คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองหนี้โดยปริยายของคู่สมรส: ผลผูกพันทางหนี้สินจากการลงลายมือชื่อเป็นพยาน
หญิงมีสามีก่อหนี้ขึ้นโดยลำพัง แต่ภายหลังได้ทำหนังสือรับสารภาพหนี้สินนั้นขึ้น โดยสามีรับรู้ ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นพยานไว้ในเอกสารรับสารภาพหนี้นั้น ย่อมถือว่าสามีรับรองหรือให้สัตยาบันโดบปริยาย สามีจึงต้องรับผิดในหนี้สินนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องคดีละเมิด: โจทก์ต้องแสดงเหตุแห่งการละเมิดตามที่ฟ้อง หากอ้างแต่การกระทำละเมิดโดยไม่แสดงสภาพของเรื่อง ศาลไม่อาจรับฟังข้อต่อสู้เกินขอบเขต
โจทก์ฟ้องกล่าวเป็นใจความว่า จำเลยไม่มีอำนาจอันชอบด้วยกฎหมายที่จะเก็บสิ่งของในตึก ซึ่งโจทก์ได้ให้ผู้อื่นเช่าเป็นการรบกวนผู้เช่าจะใช้ประโยชน์ในที่เช่า ขอให้บังคับให้จำเลยขนย้ายไป จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยเป็นผู้เช่าอยู่อาศัยในตึกนี้มาราว 20 ปีเศษแล้ว ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องอ้างเหตุเพียงว่าจำเลยเอาของไว้ในตึกเป็นการละเมิดเท่านั้น มิได้แสดงถึงการเช่าของจำเลย ฉะนั้นโจทก์จะสืบถึงว่าแม้จะมีการเช่า จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ย่อมเป็นเรื่องห่างไกลประเด็นที่กล่าวในฟ้อง ศาลย่อมไม่รับฟัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายกระสุนปืนที่ใช้ในการสงคราม หากมีการนำไปใช้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามอาชญากรรม จะไม่ถือว่าเป็นกระสุนที่ใช้เฉพาะในการสงคราม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ขอให้ลงโทษ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า ทางราชการได้จ่ายกระสุนปืนแบบนี้ให้ตำรวจใช้ในการปราบโจรผู้ร้ายเป็นการเอาไปใช้นอกจากการสงคราม ดังนี้
ก็ไม่มีทางที่จะชี้ขาดว่าเป็นกระสุนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉุดคร่าและทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพ: การรวมโทษและการพิจารณาความผิดฐานต่างๆ
ความผิดฐานฉุดคร่าห์อนาจารนั้น เมื่อได้ฉุดคร่าห์ไปถึงที่หมายปลายทาง ได้ที่พักพิงเรียบร้อยแล้ว ความผิดฐานฉุดคร่าห์สำหรับตัวผู้ฉุดคร่าห์ก็เป็นอันถึงที่สุด ถ้ายังมีการหน่วงหนี่ยวกักตัวผู้ถูกฉุดคร่าห์ไว้ต่อไป ก็เป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียอิสสระภาพขึ้นอีกกะทงหนึ่ง แต่ศาลมีอำนาจรวมกะทงลงโทษได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ: หลักฐานแสดงความจริงทำให้จำเลยไม่มีความผิด แม้รับสารภาพ
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีอัตรโทษอย่างสูง จำคุกไม่ถึง 10 ปีนั้น แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้วก็ตาม ถ้าปราศจากหลักฐานพยานว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวหาว่า จำเลยแจ้งความเท็จนั้น กลับเป็นข้อความจริงแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถ: ความรับผิดทางอาญาและ พ.ร.บ.รถยนต์
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วยแล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้
จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับ และจะปรับเอาผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกคั่นหนึ่งต่างหาก ซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้รับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ภรรยาน้อยและการอ้างสิทธิในทรัพย์สินเดิมของภริยาหลวง
โจทก์ฟ้องอ้างว่ามารดาโจทก์มีสินเดิมและสินสมรสกับบิดาโจทก์ มารดาโจทก์ถึงแก่กรรม จึงตกทอดเป็นมรดกได้แก่โจทก์กับน้องและบิดาต่อมาบิดาโจทก์ถึงแก่กรรมอีก จำเลยเป็นภรรยาน้อยบิดาโจทก์ ไม่มีสินเดิมได้นำสำเนาพินัยกรรมปลอมไปอ้างขอรับมรดกของบิดาโจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลทำลายพินัยกรรมปลอมนั้น ถ้าเป็นพินัยกรรมจริง บิดาโจทก์ก็ไม่มีอำนาจที่จะเอาส่วนสินเดิมและสินสมรสของมารดกโจทก์ไปทำได้ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเอาทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องขายทอดตลาดแบ่งกัน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าพินัยกรรมที่ได้เถียงเป็นพินัยกรรมจริงแล้ว และข้อที่โจทก์ว่าบิดาโจทก์เอาสินบริคณห์ระหว่างมารดาโจทก์กับบิดาโจทก์มาทำพินัยกรรมยกให้จำเลยเป็นการไม่ชอบนั้น ก็ได้ความว่าบิดาโจทก์แต่งงานอยู่กินกับจำเลยมาร่วม 20 ปีเศษ เกิดบุตรด้วยกันหลายคน ส่วนมารดาโจทก์อยู่เมืองจีน มิได้มาอยู่ร่วมด้วยเลย และโจทก์สิบไม่ได้ว่าบิดาโจทก์ได้นำทรัพย์ของมารดาโจทก์มาเป็นทุน อันเป็นทางให้เกิดสมรสอย่างใด ไม่มีเหตุพอที่จะให้รับฟังได้ ว่าทรัพย์สิ่งใดบ้างเป็นส่วนของมารดาโจทก์ ฉะนั้นเมื่อบิดาโจทก์ได้ทำพินัยกรรมให้จำเลย ก็ไม่มีทางจะแบ่งให้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการดำเนินคดีอาญาเมื่อข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดินยังไม่สิ้นสุด และการโต้แย้งสิทธิในที่ดินในทางแพ่ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยขัดคำสั่งนายอำเภอที่สั่งให้จำเลยออกจากหนองสาธารณะตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 334(2) จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ หากเป็นที่ของจำเลยมีกรรมสิทธิ
ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ จึงพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าที่พิพาทเป็นหนองสาธารณะ แต่คงเห็นว่าจำเลยไม่ผิดในทางอาญา จึงพิพากษายืนให้ยกฟ้อง ดังนี้ดดจำเลยจะฎีกาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ว่าที่พิพาทไม่ใช่หนองสาธารณะ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้ โดยเห็นว่าประเด็นข้อขัดคำสั่งทางอาญานั้นได้ยุติลงแล้วคู่ความชอบที่จะโต้แย้งกันในทางแพ่งได้ว่า หนองพิพาทเป็นหนองสาธารณะหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้หลังการเสียชีวิตของผู้ทำสัญญาเดิม และการเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเนื่องจากผู้ซื้อไม่สุจริต
มารดาทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่เขา โดยได้รับเงินค่าที่ดินนั้นไว้บางส่วน และส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองแล้ว ครั้นมารดาถึงแก่กรรม บุตรผู้เป็นทายาทได้ไปขอรับเงินค่าที่ดินนั้นเพิ่มเติมจากผู้ซื้อ และรับว่าจะปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินนั้น ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินให้แก่เขา แล้ว กลับเอาที่ดินไปจดทะเบียนการซื้อขายกันที่อำเภอ เมื่อปรากฎว่าญาติผู้ซื้อรับโอนที่ดินรายนี้ไว้โดยไม่สุจริต ล่วงรู้ถึงพฤติการณ์อันทำให้ผู้ซื้อคนแรกเป็นเจ้าหนี้ผู้ขายต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิที่จะขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายรายหลังนี้ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 237

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยผู้ไม่มีอำนาจ ศาลมีอำนาจแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อความยุติธรรม
ป้าเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาแทนหลาน ซึ่งเป็นผู้เยาว์โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย จนศาลสืบพยานโจทก์ไปหมดแล้วจึงปรากฎว่าป้าไม่มีสิทธิฟ้อง ดังนี้ พึงถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติบกพร่องในเรื่องความสามารถ ถ้าศาลเห็นว่า เพื่อเป็นความยุติธรรมศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งแก้ไขข้อบกพร่องนั้นได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 คือสั่งตั้งผู้แทนโดยชอบธรรมเฉพาะคดีให้แก่ผู้เยาว์โดยมีผู้ขอเข้ามา หรือศาลจะพิจารณาตั้งเองดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 56 วรรค 4 แล้ว พิจารณาคดีในข้อหาของโจทก์ไปก็ได้
of 219