พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำเลยในคดีอาญา: การไต่สวนมูลฟ้องใหม่เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องกันเอง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายก คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปแล้ว มีคำสั่งหรือพิพากษาใหม่นั้น จำเลยยังไม่ มีสิทธิฎีกา เพราะเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายไม่ถึงขั้นทุพพลภาพหรือวิกลจริต: ความรับผิดตามมาตรา 338 เท่านั้น
เตะเขาล้มลงสิ้นสติไปชั่วครู่นั้น ยังไม่ถึงบาดเจ็บทุพพลภาพ หรือวิกลจริตดังที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254 จึงมีผิดฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บตามมาตรา 338(3) เท่านั้น.
(ประชุมใหญ่)
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งแยกโฉนดและสิทธิทางเดิน ต้องทำเป็นหนังสือจึงมีผลผูกพันบังคับได้
เจ้าของร่วมตกลงแบ่งแยกโฉนดกัน ตกลงกำหนดลงไปว่าใครได้ตรงไหนแน่ เช่นนี้ ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาท อันจะมีขึ้นให้เสร็จไป จึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 850.
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่คนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วน หนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าว เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจำนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่./
ข้อตกลงที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งยอมให้ เจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งผ่านที่ ที่คนได้รับในการแบ่งแยกนั้น ก็ย่อมเป็นส่วน หนึ่งของการตกลงแบ่งแยกโฉนดดังกล่าว เมื่อไม่ได้ทำเป็นหนังสือ ก็ย่อมจำนำมาฟ้องร้องให้บังคับหาได้ไม่./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 499/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรังวัดที่ดินโดยกำนันนอกกระบวนการตามกฎหมาย และการเรียกเก็บค่าบริการ ไม่เป็นความผิดตามก.ม.ลักษณะอาญา
กฎกระทรวงเกษตราธิการออกตามความใน พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉะบับที่ 6) พ.ศ. 2479 วางระเบียบในเรื่องการขอจับจองที่ดินไว้ว่า ให้ผู้ขอจับจองยื่นเรื่องราวขอจับจองตามแบบฟอร์ม เมื่อกรมการอำเภอได้รับคำขอแล้วให้นายอำเภอ หรือผู้แทนจะเป็นกำนันหรือเจ้าหน้าที่อื่นก็ได้ ไปทำการชัณสูตร
ยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้ว จึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลัง ทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวง เช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ฉะนั้นแม้กำนันจะ
เรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าช่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดี กำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตาม
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 137./
ยังที่ดินพร้อมด้วยผู้ขอฉะนั้นถ้าราษฎรผู้ขอจับจองได้ตรงไปให้กำนันรังวัดที่ดินและออกหนังสือรับรองเสียก่อน แล้ว จึงมายื่นคำขอจับจองต่ออำเภอในภายหลัง ทั้งหนังสือรับรองของกำนันก็มิได้เขียนลงในแบบฟอร์มตามกฎกระทรวง เช่นนี้ ต้องถือว่ากำนันทำขึ้นเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ทำตามหน้าที่ ไม่เป็นหนังสือรับรองตามกฎหมาย ฉะนั้นแม้กำนันจะ
เรียกร้องเอาเงินจากราษฎรผู้ขอ เป็นค่าช่วยการของตนคิดตามราคาเนื้อที่ดินรังวัดก็ดี กำนันนั้นก็ยังไม่มีผิด ตาม
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 137./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ประโยชน์จากที่ชายตลิ่งสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน และความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1304 (2) เป็นหน้า
ที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัว ตาม พ.ร.บ.
ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122.
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วย
กฎหมาย ผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะมาตรา 334(2) .
ที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัว ตาม พ.ร.บ.
ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122.
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วย
กฎหมาย ผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะมาตรา 334(2) .
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว
ข้าที่จำเลยขนย้ายออกนอกเขต ได้รับอนุญาตเพียงลำเดียวส่วนอีก 3 ลำขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ข้าวและเรือที่ขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องถูกริบตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามสัญญาเช่าที่ตัวแทนทำไป แม้มิได้รับมอบหมายโดยตรง สิทธิและหน้าที่ย่อมตกแก่ผู้รับโอน
เจ้าของที่ดิน เชิดให้มารดาภริยา แสดงเป็นตัวแทน หรือรู้แล้วยอมให้มารดา ภริยา แสดงเป็นตัวแทน ทำสัญญา
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.
ให้ผู้อื่นเช่าที่ดินปลูกเรือนอยู่อาศัย นั้น เจ้าของที่ดินย่อมต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่มารดาภริยาทำไว้กับผู้เช่า
ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้สุจริตเสมือนหนึ่งมารดาภริยาเป็นตัวแทนของเจ้าของที่ดิน ฉะนั้นผู้ซื้อที่ดินนั้นไปจากเจ้า
ของ จึงต้องรับโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาเช่าติดตามไปด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายในที่สาธารณะ
จำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดี ๆ ผู้ตายซึ่งเมาสุราเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้ามไป พอจำเลยลุกขึ้นได้ ผู้ตายก็หันกลับ มาชวนให้น่าเชื่อว่า ผู้ตายหันมาเพื่อร้ายจำเลยอีก ทั้งผู้ตายก็เป็นนักเลงโต อาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยไม่รู้ว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว การที่จำเลยใช้มีดคู่ปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ที ในขณะนั้น และผู้ตายตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงนั้น ก็ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ/
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นนอกคำฟ้อง: สิทธิในที่ดินจากการครอบครอง vs. ใบเหยียบย่ำ
โจทก์ฟ้องว่า ได้รับใบเหยียบย่ำในที่พิพาท จำเลยบุกรุกแย่งถางป่า จึงขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า
จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 20 ปีแล้ว ดังนี้ประเด็นข้อโต้เถียงกัน คงมีเพียงว่า ที่พิพาทซึ่งโจทก์ได้รับใบเหยียบย่ำมานี้จำเลยได้ครอบครองอยู่ก่อน ใบเหยียบย่ำของโจทก์ทับที่ๆ จำเลยครอบครองจริง หรือไม่เท่านั้น ส่วนข้อที่ว่าใบเหยียบย่ำของโจทก์ถูกอำเภอเพิกถอนหรือไม่ ถ้าเพิกถอนจะเป็นการชอบหรือไม่ อย่างไรนั้น ไม่มีประเด็นโต้เถียงกัน ฉะนั้นการที่ศาลไปวินิจฉัยว่า ใบเหยียบย่ำ
ของโจทก์ถูกเพิกถอนเสียแล้ว สิทธิตามใบเหยียบย่ำของโจทก์ย่อมหมดไป จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น./
จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทมา 20 ปีแล้ว ดังนี้ประเด็นข้อโต้เถียงกัน คงมีเพียงว่า ที่พิพาทซึ่งโจทก์ได้รับใบเหยียบย่ำมานี้จำเลยได้ครอบครองอยู่ก่อน ใบเหยียบย่ำของโจทก์ทับที่ๆ จำเลยครอบครองจริง หรือไม่เท่านั้น ส่วนข้อที่ว่าใบเหยียบย่ำของโจทก์ถูกอำเภอเพิกถอนหรือไม่ ถ้าเพิกถอนจะเป็นการชอบหรือไม่ อย่างไรนั้น ไม่มีประเด็นโต้เถียงกัน ฉะนั้นการที่ศาลไปวินิจฉัยว่า ใบเหยียบย่ำ
ของโจทก์ถูกเพิกถอนเสียแล้ว สิทธิตามใบเหยียบย่ำของโจทก์ย่อมหมดไป จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น./