คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่นำสืบ และอำนาจฟ้องของผู้เช่า
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าบ้านผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งโดยการแสดงออก แม้ไม่มีหนังสือก็ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปต่างประเทศเสีย ได้มอบบ้านให้ภรรยาดูแลแทน แม้ภรรยานั้นจะไม่ใช่ภรรยาเจ้าของบ้านตามกฎหมายก็ตาม เมื่อภรรยานั้นให้คนเช่าบ้านนั้นแยู่อาศัย ผู้เช่านั้นก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เพราะถือได้ว่าเป็นการตั้งภรรยาเป็นตัวแทนด้วยการแสดงออก จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษาต่อบริวารของผู้เช่าช่วงที่ไม่ยินยอม เจ้าของที่ดินต้องฟ้องบังคับบริวารโดยตรง
ศาลพิพากษาให้ผูเช่าที่ดินและบริวารออกจากที่ดินที่เช่าและให้รื่อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวไปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้ เมื่อตัวผู้เช่าที่ดินได้รื้อถอนิสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าเองออกไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่ดินรายนี้ ซึ่งการเช่าช่วงไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดิน จึงตกเป็นบริวารของผู้เช่าด้วยนั้น ไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าช่วงออกไป เช่นนี้ โจทก์ควรขอให้ศาลหมายเรียกผู้เช่าช่วงนั้น มาจัดการว่ากล่าวบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้เช่าช่วง ไม่ใช่เรื่องที่ผุ้เช่าขัดขืนไม่ทำตามคำบังคับของศาล ฉะนั้นจะถือว่า ผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยรู้อยู่ว่ามีผู้ครอบครองยึดถืออยู่ ไม่ถือเป็นการซื้อโดยสุจริต
ซื้อที่ดินมีโฉนดมา 1 แปลงแต่ปรากฎว่า เมื่อผู้ซื้อไปดูที่ดินที่จะซื้อ ก็เห็นว่าจำเลยอยู่ในที่รายนี้โดยมีบ้านเรือนปลูกอยู่ มีกอไผ่ล้อมรั้วอยู่ในที่ดินส่วนหนึ่งก่อนแล้ว ผู้ซื้อก็มิได้ซักถามจำเลยหรือแม้แต่ตัวผู้ขายว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทได้ด้วยเหตุใด การที่ผู้ซื้อ ซึ้อไว้ทั้ง ๆที่รู้อยู่ว่าจำเลยได้ใช้สิทธิครอบครองที่รายพิพาทแยู่เช่นนี้ เท่ากับเป็นการซื้อโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งสินสมรสก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ โดยใช้สัดส่วนตามกฎหมายลักษณะผัวเมียเดิม
เป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ ระหว่างอยู่กินด้วยกันได้ที่ดินเป็นสินสมรสขึ้น แม้ในโฉนดจะมีชื่อทั้ง 2 คนร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงว่าเป็นส่วนของใครเท่าใดตาม ก.ม.ลักษณะผัวเมียฉะบับเก่า คือ ชายได้ 2 สวน หญิงได้ 1 ส่วน เพราะความในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งป.ม.แพ่งฯบัญญัติว่า การสมรสซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ ป.ม.กฎหมายบรรพนี้ แลัทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวเกิดแต่การสสรสานั้น ๆ บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ ไม่กระทบกระเทือนถึง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนสืบพยานเนื่องจากความผิดพลาดในการออกหมายเรียก ไม่ถือเป็นการละทิ้งคดี
ไม่มีพยานโจทก์มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์เพราะโจทก์ขอหมายเรียกพยานผิดไปวันหนึ่ง เนื่องจากความพลั้งเผลอจำวันผิด พฤติการณ์เช่นนี้ไม่มีเหตุสมควรที่จะยกฟ้องโจทก์ เพราะเห็นได้ชัดว่าไม่ใช้เรื่องละทิ้งคดี หรือจงใจประวิงคดีอย่างใด ควรให้เลื่อนสืบพยานไปตามโจทก์ร้องขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแถลงขอให้ยกฟ้องกับการดำเนินกระบวนพิจารณาตาม ป.วิ.แพ่ง ม.201 วรรค 2
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่า โจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ๆไม่มาศาลตามเวลานัด คงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องชองโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 201 วรรค 2 เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้น ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น ศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์จากการซื้อขายที่ไม่สมบูรณ์ตามแบบ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกัน แต่วินิจฉัยว่าแม้โจทก์ผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์คง พิพากษายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น แต่ไปวินิจฉัยว่าการซื้อขายไม่สมบูรณ์ เพราะทำไม่ถูกแบบ และฟังไม่ได้ว่าซื้อขายกัน ซึ่งไม่มีประเด็นมาสู่ศาลอุทธรณ์ และไม่ปรากฎว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยความข้อนี้ผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว จึงฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 243 (3) ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงข้อนี้ตามมาตรา 250 ศาลฎีกาคงฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นได้
ตกลงจะซื้อขายที่ดินกัน ชำระเงินราคาที่ดินครบถ้วนแล้ว และส่งมอบที่ดินให้ผู้ซื้อครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว พฤติการณ์เช่นนี้เป็นที่เห็นได้ว่า คู่กรณีไม่ได้คำนึงถึงการที่จะแก้ทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียแล้ว ผู้ซื้อคงครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิในฐานที่ได้ครอบครองมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิโอน กรรมสิทธิไม่ตกแก่ผู้ซื้อ แม้จะซื้อโดยสุจริต เจ้าของเดิมมีสิทธิเรียกคืนได้
ซื้อเรือมาดไว้จากผู้ที่ยักยอกเจ้าของมา แม้จะซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิเจ้าของย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนำทรัพย์สิน: สิทธิบุริมสิทธิของผู้รับจำนำไม้สัก กรณีจำเลยมีสิทธิใช้ประโยชน์ทรัพย์
ผู้รับจำนำยื่นคำร้องต่อศาลว่าทรัพย์ที่โจทก์ขอให้ศาลยึดนั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้จำนำต่อผู้ร้องไว้ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์นั้นขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์นั้น ชำระหนี้แก่ผู้ร้องก่อนเจ้าหนี้อื่นรวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนหนึ่งดังนี้ คดีปรับเข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150คือคำขอคำนวณเป็นราคาเงินได้ ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามอัตราของทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง
จำเลยทำตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธนาคารผู้ร้อง 500,000 บาทขอเปิดบัญชีอีก200,000 บาท ได้ทำสัญญามอบไม้สักและไม้ซุงซึ่งอยู่ ณ โรงเลื่อยจำเลยให้ผู้ร้องเป็นประกันผู้ร้องได้เอาตราธนาคารตีประทับบนไม้ และทำหนังสือให้คนดูแลโรงเลื่อยจำเลยเป็นผู้ดูแลรักษา แต่จำเลยมีสิทธิที่จะนำไม้เหล่านี้ไปเลื่อยและขายได้ โดยขออนุญาตผู้ร้องแต่ต้องหามาทดแทนดังนี้ยังไม่พอที่จะให้ถือว่าทรัพย์อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำหรือบุคคลภายนอกผู้ใดตามกฎหมาย เพราะผู้จำนำจะนำไม้ที่จำนำไปเลื่อยหรือขายก็ได้ฉะนั้นธนาคารผู้ร้องจะอ้างบุริมสิทธิว่าเป็นการจำนำถูกต้องตามกฎหมายมิได้
of 219