คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1421/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามหลังลักทรัพย์เข้าข่ายความผิดชิงทรัพย์
ลักบุหรี่ที่เขาวางขายไว้ที่ร้ายแผงลอยไป 1 ซองแล้วเดินเรื่อย ๆ ไป เจ้าทรัพย์กับพวกติดตามในขณะนั้นชั่วระยะทางเพียงเล็กน้อยก็ทัน จำเลยจึงใช้มือชกต่อยพวกเจ้าทรัพย์ ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าทำร้ายเพื่อระงับการติดตามของคนเหล่านั้นโดยหวังผลที่จะพาบุหรี่ที่ลักมานั้นไป และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นผิดอาญาสำหรับความผิดฐานลักทรัพย์ ที่ได้กระทำลง ย่อมเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความ 'ยานพาหนะ' ใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง: การใช้เรือถ่อโดยไม่มีการขนส่ง
มาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 บัญญัติว่า " ยานพาหนะ " หมายถึงสิ่งใด ๆ ที่ใช้สำหรับขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีผู้นำเรือถ่อโดยมิได้ใช้ขนส่งอะไรออกนอกประเทศและเข้าในประเทศโดยมิได้แจ้งกำหนดเรืออกจากท่าก็ดี เรือเข้ามาถึงท่าแล้ว ไม่ไปรายงานต่อเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่เป็นผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารมีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของลายมือชื่อในเช็ค หากพิสูจน์ไม่ได้ ธนาคารต้องรับผิดชอบ
ธนาคารจ่ายเงินให้แก่ผู้ทรงเช็คไปตามเช็คที่มีลายเซ็นชื่อผู้เคยค้าเป็นผู้สั่งจ่าย เมื่อผู้เคยค้ามาฟ้องธนาคารอ้างว่าตนไม่ได้เซ็นสั่งจ่ายในเช็คดังกล่าวแล้ว ให้ธนาคารรับผิดชอบในจำนวนเงินที่ธนาคารจ่ายไปนั้น ธนาคารมีหน้าที่สืบแสดงว่าลายเซ็นสั่งจ่ายในเช็คเป็นลายเซ็นของผู้เคยค้าจริง ถ้าสืบไม่ได้ธนาคาร ก็ต้องรับผิดชอบในเงินจำนวนที่จ่ายไปนั้นและจะหักเงินนั้นจากบัญชีเดินสพัดของผู้เคยค้าไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาไม่ชัดเจน จำเลยไม่เข้าใจข้อหา แม้รับสารภาพ ศาลต้องยกฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทปราศจากความระมัดระวัง อันควรเป็นวิสัยของปรกติชนเป็นเหตุให้ชนรถยนต์ของผู้มีชื่อเสียหาย และทำให้คนที่นั่งมาบนรถถึงบาดเจ็บสาหัสและถึงตาย มิได้บรรยายว่าจำเลยประมาทโดยอาการอย่างไร และที่ว่ารถจำเลยชนรถยนต์ผู้มีชื่อก็ไม่บรรยายว่าชนถูกส่วนไหนอันจะเป็นทางให้เห็นว่าประมาทหรือไม่ ดังนี้ เป็นฟ้องไม่ชัดเจนพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องไม่ถูกต้องด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 (5) แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้ป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ แม้ผู้ถูกทำร้ายยังกำอาวุธอยู่ ศาลยกฟ้อง
จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อนให้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ผู้ตายไปดักคอยทำร้ายจำเลยกลางทาง จำเลยหนีไปเป็นระยะทางถึง 4 เส้น ผู้ตายก็ยังไล่ติดตามจะทำร้ายจำเลย ๆ หนึขึ้นไปบนเรือนแล้ว ผู้ตายก็ยังบุกรุกตามขึ้นไปอีก และโดดแทงจำเลยด้วยมีดก่อน จำเลยจึงต่อสู้ป้องกันตัว แม้จำเลยฟันผู้ตายทีหนึ่งแล้ว ผู้ตายทรุดตัวลงนั่งก็ดี แต่ก็ยังกำมีดอยู่ ยากที่จำเลยจะคิดเห็นได้ว่าตนพ้นอันตรายแล้วผู้ตายอาจผลุนผลันลุกขึ้นทำร้ายอีกก็ได้ จำเลยจึงฟันผู้ตายอีกทีหนึ่ง ผู้ตายจึงล้มลง แล้วจำเลยก็มิได้ทำอันตรายอีก ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุได้รับการยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งความรับผิดชอบในความผิดฐานชิงทรัพย์และลักทรัพย์ เมื่อการกระทำเกิดขึ้นต่างเวลากัน
คนร้าย 2 คนสมคบกันไปลักทรัพย์เขาเมื่อลักได้แล้วพาทรัพย์หนี คนหนึ่งพาทรัพย์ออกพ้นจากบ้านเจ้าทรัพย์ ไปแล้ว อีกคนหนึ่งถูกพวกเจ้าพนักงานสกัดหน้าไว้ในบริเวณบ้านคนร้ายคนที่ถูกสกัดหน้า จึงทำร้ายคนที่สกัดหน้า มีบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ แสดงว่ากระทำร้ายเพื่อจะหลบหนี อันนับได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อตัวคนร้ายคนนั้นเองโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับการสมคบกันมาลักทรัพย์แต่แรก คนร้ายคนที่ทำร้าย จึงมีผิดฐานชิงทรัพย์แต่ผู้เดียวส่วนคนร้ายคนที่พาทรัพย์พ้นบ้านไปแล้วนั้น คงมีผิดเพียงฐานลักทรัพย์เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยไม่สุจริตและภาระจำยอม ผู้ซื้อไม่อาจอ้างสิทธิได้
ลำรางน้ำในนาแปลงหนึ่งตกเป็นภาระจำยอมแก่นาข้างเคียงอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีผู้ซื้อนาที่มีลำรางน้ำนั้นในภายหลังผู้ซื้อถมลำรางนั้นเสียเมื่อรับโอนนาแปลงนั้น ย่อมแสดงว่า ผู้ซื้อมิได้กระทำโดยสุจริต ฉะนั้นจะอ้าง ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1299 หรือ 1300 มาใช้เป็นคุณแก่ผู้ซื้อไม่ได้ เจ้าของนาข้างเคียงย่อมฟ้องผู้ซื้อขุดเปิดให้เป็นทางน้ำคงคืนตามสภาพเดิมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เงินกู้และการนำสืบหลักฐานการชำระหนี้ การสืบพยานนอกประเด็นที่ให้การไว้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ตามหนังสือสัญญากู้ จำเลยต่อสู้ไว้เพียงว่าใช้เงินให้บ้างแล้วและโจทก์รับว่าจะบันทึกการใช้เงินไว้ท้ายสัญญากู้ให้ ดังนี้ ตามคำต่อสู้ของจำเลยไม่ปรากฎว่ามีหลักฐานใช้เงินเป็นหนังสือแต่อย่างใดจำเลยจะนำพยานมาสืบถึงการใช้เงินไม่ได้ ต้องห้ามตาม ม.653 ป.พ.ม.
ส่วนข้อที่จำเลยนำพยานมาสืบว่าโจทก์ได้บันทึกการใช้เงินไว้ท้ายสัญญากู้แล้ว ( ถูกฉีกาขาดหายไป ) นั้นเป็นการนำสืบนอกประเด็นที่จำเลยให้การต่อสู้ไว้ จึงรับฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การอ้างกรรมสิทธิ์ทองรูปพรรณทั้งในฐานะผู้ฝากและทายาท ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์
โจทย์ฟ้องเรียกทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งจากจำเลย โดยกล่าวความเป็น 2 นัย ๆ หนึ่งว่า ทองรูปพรรณเป็นของโจทก์ ๆ ฝากผู้มีชื่อไว้แล้วตกไปอยู่แก่จำเลย อีกนัยหนึ่งอ้างว่า โจทก์เป็นทายาทของผู้มีชื่อนั้น ผู้มีชื่อนั้นตาย โจทก์เป็นทายาทผู้เดียวจึงขอรับเอาเป็นมรดกดังนี้ นับว่าเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 172 เพราะไม่แสดงให้แน่ชัดว่าทองรูปพรรณนี้เป็นของโจทก์หรือของผู้มีชื่อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทมาตราผิดในคำฟ้องอาญา: ศาลลงโทษตามบทที่ถูกต้องได้
ฟ้องของโจทก์บรรยายความหาว่าจำเลยได้นำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นฟ้องตรงตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 118 เมื่อนำพยานสืบก็สืบตามฟ้อง แต่ในคำขอท้ายฟ้องอ้างมาตรา 155 ถึงมาตรา 158 ไม่ได้อ้างมาตรา 118 ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นเรื่องอ้างบทผิด ไม่ใช่ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลย ศาลจึงอาจลงโทษจำเลยในบทที่ถูกต้องคือตามมาตรา 118 ได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 4
of 219