พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557-1558/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมโทษอาญาและการฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันหลายฐานความผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง และพิพากษาต้องกันว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249 กะทงหนึ่งและตามมาตรา 254 อีกกะทงหนึ่ง แต่ให้รวมกะทงลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปี ดังนี้แม้โทษฐานทำร้ายร่างกายตาม ก.ม.ลักษณะอาญาตามมาตรา 154 ให้จำคุกไม่เกิน 2 ปีก็ดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 ให้รวมกะทงลงโทษร่วมกับความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้กำหนดโทษฐานทำร้างร่างกายไว้ชัดแจ้ง อันจะพึงอนุมานได้ว่าต้องด้วย วิ.อาญามาตรา 218 หรือ 220 ฉะนั้นเมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันมาทั้ง 2 ฐานก็ชอบจะฎีกาได้ไม่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ากำหนดอัตราค่าเช่าสองระยะ ไม่เป็นการเลี่ยง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
สัญญาเช่าบ้านซึ่งกำหนดอัตราค่าเช่าไว้เป็นสองระยะ ๆ แรก 18 เดือนคิดค่าเช่าเดือนละ 100 บาท เมื่อครบกำหนดแล้วจะอยู่ต่อไปต้องคิดเดือนละ 500 บาท ดังนี้เป็นข้อสัญญาตกลงกันด้วยความสมัครใจมีผลผูกพันกันตามกฎหมาย มิเป็นการขัดหรือฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดทำร้ายร่างกาย: การกระทำต่อเนื่องและต่างจิตต่างใจไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้ามระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไปจำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1535/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกผลธรรมดา vs. ดอกผลนิตินัย: ข้าวจากนาไม่ใช่ดอกผลธรรมดา แม้ได้จากทรัพย์สินร่วม
ดอกผลธรรมดาตามมาตรา 111(1) นั้นหมายถึงบรรดาสิ่งทั้งปวงซึ่งได้มาเพราะใช้ของนั้น อันเกิดโดยธรรมชาติของมันดังเช่น ผลไม้ น้ำนม ขน และลูกของสัตว์
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น
ส่วนต้นข้าวที่ทำได้จากนานั้นเป็นสังหาริมทรัพย์ต้นข้าวเกิดขึ้นจากแรงงานไม่ใช่ดอกผลของนา ฉะนั้นข้าวเปลือกก็ไม่ใช่ดอกผลของนาเช่นเดียวกัน
(ประชุมใหญ่)
ฟ้องเรียกข้าวฐานเป็นดอกผลธรรมดา เมื่อวินิจฉัยว่าข้าวไม่ใช่ดอกผลธรรมดาโจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งแล้ว จะเปลี่ยนเป็นให้แบ่งค่าเช่านาอันเป็นดอกผลนิตินัยแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เพราะนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1487/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยไม่นำส่งสำเนาฎีกาตามกำหนด ถือเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา
จำเลยฎีกาแล้วไม่นำส่งสำเนาฎีกาแก่โจทก์ภายในกำหนดที่ศาลสั่ง เป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 174 ข้อ 2 นั้น ที่จำเลยแถลงว่าทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลต่างจังหวัด ไม่ได้มานำส่งสำเนาฎีกาแก่โจทก์นั้น ไม่เป็นเหตุสมควรที่จะผ่อนผันให้ได้ ศาลฎีกาจึงต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการห้ามขุดคูใกล้เขตที่ดินร่วม: การวัดระยะจากริมคันนาเพื่อรักษาสิทธิทางเดิน
การห้ามขุดคูใกล้แนวเขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคู ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1342 นั้น ถ้าตรงเขตที่ดินเป็นคันนา ซึ่งเจ้าของที่ดินที่ติดต่อมีสิทธิร่วมกันในคันนานั้นจะใช้เป็นทางเดินร่วมกันแล้วการวัดระยะจากเขตต์ที่ไปถึงปากคู ที่ขุดจะต้องวัดจากริมคันนาด้านที่ขุดคูไปถึงปากคู ไม่ใช่วัดจากกลางคันนาไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอน และผลกระทบต่อสิทธิเจ้าของเมื่อมีการโอนโดยไม่สุจริต
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียกร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานที่ถูกแนะนำคำให้การ: ศาลต้องพิจารณาความสัตย์จริงในการเบิกความ หากพยานเบิกความตามรู้เห็นจริง ไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย
ฝ่ายผู้เสียหายพิมพ์คำให้การและแผนที่เกิดเหตุแจกจ่ายพยานโจทก์เพื่อให้พยานเบิกความตามนั้น แต่เมื่อพยานดังกล่าวมาเบิกความต่อศาลพยานต่างยืนยันว่าได้ให้การตามรู้ตามเห็นโดยสัตย์จริงทั้งนั้น พยานไม่ได้ยึดถือเอาข้อความที่เขาพิมพ์แจกมาให้การต่อศาล ดังนี้คำพยานเหล่านี้ถ้าเบิกความประกอบด้วยเหตุผลก็ย่อมฟังได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหลังศาลสั่งไม่บังคับตามสัญญาประณีประนอม การฟ้องร้องต้องดำเนินตามคำสั่งศาลเดิม
โจทก์ฟ้องจำเลยขอไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน แล้วตกลงทำสัญญาประณีประนอมยอมความยอมให้โจทก์ไถ่ถอนได้ภายในกำหนด 2 เดือน ศาลพิพากษาตามยอมครั้นครบกำหนดแล้วโจทก์ไม่นำเงินไปขอไถ่ถอน เพิ่งจะเอาเงินไปขอไถ่ถอนภายหลังจำเลยจึงไม่ยอมให้ไถ่ถอนโจทก์ไปร้องต่อศาล ๆ สั่งไม่บังคับให้ แต่โจทก์ก็มิได้อุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาล กลับนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยยอมให้โจทก์ไถ่ถอนที่ดินแปลงนี้อีก ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลไม่เสียผลต่อการวินิจฉัยคดี ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแล้ววินิจฉัยคดีได้
การที่ผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้น ซึ่งจะถือว่าเป็นความผิดของผู้ร้องสอดไม่ถนัด ทั้งศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงอย่างใดกลับวินิจฉัยคดีให้ดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาก็ชอบที่จะสั่งเรียกค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องแล้ววินิจฉัยคดีให้ถูกต้องจะอ้างว่าผู้ร้องสอดมิได้เสียค่าขึ้นศาลมาจึงไม่วินิจฉัยให้นั้น ยังไม่ถูกต้อง