอกราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษี จึงบังคับให้ต้องขนส่งของที่นำเข้ามาหรือนำออกไปนั้นไปตามทางอนุมัติ และตามเวลาที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนดไว้ ฉะนั้นเมื่อไม่ได้ส่งของออกหรือเข้าในราชอาณาจักรแล้ว เพียงแต่ขนส่งของจากด่านศุลกากรไปยังร้านของตนที่ตลาดชายเขตแดนเพื่อจำหน่ายแก่ชุมนุมชนที่นั่น แม้จะขนส่งไปนอกเส้นทางอนุมัติ และนอกเวลาที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนดไว้ ก็ยังไม่เป็นผิดตามกฎหมายที่กล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในความเสียหายของทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของผู้รับฝากทดลองใช้
จำเลยเป็นผู้รับเครื่องคิดเลขของโจทก์ไว้เพื่อทดลองใช้ และปรากฎว่าเครื่องชำรุดเสียหายในขณะอยู่ในความครอบ ครองของจำเลย โดยปกติและตามกฏหมายจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ เว้นแต่จะสืบแก้ตัวได้ว่าไม่ต้องรับผิดด้วยเหตุใด
การที่โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยหรือตัวแทนจำเลยที่ 1 ทำเครื่องพิมพ์ตกพื้นเสียหายจะถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมมิได้ เพราะเครื่องพิมพ์อยู่ในความครอบครองของจำเลยไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบในเชิงคดีอย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินทำกิน สิทธิเช่า และอายุความครอบครองปรปักษ์ กรณีแย่งสิทธิครอบครองจากมารดา
บุตรเช่านาของมารดาส่วนหนึ่งทำกิน ครั้นน้องมาทวงค่าเช่าก็ไม่ให้ และกลับว่าเป็นที่ของตนเช่นนี้ จะถือว่ามารดา ถูกแย่งสิทธิครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1375 ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเนื่องจากการเช่าที่ส่วนหนึ่งของมารดา แล้วจะกลับมาเถียงสิทธิกับน้องแย่งการครอบครองจากมารดาย่อมไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1155/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์เมื่อจำเลยอ้างว่าสัญญาไม่ถูกต้องบางส่วน ศาลวางหลักว่าจำเลยต้องนำสืบก่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือให้ไว้แก่โจทก์ว่าจะรื้อถอนอาคารออกไปจากที่ดินของโจทก์ภายในกำหนด โดยจำเลยยินยอมรับเงินค่ารื้อถอนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ครั้นเมื่อโจทก์ให้เงินจำเลยแล้ว และถึงกำหนดเวลาแล้ว จำเลยก็ไม่รื้อจึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยรับว่าได้ลงชื่อในสัญญาที่โจทก์อ้างจริงแต่เป็นเพราะถูกโจทก์หลอกลวงให้ ลงชื่อ โดยความจริงโจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยรื้ออาคารเพียงส่วนน้อยเพื่อให้ได้ระดับกับห้องแถวที่ปลูกอยู่ข้าง เคียงแล้วโจทก์ให้จำเลยลงนามในเอกสารโดยไม่อ่านข้อความให้จำเลยฟัง ดังนี้เป็นเรื่องจำเลยมิได้ปฏิเสธสัญญา ที่โจทก์ฟ้องเสียทั้งหมด เป็นแต่กล่าวอ้างว่าไม่ถูกต้องเพียงบางส่วน เช่นนี้จำเลยจึงต้องเป็นฝ่ายนำสืบก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1135/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน เจ้าของร่วมต้องยินยอม การโอนสิทธิเฉพาะส่วน
เจ้าของร่วมเพียงคนเดียวไปทำสัญยาจะขายที่ดินให้แก่เขาหมดทั้งแปลงโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม คนอื่น ๆนั้น สัญญาจะซื้อขายนั้นย่อมผูกพันเฉพาะส่วนของเจ้าของร่วมผู้ทำสัญญาจะขายเท่านั้น ไม่ผูกพันส่วนของ เจ้าของร่วมคนอื่นด้วย.
ฟ้องขอให้จำเลยโอนที่ดินให้ทั้งแปลงตามสัญญา เมื่อปรากฎว่าที่ดินนั้นมีผู้อื่นเป็นเจ้าของร่วมด้วยอีกหลายคน จะให้ โอนทั้งแปลงไม่ได้ ได้แต่โอนเฉพาะส่วนของจำเลยเท่านั้น ดังนี้ เมื่อคดีไม่ปรากฎว่าส่วนของจำเลยมีอยู่เท่าใด ศาล ก็จะพิพากษาให้แบ่งไป ไม่ได้ ได้แต่พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสียเท่านั้นแต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องร้องว่า กล่าวเป็นเรื่องใหม่./
of 219