พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมรู้ร่วมคิด – การเพิกเฉยต่อการกระทำผิด – ไม่ถือเป็นอุปการะ
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้อยู่รู้เห็นการกระทำผิด โจทก์ได้ร้องขอช่วย จำเลยเพิกเฉย เพียงเท่านี้ไม่พอให้ถือว่าจำเลยได้สมรู้ ให้ความอุปการะแก่การกระทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 65 เพราะจำเลยมิได้กระทำการอย่างใดที่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและสิทธิเลิกสัญญาเมื่อมีการขายสถานที่เช่า โดยมีข้อตกลงพิเศษที่ไม่ขัดกฎหมาย
ทำสัญญาเช่าเคหะกันมีอายุ 1 ปี แต่มีข้อแม้ไว้ข้อ 1 ว่า ถ้าให้ผู้เช่าตกลงขายที่และบ้านเช่าให้แก่ผู้ใดก่อน ครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้วผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือนและผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาศตกลงซื้อในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ดังนี้ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อผู้ให้เช่าขายสถานที่เช่าแก่คนอื่นไปโดยได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ก็ย่อมเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด 1 ปีและผู้เช่าก็จำต้องออกจากสถานที่เช่าไป จะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานสอบสวนในการรวบรวมหลักฐาน และการนำเสนอรายงานผลการตรวจลายมือในคดีอาญา
ป.ม.วิ.อาญามาตรา 132 เป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจพนักงานสอบสวนที่จะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังที่ระบุไว้นั้นได้ เพื่อประโยชน์แห่งการรวบรวมหลักฐานในเมื่อเห็นว่าจะทำให้คดีแจ่มกระจ่างขึ้น แต่ไม่ได้บังคับว่าการกระทำเหล่านี้พนักงานสอบสวนจะต้องจัดทำด้วยตนเอง ฉะนั้นพนักงานสอบสวนอาจให้ผู้ในบังคับบัญชาไปกระทำแทนในสิ่งเล็กน้อยก็ได้
ผู้ชำนาญการพิเศษของตำรวจส่งรายงานตรวจพิศูจน์ลายมือของจำเลยไปให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนจนฟ้องจำเลย ต่อศาล และโจทก์อ้างรายงานนั้นเป็นพยานนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 243 วรรค 2
ผู้ชำนาญการพิเศษของตำรวจส่งรายงานตรวจพิศูจน์ลายมือของจำเลยไปให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนจนฟ้องจำเลย ต่อศาล และโจทก์อ้างรายงานนั้นเป็นพยานนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลสั่งให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 243 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1580/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุตรที่เกิดระหว่างสมรส แม้การสมรสไม่สมบูรณ์ ก็ยังมีสิทธิในมรดก
บุตรที่เกิดในระหว่างที่บิดมารดาสมรสอยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภริยาและจดทะเบียนการสมรสกันแล้ว จนกระทั่งบิดาถึงแก่กรรมแล้วจึงมีคำพิพากษาของศาลชี้ขาด ว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างบิดากับมารดานั้น ไม่ชอบด้วย ก.ม.เพราะขณะนั้นบิดายังมีภริยาเดิมอยู่มิได้หย่าขาดกัน ดังนี้ ก็ต้องถือว่าบุตรนั้นเป็นบุตรที่ชอบด้วย ก.ม.ของบิดามารดาตลอดมา และมีสิทธิได้รับมรดกของบิดา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจกรรมการลงนามแทนบริษัท แม้ไม่มีตราประทับ ก็ผูกพันบริษัทได้ หากการกระทำนั้นเพื่อประโยชน์ของบริษัท
แม้ในคำขอจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ได้ระบุไว้ว่ากรรมการหนึ่งนายมีอำนาจลงนามแทนบริษัทได้ แต่ต้องประทับตราของบริษัทก็ดี เมื่อปรากฎว่ากรรมการ ซึ่งเป็นผู้จัดการของบริษัทยืมปูนซิเมนต์ของผู้อื่นมาใช้ในกิจการของบริษัทแล้ว บริษัทจะไม่ยอมรับผิดโดยโต้เถียงว่าใบส่งของที่ยืมปูนซิเมนต์มามีแต่กรรมการผู้จัดการลงนามไม่มีตราของบริษัทประทับด้วยนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันชิงทรัพย์: การกระทำเพื่อช่วยเหลือการหลบหนีและความรุนแรงเป็นองค์ประกอบสำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นคนเดินแซกเข้าไปลักปากกาจากกระเป๋าเสื้อเจ้าทรัพย์พาหนีไป จำเลยที่ 2 เดินเข้ามาชนกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์เซไป แล้วเดินตามไปด้วยกันและถูกจับพร้อมกันในขณะที่เดินไปด้วยกันดังนี้ เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า การที่จำเลยที่ 2 ใช้กำลังกายกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์ให้เซไปก็เพื่อหน่วงเหนี่ยวการติดตามของเจ้าทรัพย์ให้ช้ลงโดยประสงค์ให้เป็นความสดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะพาทรัพย์ที่ลักไปจากเจ้าทรัพย์หนีไปให้พ้นและเพื่อให้จำเลยที่ 1 รอดพ้นอาญาสำหรับความผิดที่ได้กระทำลง และการใช้กำลังกายกระแทกไหล่ เป็นการใช้กำลังทำร้ายอย่างหนึ่ง จำเลยทั้งสองที่สมคบกันในการนี้ จึงต้องมีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานศุลกากรปลอมและหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าตามกฎหมาย
กรมศุลกากรและกระทรวงมหาดไทยได้ตกลงกันมอบหมายให้คณะกรมการอำเภอชายฝั่งทะเลที่ไม่มีนายด่านศุลกากร ทำหน้าที่เป็นายด่านศุลกากรแทนดังนี้ เมื่อสมุหบัญชีอำเภอ ซึ่งเป็นคณะกรมการอำเภอได้กระทำหน้าที่นายด่านศุลกากรแทน ได้จดข้ดความเท็จและทำหลักฐานเท็จรับรองการขนสินค้าขึ้นท่าอันเป็นการเสียหายแก่กรมศุลกากร จึงเป็นการกระทำในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ จึงเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 230
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในคดีค้ากำไรเกินควร: ริบเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธการขายโดยไม่มีเหตุผล
ไม่ยอมขายสิ่งของที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรกำหนดราคาไว้อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้น สิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดคือสิ่งของที่มีผู้ขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้ แต่ผู้ขายไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันควรเท่านั้น และย่อมริบได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่ยอมขายดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1432/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การกระทำที่แสดงถึงความตั้งใจที่จะทำให้ถึงแก่ความตาย แม้จะเกิดจากการชวนวิวาทและการลงมือทำร้ายก่อน
จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุท้าทายเขาวิวาท และจำเลยเป็นผู้ลงมือทำร้ายเขาก่อนโดยเขายังมิได้ทำร้ายจำเลยแต่ประการใด จำเลยย่อมเลือกทำร้ายได้ก่อนและจำเลยได้ใช้มีดแทงเขาถูกที่ใต้ราวนมซ้าย อันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญเป็นบาดแผลนั้นในเวลากระชั้นชิดกันนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยอาจเห็นผลแห่งการกระทำของตนว่าจะเป็นเหตุให้เขาถึงตายได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องเพิ่มเติมสถานที่เกิดเหตุไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากไม่หลงข้อต่อสู้เดิม
การขอเพิ่มเติมตำบลที่เกิดเหตุนั้น เป็นการขอแก้รายละเอียด ซึ่งต้องแถลงในฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 164 โจทก์จะร้องขอแก้ในระยะใดระหว่างพิจารณาในศาลชั้นต้น ก็ไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ เว้นแต่จำเลยได้หลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือที่มิได้กล่าวไว้นั้น
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจทก์ เจ้าพนักงานจับโคของกลางได้จากจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ และว่าเจ้าพนักงานมิได้จับโคของกลางได้จากจำเลยดังนี้ การที่โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องว่า เหตุได้เกิดที่ตำบลอีกตำบลหนึ่งด้วย ย่อมเห็นได้ว่าไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์มิได้กล่าวไว้แต่อย่างใด โจทก์จึงแก้ไขหรือเพิ่มเติมฟ้องได้