พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลลดโทษตามมาตรา 59 กรณีผู้ถูกทำร้ายมีพฤติกรรมยั่วยุ
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 59 ตอนท้ายให้อำนาจศาลในการที่จะใช้ดุลยพินิจลดโทษปราณีให้จำเลยไว้อย่างกว้าง ๆ ฉะนั้นเมื่อศาลพิเคราะห์เห็นมีเหตุสมควรจะปราณีแก่จำเลยแล้ว ศาลก็ย่อมใช้อำนาจตามมาตรา 59 ตอนท้ายนี้ ลดโทษฐานปราณีแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรและการฆ่าโดยไม่เจตนา: การถือมีดรอต่อสู้และการแทงในระหว่างการป้องกันตัว
ผู้ตายกับจำเลยเดินมาด้วยกัน ผู้ตายเมาสุราจนเดินโซเซและไม่มีอาวุธอะไร ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีความจำเป็นอันใด ที่จำเลยจะต้องทำร้ายผู้ตายเลยแต่จำเลยกลับไปยืนถือมีดคอยทีอยู่อีก เมื่อผู้ตายวิ่งเข้าชกจำเลย จำเลยก็แทงเอา เช่นนี้จะเรียกว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันชีวิต เกียรติยศชื่อเสียงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าไปในเคหะสถานเพื่อขายของโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย ไม่ถือเป็นการบุกรุกเพื่อลักทรัพย์
จำเลยเอาข้าวต้มผัดไปขายแก่ผู้อยู่ในเคหะสถานถึงในเคหะสถาน การเข้าไปเช่นนี้ต้องฟังว่าได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยาย เมื่อจำเลยลักทรัพย์เขาในเคหะสถานนั้น ก็คงเป็นผิดตามมาตรา 288 หาใช่มาตรา 294 (1) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา แม้ไม่ระบุตัวผู้ถูกจ้างวาน หากจำเลยเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายจ้างวานให้ผู้อื่นตัดฟันไม้สักในป่าโดยมิได้รับอนุญาต มิได้ระบุชื่อผู้ที่จำเลยจ้างงานก็ดี เมื่อฟ้องมีข้อความบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเพียงพอกับความประสงค์ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (5) และจำเลยก็เข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676-1677/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รวมสำนวนคดีอาญาและพิจารณาโทษฐานสมรู้ร่วมคิด แม้ลงโทษฐานตัวการแต่ศาลอุทธรณ์แก้ไขเป็นสมรู้ร่วมคิดได้
คดี 2 สำนวน ทั้งโจทก์และจำเลยจะต่างคนกัน ทั้งสองสำนวนแต่เป็นเรื่องกรณีเดียวกัน แม้ศาลสืบพยานแต่ละสำนวนกัน ก็พิพากษารวมกันได้ตามอำนาจใน ป.ม.วิ.อาญามาตรา 15 ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 28
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการในการจัดให้มีการเล่นการพะนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปรากฎว่าเป็นเพียงผู้ทำไพ่ และคนไพ่อันเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดรายนี้ศาลก็ย่อมลงโทษฐานสมรู้ได้ตามนัยฎีกาที่ 205/2483 , 214/2484
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการในการจัดให้มีการเล่นการพะนันโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปรากฎว่าเป็นเพียงผู้ทำไพ่ และคนไพ่อันเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดรายนี้ศาลก็ย่อมลงโทษฐานสมรู้ได้ตามนัยฎีกาที่ 205/2483 , 214/2484
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุผลสมควรเลื่อนการสืบพยาน: พยานเดินทางไมได้และไม่มาศาล
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บสาหัส ถึงวันนัดพิจารณามีพยายมาไม่ครบถ้วน จึงเลื่อนคดีไป 2 ครั้งแล้วในครั้งที่ 3 พยานไม่มาศาลอีก แต่ปรากฎว่าพยาน 2 คนไปเสียจากภูมิลำเนาทำให้ส่งหมายไม่ได้ ส่วนอีก 2 คนเซ็นทราบวันนัดของศาลไว้แล้ว แต่ไม่มาศาลเอง ดังนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องจัดการกับพยาน ไม่ใช่เป็นเรื่องของโจทก์ ฉะนั้นจึงมีเหตุสมควรให้เลื่อนการสืบพยานต่อไปอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนายทะเบียนไม่อนุญาตและไม่ดำเนินการเรียกคืน
บิดาได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน 1 กระบอก เมื่อบิดาตายบุตรจึงไปแจ้งต่อนายทะเบียน และขออนุญาตมีอาวุธปืนกระบอกนั้น แต่นายทะเบียนไม่อนุญาตกลับสั่งให้ขายปืนนั้นเสียภายใน 6 เดือนแต่บุตรขายปืนนั้นไม่ได้ นายทะเบียนก็มิได้เรียกเอาปืนนั้นไปขายทอดตลาดเสียเองและมิใช่สั่งอย่างไรอีก ปืนนั้นจึงคงอยู่กับบุตรอย่างเดิม ดังนี้ จะว่าบุตรมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตเป็นการผิดกฎหมายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1616/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนปืนให้ผู้ไม่มีใบอนุญาต: ปืนที่ถูกโอนไม่เป็นของผิดกฎหมาย จึงไม่ริบ
ความผิดฐานโอนปืนให้แก่ผู้ซึ่งมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนนั้นความผิดเกิดแต่การโอนขายให้แก่ผู้ที่มิได้รับอนุญาต จึงมิได้ทำให้อาวุธปืนที่มีใบอนุญาตกลายเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย ฉะนั้นจะริบปืนนั้นไม่ได้ ต้องคืนเจ้าของไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ความตายเข้าข่ายฆ่าคนตายโดยเจตนา แม้จะอ้างว่าไม่มีเจตนา
จำเลยใช้พานท้ายปืนตีถูกศีร์ษะภรรยาถึง 3 ทีจนภรรยาล้มลงไปแล้วจำเลยยังตีซ้ำถูกตรงกระดูกสันหลังอีกครั้งหนึ่ง ภรรยาลุกขึ้นได้ก็มีอาการเดินคอเอียงไปดังนี้ เป็นการรุนแรงมากจำเลยอาจแลเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้ว่าภรรยาอาจถึงแก่ความตายและเมื่อภรรยาได้ตายลงในเวลาปัจจุบันจากการทำร้ายของจำเลยนั้น จำเลยก็ต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611-1613/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องอาญา และการพิจารณาบาดแผลถึงทุพพลภาพเพื่อลงโทษทางอาญา
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยบังอาจสมคบกันใช้กำลังกายโดยใช้มือกอดรัดคอ ตบ ตี ชก และข้อศอกตีและใช้เท้าเตะกลุ้มรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ฯลฯ ดังนี้ เป็นการบรรยายข้อเท็จจริงพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตชับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตชับเหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อยกับที่ต้นคอและบ่าซ้ายบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254
ก.ม.ลักษณะอาญาแก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย
ถูกทำร้ายมีบาดแผล 4 แห่ง คือ หน้าผากเหนือคิ้วขวาเป็นรอยขีดหนังขาดโลหิตชับ ที่ใต้ตาขวาฟกช้ำหนังกำพร้าขาดโลหิตชับเหนือคิ้วซ้ายมีรอยฟกบวมเล็กน้อยกับที่ต้นคอและบ่าซ้ายบวมอักเสบและที่ข้อไหล่ซ้ายเคล็ดใช้แขนไม่สดวกอีกแห่งหนึ่ง บาดแผลหลังนี้ต้องรักษาอยู่เดือนเศษจึงหาย เรียกได้ว่ามีอาการถึงทุพพลภาพ จึงเป็นบาดเจ็บตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 254
ก.ม.ลักษณะอาญาแก้ไขเพิ่มเติมฉะบับที่ 14 พ.ศ.2494 ที่แก้ไขมาตรา 41,42 นั้น ไม่มีการเพิ่มโทษสำหรับที่ถูกรอการลงอาญาไว้ และการที่จะนำโทษเก่ามาบวกกับโทษใหม่ตามมาตรา 42 นั้น โทษครั้งใหม่ที่จำเลยได้รับต้องเป็นโทษจำคุกด้วย