คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1340/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไม่เจตนา: การแทงจากด้านหลังโดยมีผู้เห็นเหตุการณ์
จำเลยแทงผู้ตายทางข้างหลังเพียงทีเดียวด้วยมีดยาว 1 คืบต่อหน้าประชาชนที่ไปในกระบวนแห่มากด้วยกัน หากไปถูกที่สำคัญเข้าจึงทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ย่อมเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีมีทุนทรัพย์พิพาท: การโต้แย้งกรรมสิทธิในทรัพย์สินที่ขายฝากเกินอำนาจศาลแขวง
ฟ้องว่า ภรรยาเอาสินบริคณห์ไปขายฝากไว้แก่จำเลยเป็นเงิน 8000 บาท แล้วโอนหลุดเป็นสิทธิแก่จำเลยโดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอม จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากและการโอนเสีย จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่สามี ทรัพย์พิพาทเป็นของหญิงผู้เดียว ดังนี้ถือว่าเป็นฟ้องคดีมีทุนทรัพย์พิพาทกันมีราคา 8000 บาท ไม่ใช่คดีไม่มีทุนทรัพย์
ศาลแขวงพิจารณาพิพากษาคดีเกินอำนาจศาลแขวง, ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงให้คืนฟ้องโจทก์ไปเพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตตอำนาจ และคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดแก่โจทก์จำเลยนั้น ศาลฎีกาพิพากษายืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสอบสวนคดีอาญา: การสอบถามข้อเท็จจริงเฉพาะเจาะจงไม่ถือว่าการสอบสวนเสียไป
การที่กฎหมายบัญญัติให้มีการสอบสวนเสียก่อนที่พนักงานอัยการนำคดีขึ้นฟ้องร้องนั้น ก็เพื่อประสงค์จะมิให้มีการฟ้องร้องกันง่าย ๆ ปราศจากหลักฐานเพราะจะเป็นการเดือดร้อนแก่จำเลย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยนำสุกรออกนอกเขตโดยไม่ได้รับอนุญาตและทราบประกาศแล้ว จำเลยรับว่าได้นำสุกรออกนอกเขตและได้ทราบประกาศแล้วจริง แต่สู้ว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนในข้อที่จำเลยได้ทราบประกาศหรือไม่ แม้คดีจะได้ความว่าพนักงานสอบสวนมิได้สอบสวนข้อที่จำเลยทราบประกาศหรือไม่ ก็ยังถือได้ว่าได้มีการสอบสวนแล้ว และไม่เป็นเหตุที่จะให้ถือว่าการสอบสวนนั้นเสียไปแต่อย่างใด หรือจะถือว่าโจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้ทำการสอบสวนก็ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณระยะเวลาจำคุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญา: ใช้ปีสุริยคติ หรือ 30 วันต่อเดือน
การคำนวณกำหนดโทษจำคุกนั้น ก.ม.ลักษณะอาญาได้บัญญัติไว้ชัดเจนแล้วว่าเมื่อคำนวณระยะเวลาเป็นปี ก็ต้องคิดเวลา 12 เดือนตามสุริยคติกาลดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 ข้อ 22 ถ้าต้องคิดระยะเวลาเป็นเดือนก็ต้องคิด 30 วันเป็นหนึ่งเดือนดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 33

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งสุกรข้ามเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานพยายาม
นำสุกรออกนอกเขตจังหวัดภาคเหนือโดยทางรถไฟ จะไปยังจังหวัดพระนครซึ่งเป็นจังหวัดภาคกลาง อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร และฝ่าฝืนประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรธิการเรื่อง กำหนดเส้นทางให้พาสัตว์ที่จะเดินทางเข้าไปในท้องที่จังหวัดภาคกลางนั้น เมื่อถูกจับในขณะที่ควบคุมสุกรขึ้นบรรทุกตู้รถไฟที่สถานีต้นทางก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนขบวนจากสถานีต้นทางเพื่อ ไปสถานีปลายทาง ก็เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 มาตรา 8, 17, พ.ร.บ.โรคระบาดปสุสัตว์และพาหนะ 2474 มาตรา 10, 16 ฐานพยายาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การหักเงินประกันผิดสัญญาจากค่าเสียหาย: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้หักเงินประกัน 3,500 บาทออกจากค่าเสียหายที่โจทก์ต้องชดใช้
คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งวางเงินประกันในการผิดสัญญาไว้แล้วเกิดผิดสัญญาขึ้น ทำให้อีกฝ่ายหนึงเสียหายเมื่อฝ่ายนั้นจะริบเงินที่วางประกัน ก็ต้องหักเงินจำนวนที่ริบไว้จากค่าเสียหายที่จะให้ฝ่ายผิดสัญญาใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสที่ขัดแย้งกับคู่สมรสเดิม แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็มีผลตามกฎหมาย
ชายหญิงเป็นสามีภริยากันตั้งแต่ก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 ตลอดมาจนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 แล้ว แม้จะมิได้จทะเบียนสมรสก็นับว่าชายหญิงนั้นเป็นคู่สมรสกันตาม ก.ม.ฉะนั้นชายจึงไม่มีสิทธิจะทำการสมรสกับหญิงอื่นอีก เพราะตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1445(3) บัญญัติห้ามมิให้ชายหญิงทำการสมรสเมื่อยังเป็นคู่สมรสของบุคคลอื่นอยู่ ภริยาเดิมขอให้เพิกถอนทะเบียนสมรสที่ชายไปจดใหม่นั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย: การฟ้องให้บังคับตามสัญญาต้องพิสูจน์การตกลงกันแล้ว ไม่ใช่แค่ขอให้ศาลแสดงว่ามีสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าได้เสนอขายสิ่งของแก่จำเลย ๆ ได้สนองรับซื้อสิ่งของนั้น ตามคำเสนอของโจทก์แล้วแต่ต่อมาบิดพริ้วไม่ยอมทำสัญญาซื้อขายสิ่งของนั้นกับโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสีย หาย จึงขอให้ศาลแสดงว่าการกระทำระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาจะซื้อขายมีผลผูกพันและบังคับได้ตามกฎหมาย ดังนี้ยังไม่เป็นเหตุผลที่โจทก์จะต้องมาขอใช้สิทธิทางศาลตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 55 เพราะเป็นเรื่องที่ขอให้แสดงว่าได้มีการตกลงจะทำสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยหรือไม่เท่านั้น ถ้าโจทก์ยืนยันว่าได้มีการตกลงกับจำเลยแล้ว และจำเลยกระทำผิดข้อตกลงอย่างใด โจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวในทางนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้จึงยังไม่เป็นมูลกรณีที่จะพึงฟ้องร้องกลับ
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1257/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเก็บรักษาเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ
กระทรวงพาณิชย์ส่งผ้ามาให้ข้าหลวงประจำจังหวัดเพื่อขายแก่ชาวนา ข้าหลวงประจำจังหวัดมอบให้อำเภอเป็นผู้ขาย นายอำเภอจึงแต่งตั้งปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่อื่นเป็นกรรมการขายผ้าดังนี้เมื่อปลัดอำเภอผู้ได้รับการแต่งตั้งทำผิดหน้าที่ จนเกิดการเสียหายขึ้น กระทรวงพาณิชย์ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากปลัดอำเภอผู้นั้นได้
การขายผ้ามีระเบียบว่า เงินได้จากการขายให้ส่งต่อคณะกรรมการอำเภอรวมรวมส่งคณะกรรมการจังหวัดเป็นการด่วน ถ้าวันใดได้เงินที่ได้รับมีจำนวนถึงหมื่นบาท ให้คณะกรรมการอำเภอรีบส่งเงินแก่จังหวัดเสียคราวหนึ่งก่อน ห้ามมิให้เก็บเงินที่ได้จากการขายผ้าไว้ที่อำเภอเกินกว่าจำนวนหมื่นบาท ดังนี้เมื่อปลัดอำเภอขายผ้าได้เงินเกินหมื่นบาท แล้วไม่นำส่งจังหวัดกลับเอาไปเก็บไว้ในเซฟของอำเภอ จนมีผู้ร้ายไขเชฟลักเงินจำนวนนี้ไป ต้องถือว่าปลัดอำเภอผู้นั้นมิได้ปฏิบัติตามระเบียบโดยตรง และต้องรับผิดใช้เงินจำนวนนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมในหนี้สินของสามีที่ก่อขึ้นระหว่างสมรส เว้นแต่เป็นหนี้ร่วม
หนี้สินที่จำเลยผู้เป็นสามีก่อขึ้นในระหว่างที่จำเลยกับผู้ร้องยังเป็นสามีภริยากันอยู่เมื่อใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 แล้วนั้นผู้ซึ่งเป็นภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่นั้นได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 1045/1484 วินิจฉัยไว้เป็นแบบอย่างไว้แล้วว่าภริยาไม่ต้องรับผิดร่วมด้วยเว้นแต่หนี้นั้นจะเป็นหนี้ร่วม
of 219