พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้หลงลืมต่ออายุใบอนุญาต ก็ยังคงมีความผิดตามกฎหมาย
ฟ้องมีข้อหาว่าจำเลยประกอบการค้าข้าว ทำการสีข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน จำเลยให้การรับว่าจำเลยสีข้าวทั้ง 5 ครั้งโดยไม่มีใบอนุญาต จำเลยจึงต้องมีความผิดตามมาตรา 18 ข้อที่จำเลยว่าจำเลยหลงลืมในการขอต่ออายุใบอนุญาตนั้นจะจริงก็ไม่ทำให้พ้นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาฆ่าหรือไม่ และฐานความผิดที่เหมาะสม
เดินสวนทางกันในเวลามีด พอสวนกันก็ใช้มีดปลายแหลมแทงเขา 1 ที ถูกที่ท้องเหนือสะดือ แผลกว้าง 1 ซ.ม. ยาว 2.7 ซ.ม. ลึกเข้าช่องท้องทะลุลำใส้ อยู่ได้ 3 วัน ก็ตายเพราะพิษบาดแผลนั้นโดยไม่ปรากฎว่มีสาเหตุอะไรกันนั้น ยังไม่มั่นคงพอจะให้ชี้ขาดได้ว่า ผู้แทงได้เจตนาถึงแก่จะฆ่าให้ตาย คงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายสุราเถื่อน การฟ้องต้องระบุว่ามีการขายหรือตั้งใจขาย จึงจะมีความผิด
ฟ้องข้อให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 มาตรา 35 นั้น ถ้าไม่บรรยายไว้ด้วยว่าสุราที่เจ้าของร้านซื้อจากผู้ไม่มีอำนาจขายนั้น เจ้าของร้านสุราได้ขายหรือตั้งไว้ขายแล้ว แม้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้านรับสารภาพ ก็ยังไม่เป็นความผิดตามกฎหมายที่กล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับขนส่งข้าวสารของทางราชการ
ข้าหลวงประจำจังหวัด+นามประชาชนคณะกรมการจังหวัด โดยหน้าที่ราชการเป็นผู้อำนวยการและจัดการควบคุมดูแลและรับผิดชอบการขนส่งและการจำหน่ายข้าวสารปัน ส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับขนส่งข้าวสารปันส่วนของทางราชการจังหวัดนั้น เมื่อผู้รับขนส่งประมาทเลินเล่อทำให้ข้าวสารของทางราชการนั้นเสียหายไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีของโจทก์และการดำเนินการพิจารณาต่อไปตามกฎหมาย
การที่โจทก์ซึ่งรับเป็นฝ่ายสืบก่อนได้ขอเลื่อนวันสืบพะยานโจทก์มาถึง 2 นัดแล้ว นัดที่ 3 โจทก์ขอเลื่อนอีก โดยอ้างว่ากำลังทำความปรองดองกับจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง และพยานโจทก์ไม่มีมาศาลทั้งโจทก์กลับสั่งห้ามไม่ให้พะยานโจทก์ที่รับหมายแล้วมาศาลดังนี้ได้ชื่อว่าโจทก์ประวิง คดีให้ชักช้าตาม ม.86 วิ.แพ่ง
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพะยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพะยานจำเลยถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่าโจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตาม ม. 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพะยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม ม. 205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย ม. 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพะยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพะยานจำเลยถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่าโจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตาม ม. 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพะยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม ม. 205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย ม. 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างพิจารณาคดี: ใช้กฎหมายใหม่ที่มีโทษเบากว่า
ในระหวางพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ประกาศออกใช้เป็นกฎหมายแล้วโดยยกเลิก พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 และ พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา 32 ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 8 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมงในบ่อส่วนตัวที่ไม่ใช่บ่อล่อสัตว์น้ำจากแหล่งสาธารณะ ไม่ต้องขออนุญาต
ทำการวิดน้ำจับปลาในบ่อ ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนเองเมื่อบ่อนั้นไม่ใช่เป็นบ่อที่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นบ่อสัตว์น้ำดังที่ บัญญัติไว้ในกฎกระทรวงฉะบับที่ 6 พ.ศ. 2490 ข้อ 1 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.การประมง 2490
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101-1102/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเข้าใจผิดเรื่องทางสาธารณะและการกระทำโดยไม่มีเจตนาชั่วร้าย ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
ทำลายคันนาของเขาแล้วพาเกวียนเดินไปตามทางในนาของเขาโดยเชื่อว่าเป็นที่สาธารณะโดยทางอำเภอได้ขอ อนุญาตเจ้าของที่นา และได้มีการประชุมยินยอมทำทางนี้เพื่อให้เกวียนเดินสดวก เช่นนี้ถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาชั่วร้ายในการกระทำ จะเอาผิดแก่จำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์: สิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์ต้องมั่นคงถาวร จึงจะถือเป็นเหตุฉกรรจ์
การลักสิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์อันเป็นเหตุฉกรรจ์อย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้โทษหนักขึ้นตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 293(5) นั้นต้องเป็นสิ่งที่ใช้บรรจุทรัพย์เพื่อเก็บรักษาไว้อย่างมั่นคงตามปกติย่อมยากแก่การที่จะพาไป เช่น ตู้หรือกำปั่นเหล็ก เพียงแต่เป็นกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าเสื่อ หาได้อยู่ในความหมายแห่งข้อนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุเด็กในคดีอาญา: การนับอายุ 16 ปีบริบูรณ์ตามกฎหมายลักษณะอาญา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าจำเลยเป็นเด็กอายุยังไม่เต็ม 16 ปีบริบูรณ์
โจทก์ฎีกาว่า ศาลล่างทั้งสองใช้วิธีนับอายุจำเลยยังไม่ถูก ต้องนำมาตรา 16 แห่งป.ม.แพ่งฯ มาใช้จึงจะถูก ดังนี้ถือว่าโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างจำเลยมีอายุไม่เต็ม 16 ปี
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีอาญาซึ่งมีอายุ 16 ปี ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานมาแล้วว่า ต้องนับอายุ 16 ปีบริบูรณ์ตามนัยฎีกาที่ 1738/2492 จะนับตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 16 หาได้ไม่
โจทก์ฎีกาว่า ศาลล่างทั้งสองใช้วิธีนับอายุจำเลยยังไม่ถูก ต้องนำมาตรา 16 แห่งป.ม.แพ่งฯ มาใช้จึงจะถูก ดังนี้ถือว่าโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างจำเลยมีอายุไม่เต็ม 16 ปี
การที่จะลงโทษจำเลยในคดีอาญาซึ่งมีอายุ 16 ปี ศาลฎีกาได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานมาแล้วว่า ต้องนับอายุ 16 ปีบริบูรณ์ตามนัยฎีกาที่ 1738/2492 จะนับตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 16 หาได้ไม่