คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ธรรมบัณฑิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,185 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเลือกที่อยู่ของสามีและผลต่อการฟ้องหย่า
การเลือกที่อยู่ตามกฎหมายสามีเป็นผู้เลือก
สามีเลือกที่อยู่โดยจะไปอยู่กินที่บ้านของบิดามารดาของสามี ภรรยาไม่ยอมไปเอง ดังนี้ภรรยาจะมาฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา ย่อมไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของพินัยกรรม: การลงวันเดือนปีและการรับรองของเจ้าพนักงาน
พินัยกรรม์เอกสารฝ่ายเมือง มีวันเดือนปีเขียนอยู่ตอนต้น ปลัดอำเภอผู้เขียนได้ลงนามแสดงเป็นผู้เขียนในตำแหน่งปลัดอำเภอในตอนท้าย และอ่านข้อความให้ฟังแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงวันเดือนปีซ้ำอีก พินัยกรรม์ย่อมสมบูรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำรุดทรุดโทรมของห้องเช่าตามอายุการใช้งาน และความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
คดีมโนสาเร่ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่แจ้งปริมาณข้าวสารเกินเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้ต้องริบข้าวสารทั้งหมด
จำเลยมีข้าวสาร 180 กิโลกรัม โดยไม่แจ้งปริมาณข้าวสารทั้งหมดเป็นจำนวนที่ต้องแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ เมื่อจำเลยไม่แจ้ง ก็ต้องเป็นความผิดทั้งหมด ต้องริบข้าวสารทั้งหมด จะแยกเป็นส่วนไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1066/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าเช่าและการพิสูจน์การผิดนัดสัญญาเช่า การยื่นคำร้องให้อำเภอเรียกรับเงินค่าเช่าไม่ถือเป็นการชำระค่าเช่าโดยเด็ดขาด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องของโจทก์ และค้างค่าเช่า 4 เดือน ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเช่าที่ค้าง จำเลยให้การว่า โจทก์ขอขึ้นค่าเช่า จำเลยไม่ยอม โจทก์เลยไม่มาเก็บ จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อกรมการอำเภอ ขอให้เรียกโจทก์มารับค่าเช่า โจทก์รับหมายแล้วไม่มาอำเภอ ดังนี้ คดียังไม่พอชี้ขาดว่าฝ่ายใดผิดนัด เพราะการที่จำเลยไปยื่นคำร้องขอให้อำเภอเรียกโจทก์มารับชำระค่าเช่านั้น ไม่เป็นเหตุพอให้ถือได้โดยเด็ดขาดว่าจำเลยได้ชำระค่าเช่าแก่โจทก์ คดีต้องฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ความผิดฟ้องแจ้งความเท็จ/พยานเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนครบถ้วน ศาลไม่รับฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในชั้นฎีกา
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าความจริงของเรื่องมีอย่างไร โจทก์จะมากล่าวเสนอความจริงในชั้นฎีกาว่าความจริงของเรื่องที่โจทก์ฟ้องเป็นอย่างไรนั้น ศาลรับฟังไม่ได้.
แม้ศาลจะได้ประทับฟ้องของโจทก์และเรียกจำเลยแก้คดีแล้วก็ตามเมื่อความจริงในที่สุดปรากฏว่าฟ้องขาดองค์ความผิด ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมือเปล่าโดยตัวแทนและการครอบครองปรปักษ์
จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าร่วมกับ อ. จำเลยได้เชิด อ.เป็นตัวแทนให้ฟ้องคดีและขายนารายนี้ให้แก่โจทก์ และจำเลยปล่อยให้โจทก์ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิในที่ดินนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เรือเป็นพาหนะในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจริบได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายกรณี
จำเลยใช้เรือไปทำการลักอ้อยและบันทุกอ้อย จึงถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เรือนี้ในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจริบเรือได้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 27 แต่รูปคดีนี้ยังไม่สมควรสั่งให้ริบเรือ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้โดยไม่ระบุส่วนได้ส่วนเสีย สันนิษฐานเป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนเจตนาเป็นเจ้าของต้องพิสูจน์
บิดายกที่ดินรายพิพาทให้แก่นางนิตย์โจทก์และจำเลย ต่อมามีการรังวัดขอรับโฉนด การที่นางนิตย์โจทก์ใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของร่วมเฉยๆ โดยไม่แบ่งส่วนไว้ ต้องสันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากัน (ม.1357)
โจทก์อ้างว่านาเป็นของโจทก์มากกว่าครึ่ง คือเท่าที่โจทก์ครอบครองอยู่เวลานี้ จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบนาให้โจทก์ไว้ทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้การที่โจทก์ทำนารายพิพาทไม่เป็นเหตุให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์จำเป็นต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของตาม ม.1382ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้อเจตนาเป็นเจ้าของนี้โจทก์นำสืบไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาที่นาทั้งหมดตามที่ครอบครองอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมในที่ดิน การสันนิษฐานตามมาตรา 1357 และเจตนาเป็นเจ้าของตามมาตรา 1362
บิดายกที่ดินรายพิพาทให้แก่นางนิตย์โจทก์และจำเลย ต่อมามีการรังวัดขอรับโฉนด การที่นางนิตย์โจทก์ใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของร่วมเฉย ๆ โดยไม่แบ่งส่วนไว้ ต้องสันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากัน (ม 1357)
โจทก์อ้างว่านาเป็นของโจทก์มากกว่าครึ่ง คือเท่าที่โจทก์ครอบครองอยู่เวลานี้ จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบนาให้โจทก์ไว้ทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ การที่โจทก์ทำนารายพิพาทไม่เป็นเหตุให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ โจทก์จำเป็นต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของตามมาตรา 1362 ป.พ.พ. ข้อเจตนาเป็นเจ้าของนี้โจทก์นำสืบไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาที่นาทั้งหมดตามที่ครอบครองอยู่.
of 219