พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดก่อการกบถ: วันเวลาที่ระบุในฟ้อง และการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยได้สมคบกันพยายามจะก่อการกบถโดยจะกระทำการประทุษฐร้ายเพื่อทำลายรัฐบาล ฯลฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2491 เวลาใดไม่ปรากฎถึง วันที่ 2 ตุลาคม ปีเดียวกันเวลากลางวัน ฯลฯ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ระบุวันเวลาจำกัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้ว กฎหมายหาได้บังคับให้แยกเป็นเวลา เป็นรายตัวบุคคลไม่ และไม่จำเป็นต้องแยกว่า จำเลยคนใดกระทำผิดอย่างใด เมื่อได้บรรยายการกระทำผิดมาพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์สลากกินแบ่ง – การซื้อโดยสุจริต – ผู้ถือสลากเป็นเจ้าของ
สลากกินแบ่งของรัฐบาลจัดว่า เป็นทรัพย์สินชะนิดหนึ่งซึ่งซื้อขายเปลียนมือกันได้ ผู้ใดถือสลากย่อมถือว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ เว้นแต่าจะมีเหตุผลแสดงให้เห็นว่า ผู้นั้นมีไว้โดยไม่สุจริต
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปาจำหน่ายแล้วศูนย์หายไป โดยเจ้าของได้แจ้งความและอาศัยกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัล
ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้มีอาชีพทางค้าขายสลากกินแบ่งโดยสุจริต ไม่ทราบว่า เป็นสลากของผู้อื่นที่รับไปาจำหน่ายแล้วศูนย์หายไป โดยเจ้าของได้แจ้งความและอาศัยกับสำนักงานสลากกินแบ่งไว้แล้ว ดังนี้ พออนุโลมเข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1332 ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิได้รับรางวัล เมื่อสลากถูกรางวัล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้รับจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยไม่ต้องรอแก้ไขงานก่อน
โจทก์จ้างเหมาจำเลยทำเคียวเกี่ยวข้าว จำเลยทำแล้วมาส่งมอบแต่ไม่ถูกต้องตามที่ตกลงสัญญากัน ดังนี้ กรณีเข้าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 215 ที่ว่า เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ให้ต้องต้องตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งลูกหนี้ เจ้าหนี้จะเรียกเอาสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การนั้นได้และเมื่อโจทก์นำสืบถึงจำนวนค่าเสียหายที่โจทก์จะได้รับได้แน่นอนแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ทีเดียว หาจำต้องนำเคียวไปจ้างผู้อื่นแก้ไขและจ่ายค่าจ้างไปแล้วก่อน จึงจะฟ้องเรียกจากจำเลยได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก & ลำดับสิทธิระหว่างผู้ซื้อฝาก ผู้รับโอนสิทธิ & ผู้ทำสัญญาจะซื้อขาย
ทำสัญญาขายฝากที่ดินกันโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาได้ตกลงกันขายที่ดินแปลงนั้นแก่ผู้รับซื้อฝาก โดยทำสัญญากันเองดังนี้สัญญาขายขาดฉะบับหลังนี้ไม่เกิดผลเป็นสัญญาซื้อขายที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น ผู้ขายฝากยังมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ ได้ภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนตามสัญญาขายฝากอยู่ และผู้ที่รับโอนสิทธิจากผู้ขายฝาก ก็ย่อมมีสิทธิไถ่ถอนการขายฝากรายนี้ได้เช่นเดียวกัน
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฎว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่
คู่ความอ้างเอกสารในสำนวนของศาลเป็นพยาน ไม่ต้องเรียกเอกสารมาจากที่อื่น เมื่อปรากฎว่าผู้อ้างยังไม่ได้เสียค่าอ้าง ศาลก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้อ้างชำระค่าธรรมเนียมการอ้างเอกสารนั้นเสียก่อนที่จะพิพากษาคดี ต่อผู้อ้างขัดขืนไม่ชำระตามคำสั่ง ศาลจึงควรไม่รับฟังเป็นพยาน
ในคดีที่มีผู้ร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 สู้คดีกับโจทก์จำเลยนั้น แม้ในศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ผู้ร้องสอดโจทก์แพ้คดีจำเลย โจทก์ไม่อุทธรณ์คงอุทธรณ์เฉพาะผู้ร้องสอดเท่านั้น ก็ตาม ก็ต้องถือว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่บังคับเฉพาะที่เกี่ยวถึงสิทธิของผู้ร้องสอดด้วย ยังหายุติไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด: ศาลฎีกาพิพากษาเพิ่มโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาวราว 1 ศอก แทงเขาถูกที่หน้าท้องเหนือสดือแผลยาว 6 เซ็นติเมตร กว้าง 3 เซ็นติเมตร ลึกทะลุหลังด้านซ้ายเหนือสะเอว แผลยาว 4 เซ็นติเมตร กว้าง2 เซ็นติเมตร ไส้ไหล นับว่าเป็นแผลฉกรรจ์มากและต้องแทงโดยแรง แม้จะแทงเพียงทีเดียว ก็ย่อมแสดงอยู่ว่า จำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย ต้องด้วยมาตรา 249 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ของผู้ตายให้แก่ภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่รอบคอบ
ผู้ตายทำงานอยู่องค์การรับส่งสินค้าและพัศดุภัณฑ์ ในกรมรถไฟ ครั้นเมื่อถึงแก่กรรมลง มีสิทธิได้รับเงินหลายประเภทตามระเบียบข้อบังคับขององค์การและทางการวางไว้ บิดาผู้ตายจึงได้ร้องขอรับเงินจำนวนนี้ โดยแสดงว่าตนเป็นบิดา และกำลังร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอยู่ แต่ทางกรมรถไฟกลับจ่ายเงินให้แก่ภริยาผู้ตายซึ่งปรากฎในทะเบียนประวัติว่า เป็นภริยาผู้ตาย แต่ปรากฎว่าภริยาผู้นี้มิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายตามกฎหมายนั้น เป็นการจ่ายที่ไม่รอบคอบขาดความระมัดระวัง จึงได้ชื่อปฏิบัติไม่ถูกต้องตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 315 ฉะนั้นบิดาของผู้ตายในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมมีสิทธิ์ฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจากกรมรถไฟอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกเงินตามเช็คของผู้กู้ แม้ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ ก็ฟ้องได้ตามอายุความมาตรา 1002
กู้ยืมเงินกัน แล้วออกเช็คสั่งจ่ายล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้กู้ ครั้นถึงกำหนดผู้ให้กู้นำเช็คไปรับเงินปรากฎว่า ผู้กู้ไม่มีเงินในธนาคารผู้ให้กู้จึงมาฟ้องผู้กู้เรียกเงินตามเช็คนั้น ดังนี้ แม้จะเป็นหนี้เรื่องกู้ยืม ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ตาม แต่ผู้ให้กู้ฟ้องเรียกเงินตามที่ผู้กู้ทำให้ผู้ให้กู้ต่างหาก จึงฟ้องบังคับได้ และมีอายุความตามมาตรา 1002.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011-1028/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงในที่สาธารณะ: ลักษณะเครื่องมือประจำที่ต้องมีหลักฐานการติดตั้งถาวร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช่เครื่องมือประจำที่ทำการจับสัตว์น้ำในที่สาธารณะประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปรากฎว่า แพสดุ้งใหญ่ที่จำเลยใช้ทำการาจับปลา มีลักษณะเป็นแพถ่อเคลื่อนที่ไปมาได้ เวลาทำการจับปลาตามปกติ ก้ไม่ต้องลงหลักปัก ผูก ขึงรั้งถ่วง หรือใช้งิธีอื่นให้แพอยู่กับที่ เพราะตามปกติจับปลาในที่น้ำนิ่ง และตามข้อเท็จจริงที่ศาลฟังมาก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ลงหลักปักผูกแพให้อยู่กับที่ในเวลาทำการประมง ในลักษณะประจำที่ ดังนี้ คดียังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้ใช้เครื่องมือประจำที่ ทำการประมงดังฟ้อง ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ ทนายความทำแทนผู้ให้เช่าได้
การบอกเลิกการเข่าตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 566 นั้น กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ ฉะนั้นทนายความมีหนังสือบอกเลิกการเช่าแทนผู้ให้เช่า จึงเป็นการสมบูรณ์ให้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ต้องลงโทษตามกฎหมายพิเศษ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพะยานต่อไปได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ